ขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่าย
http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:PDrjBA6qZIS0EM
ขึ้นฉ่าย
สรรพคุณ
- ขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์เย็น รสหวานอมขม และ มีสารลิโมนีน สารซีลินีน และสารฟทาไลเดส ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของขึ้นฉ่าย สาร 2 ตัวนี้จะกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร
- ขึ้นฉ่ายอุดมด้วยสารโพแทสเซียม ซึ่งช่วยปรับระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ ช่วยให้ไตทำงานได้อย่างเต็มที่ และยังเร่งกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
- ขึ้นฉ่ายมีสาร 3เอ็น-บิวทิลฟทาไลด์ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท และช่วยลดความดันเลือด
- ขึ้นฉ่ายมีสารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดจากโรคเกาต์ ซึ่งมีสาเหตุจากผลึกยูริกไปเกาะอยู่ตามข้อ
- เมล็ดขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท
- ขึ้นฉ่ายมีแคลอรีต่ำมาก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- เบตาแคโรทีนในขึ้นฉ่าย ช่วยป้องกันมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด
วิธีใช้
- นำเมล็ดขึ้นฉ่ายมาชงน้ำดื่ม ลดอาการอักเสบของข้อเนื่องจากโรคเกาต์
- ผัดขึ้นฉ่ายใส่ไตหมู กินบำรุงตับและไต
- ดื่มน้ำขึ้นฉ่ายคั้นสดๆผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน ปวดหัวและปวดไหล่ซึ่งเกิดจากความดันโลหิตสูง และหากดื่มครั้งละ 40 มิลลิลิตร วันละ 3 เวลา จะช่วยบรรเทาโรคความดันโลหิตสูง
- ต้มรากขึ้นฉ่าย 10 รากกับพุทราจีน 10 ผล ดื่มน้ำที่ได้จากการต้มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ดื่ม 5-10 วัน จะช่วยบำรุงตับ ลดความดันโลหิตและลดคอเลสเตอรอล
- คั้นน้ำขึ้นฉ่ายดื่มสดๆ เพื่อแก้ไอและลดเสมหะ
- ต้มขึ้นฉ่าย 250 กรัม ดื่มเฉพาะน้ำเพื่อรักษาอาการตกขาว หรือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ข้อควรระวัง
- ขึ้นฉ่ายมีไนเทรตสูง เมื่อทำปฏิกิริยากับสารเอมีนในเนื้อสัตว์ในลำไส้ จะทำให้เกิดเป็นไนโทรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัด แต่การกินขึ้นฉ่ายในปริมาณมากๆก็ควรต้องระวัง
- น้ำมันที่พบในขึ้นฉ่ายมีสารลิโมนีน ซึ่งอาจสัมผัสโดนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางราย
- ผู้ที่ท้องเดินเรื้อรัง ไม่ควรกินขึ้นฉ่ายมาก
เบญจมาศหนู หรือ เบญจมาศสวน (เก๊กฮวย)
ฟักเขียว