แต่งงานชั่วคราว
แต่งงานชั่วคราว
บรรดาประเทศไม่ว่าบ้านไหนเมืองไหน คงจะต้องมีหญิงชายที่ทำความตกลงซึ่งกันและกัน ซึ่งถ้าจะเรียกกันอย่างสุภาพก็เรียกได้ว่า "การแต่งงานโดยธรรมดาโลก" ซึ่งแปลว่าหญิงชายทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะอยู่กินด้วยกันในระหว่างเวลาอันไม่มีกำหนด และจะเลิกกันก็ด้วยความยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย การแต่งงานชนิดนี้เป็นของธรรมดาที่สุด เพราะอาศัยความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั้นเป็นมูล และเป็นวิธีที่ใช้อยู่ในหมู่สุนัขและเดียรัจฉานทั้งปวงด้วย ถ้าจะพูดกันโดยนัยแห่งลัทธิการแต่งงานชนิดนี้ก็ดีอยู่บ้าง คือ ในการมาอยู่ด้วยกันก็ดี หรือในการเลิกกันก็ดี ย่อมอาศัยความยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายนั้นประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งก็คือความสะดวก แต่ถ้าจะว่ากันตามที่เป็นจริงแล้ว การแต่งงานชนิดนี้เป็นการสะดวกจริงหรือ? เปล่าเลย! เหมือนสิ่งทั้งหลายมันไม่ง่ายเท่าที่เห็นดอก ก็เพราะเหตุใด?
ข้อ ๑ ว่าถึงการยินยอมพร้อมใจกันในการอยู่ด้วยกัน แต่เดิมมาข้าพเจ้าไม่สงสัยเลยว่า การคงเป็นดังเช่นว่า แต่บัดนี้เป็นเช่นนั้นหรือ? ก็จำต้องตอบว่า หาได้เป็นเช่นนั้นเสมอไม่ เพราะในสมัยนี้มีหญิงสาวเป็นอันมาก ที่บิดามารดาขายเอาเงินใส่กระเป๋าและส่งตัวลูกสาวให้แก่ชายผู้ซื้อ โดยมิได้ไต่ถามความเห็นของหญิงนั้นเลย ความเห็นของหญิงนั้นไม่เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าเมื่อได้อยู่กินกับชายแล้วก็จำเป็นต้องรักชายอยู่เอง นี้เป็นข้อแก้ตัวของฝ่ายบิดามารดาถ้าหากว่าจะคิดแก้ ส่วนหญิงนั้นเล่าเป็นอย่างไร? บางทีเขาก็รักสามีที่เขาอยู่กินด้วย แต่บางทีถ้าเขาไม่รักตามที่มีตัวอย่างอยู่เนืองๆ หญิงนั้นก็เท่ากับตกนรกทั้งเป็นทีเดียว แต่เขาจะร้องทุกข์ก็หามิได้และถึงจะร้องก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาได้ถูกมัดรัดไว้กับชายอย่างแน่นหนา ไม่น้อยกว่าที่ทำพิธีแต่งงานอย่างพิสดารที่สุด
ข้อ ๒ ว่าถึงการยินยอมพร้อมใจกันในเวลาหย่าเลิกจากกัน ในข้อนี้ฝ่ายชายก็เกือบจะเลือกทำได้ตามอำเภอใจทุกอย่าง คือเมื่อชายรู้สึกเบื่อหน่ายหญิงที่อยู่ด้วยขึ้นมาเวลาใด ก็ขับไล่ไปเสียให้พ้นได้ บางทีก็ยอมให้เอาสมบัติไป บางทีก็ไม่ให้โดยไม่ต้องไต่ถามความเห็นของหญิงเลย ถ้าชายเป็นคนที่มีใจกรุณาหน่อย ก็ไม่ถึงกับขับไล่ให้หญิงไปเสียจากบ้าน เป็นแต่เขาก็มีเมียใหม่ แล้วมอบห้องและเครื่องใช้เครื่องแต่งตัวเสื้อผ้าของหญิงที่เขาสิ้นรักนั้น เป็นสมบัติของแม่เมียคนใหม่ ส่วนเมียคนเก่านั้นถ้าเป็นหญิงที่รู้สึกนับถือตัวอยู่ก็ต้องเก็บข้าวของไปจากบ้าน ฝ่ายชายถ้ายังจำได้ก็ส่งหนังสือตลกตามไปให้ภายหลังฉบับหนึ่ง ซึ่งแสดงความเต็มใจที่จะหย่าเลิกกัน !
