สำนวนและสุภาษิตจีน
ฝนทั่งให้กลายเป็นเข็ม 铁杵成针 (Tiě chǔ chéng zhēn)
ที่มาของภาพ : http://www.thaimtb.com/webboard/432/216064-26.jpg
唐朝著名大诗人李白小时候不喜欢念书,常常逃学,到街上去闲逛。 一天,李白又没有去上学,在街上东溜溜、西看看,不知不觉到了城外。暖和的阳光、欢快的小鸟、随风摇摆的花草使李白感叹不已, “这么好的天气,如果整天在屋里读书多没意思?”
走着走着,在一个破茅屋门口,坐着一个满头白发的老婆婆,正在磨一根棍子般粗的铁杵。李白走过去,“老婆婆,您在做什么?”
“我要把这根铁杵磨成一个绣花针。”老婆婆抬起头,对李白笑了笑,接着又低下头继续磨着。
“绣花针?”李白又问:“是缝衣服用的绣花针吗?”
“当然!”
“可是,铁杵这么粗,什么时候能磨成细细的绣花针呢?”
老婆婆反问李白:“滴水可以穿石,愚公可以移山,铁杵为什么不能磨成绣花针呢?”
“可是,您的年纪这么大了?”
“只要我下的功夫比别人深,没有做不到的事情。”
老婆婆的一番话,令李白很惭愧,于是回去之后,再没有逃过学。每天的学习也特别用功,终于成了名垂千古的诗仙。
Táng cháo zhùmíng dà shīrén libái xiǎoshíhou bù xǐhuan niànshū, chángcháng táoxué, dào jiē shàngqù xiánguàng.
Yītiān, libái yòu méiyǒu qù shàngxué, zài jiē shàng dōng liūliū, xi kàn kàn, bùzhī bù jué dàole chéng wài. Nuǎnhuo de yángguāng, huānkuài de xiǎo niǎo, suí fēng yáobǎi de huācǎo shǐ libái gǎntàn bùyǐ,“zhème hǎo de tiānqì. Rúguǒ zhěng tiān zài wū li dúshū duō méiyìsi?“.
Zǒu zhe zǒu zhe, zài yīgè pò máowū ménkǒu, zuò zhe yīgè mǎn tóu bái fà de lǎopópo, zhèngzài mó yī gēn gùnzi bān cū de tiě chǔ. Libái zǒu guòqù,“lǎopópo, nín zài zuò shénme?”.
“Wǒ yào bǎ zhè gēn tiě chǔ mó chéng yīgè xiùhuā zhēn.” Lǎopópo tái qǐtóu, duì libái xiào le xiào, jiēzhe yòu dīxià tou jìxù mó zhe.
“Xiùhuā zhēn?” Libái yòu wèn:“Shì fèng yīfú yòng de xiùhuā zhēn ma?”.
“Dāngrán!”.
“Kěshì, tiě chǔ zhème cū, shénme shíhou néng mó chéng xì xì de xiùhuā zhēn ne?”.
Lǎopópo fǎnwèn libái:“Dīshuǐ kěyǐ chuān shí, yú gōng kěyǐ yí shān, tiě chǔ wèishéme bùnéng mó chéng xiùhuā zhēn ne?”.
“Kěshì, nín de niánjì zhème dà le?”.
“Zhǐyào wǒ xià de gōngfu bǐ biérén shēn, méiyǒu zuò bù dào de shìqíng.”.
Lǎopópo de yī fān huà, lìng libái hěn cánkuì, yúshì huíqù zhīhòu, zài méiyǒu táo guò xué. Měi tiān de xuéxí yě tèbié yònggōng, zhōngyú chéng le míngchuíqiāngǔ de shī xian.
หลี่ไป๋เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยราชวงศ์ถังของจีนเล่ากันว่า สมัยที่ยังเป็นเด็กหลี่ไป๋เป็นคนซุกซนมากและไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ
วันหนึ่ง หลี่ไป๋อ่านหนังสืออยู่ในบ้าน แต่ไม่ว่าจะท่องอย่างไรก็จำบทเรียนไม่ขึ้นใจเสียที เขาหมดความอดทนจึงวางหนังสือลงแล้ววิ่งออกไปเล่นนอกบ้าน
หลี่ไป๋เดินไปถึงริมแม่น้ำ มองเห็นหญิงชรานางหนึ่งกำลังทำท่าทางถูอะไรบางอย่างอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆและก็ต้องประหลาดใจ ที่แท้หญิงชรานางนั้นกำลังใช้เหล็กท่อนหนึ่งฝนกับก้อนหิน
“คุณยายฝนเหล็กไปทำไม?”
“ยายจะฝนเหล็กท่อนนี้เป็นเข็มปักดอกไม้ให้ลูกสาว” หญิงชราตอบพลางก้มหน้าก้มตาฝน
“อะไรนะ!” หลี่ไป๋ฟังแล้วยิ่งรู้สึกงง จึงถามต่อไปอีกว่า
“เหล็กท่อนใหญ่ขนาดนั้นจะฝนให้กลายเป็นเข็มปักดอกไม้ได้อย่างไร?”
หญิงชราจึงตอบอย่างขึงขังว่า “เด็กน้อย เจ้าอย่าเห็นว่านี่เป็นเหล็กท่อนใหญ่ ถ้ายายฝนมันทุกวัน มันก็จะค่อยๆบางลง และในที่สุดมันก็จะถูกฝนจนกระทั่งกลายเป็นเข็ม”
หลี่ไป๋รู้สึกว่าหญิงชราพูดถูก คำพูดดังกล่าวทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจจึงโค้งคำนับหญิงชราแล้วรีบวิ่งกลับบ้าน
เมื่อหลี่ไป๋กลับถึงบ้านก็รีบหยิบหนังสือที่เพิ่งวางลงเมื่อสักครู่ขึ้นมาท่อง รอบแล้วรอบเล่า ค่อยๆจดจำไปทีละบททีละตอน และในที่สุดก็สามารถท่องจำขึ้นใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว นับแต่นั้นมา หลี่ไป๋ก็ไม่เล่นซุกซน เขาตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือด้วยความมานะบากบั่น และกลายเป็นกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา
ต่อมา สำนวน ‘ฝนทั่งให้กลายเป็นเข็ม’ ก็นำมาใช้ในการอุปมาว่า งานทุกอย่างไม่ว่าจะยากลำบากหรอมีอุปสรรคมากแค่ไหนก็ล้วนแต่สำเร็จลงได้ด้วยความอดทนและมานะพยายาม