ข้อ ๓ ว่าถึงความสะดวกแห่งการแต่งงานตามธรรมชาติ ในข้อนี้ข้าพเจ้าบอกไม่ได้จริงๆว่า สะดวกสำหรับใคร เพราะการที่จะรู้ได้ว่าใครเป็นผัวเมียกันอย่างไรในเวลานี้นั้น ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าเป็นของง่ายเลย เหตุว่าจะหาประกาศหรือแจ้งความที่ไหนไม่ได้ และจะหาพยานอย่างอื่นใดๆ ก็ไม่มีนอกจากพยานตาเห็น ซึ่งข้าพเจ้าไม่จำเป็นจะต้องกล่าวว่าค่อนข้างจะเป็นของหายากอยู่สักหน่อย ! เวลานี้มีคดีเรื่องมรดกตกค้างอยู่ในศาลเป็นอันมาก ซึ่งทำให้ศาลต้องเสียเวลาเกินกว่าที่ควร ด้วยเหตุว่าเกือบจะเหลือวิสัยที่จะพิสูจน์ได้ว่า ผู้ขอร้องส่วนแบ่งนั้นจะเป็นภรรยาของผู้ตายหรือไม่ เพราะฉะนั้นการแต่งงานกันโดยธรรมดาโลก จึงไม่เป็นของง่ายสำหรับตุลาการศาลหลวงเลย และความยุ่งยากของกิจการแผนกนี้ ย่อมเป็นผลดีแก่พวกหมอกฎหมายทนายความเสียจริงๆ !
การแต่งงานตามที่กล่าวมานี้ จะว่าง่ายสำหรับความเป็นไปโดยปรกติทุกวันก็ไม่ได้ ต่างว่าเราจะไปพบและแสดงอัธยาศัยไมตรีต่อหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเรารู้จักว่าเป็นโสด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหญิงนั้นไม่ได้ไปเป็นเมียของชายขี้หึงอะไรคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะแสดงความไม่พอใจของเขาด้วยปืนเบรานิงก็ได้? หรือมิฉะนั้นอาจจะไปพบเพื่อนของเรา ซึ่งเรามิได้พบมา ๓-๔ อาทิตย์ เราไปถามข่าวถึงแม่มลิภรรยาของเขา และเขาตอบเน้นคำว่า แม่สายหยุด สบายดี ดังนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ในเวลาอันสั้นเท่านั้นสหายของเราได้บันดาลความเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปในครอบครัวของเขาได้ถึงปานนั้น ?
ยังมีอยู่อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้ซ้ำยุ่งยากขึ้นอีก กล่าวคือ การที่พวกหนุ่มๆ บางคนชอบพูดถึงบรรดาหญิงที่เขาได้เคยเกี่ยวมา แม้แต่ชั่วครั้งหนึ่งคราวเดียว ว่าเมียดังนี้ ข้าพเจ้าช่างรู้สึกกระดากเสียจริงๆ ในการที่ต้องถามว่า เขากล่าวถึงเมียแต่ง หรือเมียน้อย หรือเมียลับของเขา และเมื่อเขาตอบว่า เขาพูดถึงหญิงนั้นๆ ออกชื่อผู้ซึ่งเลื่องลืออยู่ว่าเป็นหญิงแพศยา หรือบางทีก็ถึงกับเป็นหญิงโคมเขียวเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้ซ้ำร้ายหนักขึ้น ! ถ้าเรามิได้มีพิธีแต่งงานของเราเลย ข้าพเจ้าก็จะไม่สู้น้อยใจในการที่ใช้ "แต่งงานกันโดยธรรมดาโลก" ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นการยุ่งยากและลามกอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าเคยได้ยินข้อแก้ตัว ในการที่ไม่แต่งงานตามพิธีไทยโบราณนั้นว่า เพราะเปลืองเงินมาก แต่ความจริงนั้นไม่จำเป็นต้องเปลืองเลย เพราะกิจที่จำเป็นมีอยู่แต่เพียงเชิญญาติ หรือมิตรผู้ใหญ่สักคนสองคน ซึ่งเป็นที่นับถือแห่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมารดน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อรดแล้วก็เป็นอันเสร็จกิจ การวิวาหมงคลยังชั้นเจ้ายังง่ายไปกว่าที่กล่าวมานี้ คือกิจที่ฝ่ายหญิงและชายจะพึงทำนั้น มีอยู่แต่เพียงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้ธูปเทียน และเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์พระราชทานแล้วก็นับว่าเป็นเสร็จพิธี ได้กระทำการวิวาหะถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ดังนี้จะว่าเปลืองที่ตรงไหน ?
อีกประการหนึ่ง ทั้งในกองทัพบกและในพระราชสำนักในเวลานี้ มีกฎข้อบังคับในเรื่องการจดทะเบียนภรรยาแล้ว และข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ถ้าสาธารณชนแสดงความปรารถนา ที่จะให้มีการจดทะเบียนภรรยาสำหรับใช้ทั่วไปแล้ว รัฐบาลก็คงจะรีบจัดการออกกฎหมายในเรื่องจดทะเบียนการแต่งงาน ซึ่งข้าพเจ้าได้ทราบว่ารัฐบาลกำลังดำริอยู่แล้ว
เพราะเหตุใดคนบางคน จึงช่างรังเกียจในการแสดงว่าตนมีภรรยาให้ปรากฏเสียจริงๆ ? เมื่อยังหาคำอธิบายในเรื่องนี้ที่ดีกว่าไม่ได้ ข้าพเจ้าก็ต้องยุติลงว่า เป็นเพราะเหตุที่คนนั้นๆ มีความประสงค์จะไม่ให้การแต่งงานของตนเป็นการแน่นอนไว้ก่อน คือถือว่าเป็นแต่การชั่วคราว ซึ่งจะเลิกเมื่อไรก็ให้เลิกได้โดยไม่ต้องยากเย็น การทำดังนี้ย่อมเป็นที่สะดวกแก่ฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิง ด้วยเหตุผลที่เห็นได้โดยง่าย เพราะชายนั้น ถึงแม้จะแต่งงานมาแล้วสักกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร จะหาหญิงสำหรับแต่งงานได้ใหม่เสมอ แต่ส่วนหญิงถ้าแต่งงานเสียครั้งหนึ่งแล้ว ก็ยากที่จะหาสามีใหม่ได้ ถ้าและมีลูกด้วยแล้วก็ยิ่งจะลำบากมากขึ้น
การแต่งงานชั่วคราวนั้น บางทีอาจจะเป็นของสะดวกสำหรับชายและหญิงได้ แต่ส่วนลูกจะว่าอย่างไร ? เหตุใดหนอ คนเราช่างไม่คิดถึงความเสียหาย ซึ่งทารกอันหาความผิดมิได้ จะต้องแบกบาปรับความชั่วร้ายแห่งบิดามารดา ? ขอให้นึกถึงความอัปยศซึ่งเด็กจะต้องรับเพราะไม่สามารถจะอธิบายได้ว่า เหตุใดบิดามารดาซึ่งยังมีชีวิตอยู่จึงมิได้อยู่เป็นสามีภรรยากัน ! การเช่นนี้ย่อมมีอยู่ทั่วไปทุกประเทศเป็นธรรมดา แต่ถ้าเป็นการปรกติซึ่งเกิดขึ้นเนืองๆ ตามที่ดูเหมือนจะเป็นอยู่ในหมู่เรามีในกรุงเทพ ฯ เป็นอาทิฉะนี้แล้ว ก็ไม่เป็นเครื่องที่จะทำให้จรรยาแห่งชาติเราดีขึ้นเลย การที่จะส่งเสริมการ "แต่งงานโดยธรรมดาโลก" นั้น ก็เท่ากับส่งเสริมการผสมอย่างสัตว์ ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นของชั่วร้ายกว่าการมีเมียหลายคน ซึ่งคนไทยสมัยใหม่ย่อมคัดค้านต่อหน้าธารกำนัล แต่ซึ่งยังทำกันอยู่ในที่แฝง ! ที่จริงข้าพเจ้าจะใคร่ยืนยันว่า เพื่อความสะดวกแห่งการมีเมียหลายคนนี้เอง คนจำพวกที่ชอบ "แต่งงานโดยธรรมดาโลก" จึงคงได้รับความอุดหนุนของคนไทยสมัยใหม่ชั้นสูงๆ อยู่
ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะพูดกับท่าน ผู้มีสติปัญญาความคิดและซึ่งความเห็นมีน้ำหนัก ท่านเห็นว่าเป็นของควรแหละหรือ ที่เมืองไทยอันเป็นประเทศที่รุ่งเรืองแล้วในหมู่ประเทศทั้งหลาย จะยังคงมีหลักแห่งสกุลวงศ์ง่อนแง่นอยู่เช่นนี้ ถ้าเราจะทำให้กิจการภายในครอบครัวของเราแน่นหนากว่าการแต่งงานชั่วคราวไม่ได้แล้ว นามสกุลใหม่ของเราจะมีประโยชน์อะไรเล่า ? เมื่อไม่มีความมั่งคงตราบใด สมบัติและเกียรติคุณแห่งสกุลวงศ์ของเราก็ไม่ปราศจากอันตรายได้ตราบนั้น ลักษณะแห่งการแต่งงานกันโดยธรรมดาโลกนั้นย่อมขัดกับทางจรรยา ข้อนี้ย่อมปรากฏแก่คนทั้งปวง เพราะเหตุเป็นเครื่องบำรุงความชั่วร้ายหลายอย่าง มีการร่วมประเพณีปนเปและการทำชู้เป็นต้น ทั้งเปิดประตูให้แก่หญิงแพศยาได้เข้ามาในสมาคมแห่งหญิงผู้ดี และให้โอกาสแก่หญิงเถื่อนเหล่านี้มาล่อลวงชายหนุ่มๆ ที่จะเป็นคนดีให้ฉิบหายขายตนไปมากแล้ว
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวกับหนังสือพิมพ์