มารู้จักกับเรื่องราวของวรรณคดี
บุษบา
บุษบา เจ้าหญิงผู้เลอโฉมแห่งเมืองดาหา ความงามของนางถูกบรรยายไว้หลายตอนดังเช่น
จึงประสูติพระธิดายาใจ
งามวิไลล้ำเลิศเพริศพราย
อันอัศจรรย์ที่บันดาด
ก็อันตรธานสูญหาย
ยังกลิ่นหอมรวยชวยชาย
จึงถวายพระนามตามเหตุนั้น
ชื่อระเด่นบุษบาหนึ่งหรัด
ลออเอี่ยมเทียมทัดนางสวรรค์
นางในธรณีไม่มีทัน
ผิวพรรณผุดผ่องดังทองทา
ความงามของนางถึงขั้นน่าอัศจรรย์ เพราะผู้ที่ได้เห็น จะตะลึงจนลืมตัวหรือถึงกลับสลบสิ้นสติไปเลย แต่ชีวิตของนางก็ไม่ราบรื่นเท่าไรนัก เริ่มจากถูกอิเหนาที่เป็นคู่หมั้นถูกปฏิเสธที่จะแต่งงานด้วย ท้าวดาหา(พระบิดาของบุษบา)โกรธมาก ประกาศจะยกนางให้ใครก็ได้ที่มาสู่ขอเป็นรายแรก จรการะตูเมืองเล็ก ทั้งรูปร่างหน้าตาก็แสนอัปลักษณ์ ซึ่งยังเป็นโสด ได้ใช้ช่างวาดวาดรูปหญิงงาม เพื่อไว้ประกอบการคัดเลือกประไหมสุหรี ช่างวาดได้แอบวาดภาพบุษบาไปสองภาพ ก็รีบนำภาพกลับไปให้จรกาดู แต่องค์ปะตาระกาหลา เทวดาที่เป็นต้นวงศ์เทวา ได้ลักภาพไปแผ่นนึง แล้วหลอกล่อให้วิยาสะกำ โอรสท้าวกะมังกุหนิงไปพบเข้า แค่เห็นรูป วิหยาสะกำก็ถึงกลับสลบหลงรักบุษบาอย่างถอนใจไม่ขึ้น จรกาก็มีอาการดุจเดียวกัน เพราะพอช่างภาพถวายรูปบุษบา ก็ตื่นเต้นจนสิ้นสติ
ท้าวดาหาจนใจจำต้องยกบุษบาให้แก่จรกา เมื่อท้าวล่าสำส่งสาสน์มาสู่ขอให้น้อง เพราะวาจาที่ท้าวดาหาเคยลั่นไว้เองเป็นเหตุ ดังนั้น พอท้าวกะมังกุหนิงส่งทูตมาขอบุษบา ในเวลาต่อมา ท้าวดาหาจึงปฏิเสธ ทำให้ท้าวกะมังกุหนิงยกทัพมาล้อมเมืองดาหา ก่อสงครามชิงนางบุษบาขึ้น ท้าวดาหาให้ทูตไปส่งข่าวสงครามกับเมืองพี่เมืองน้องและจรกาด้วย ท้าวกุเรปันจึงมีสาสน์ไปสั่งอิเหนาที่อยู่เมืองหมันยา ให้รีบยกทัพไปช่วยดาหารบ ไม่งั้นจะตัดพ่อตัดลูกกัน อิเหนาหมดโอกาสบ่ายเบี่ยง ต้องไปช่วยเมืองดาหารบพอรบชนะ ก็อยากกับเมืองหมันหยาเพราะคิดถึงจินตะหรา แต่ความตั้งใจต้องมีอันเปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นบุษบาตะลึงต่อความงามของนางจนสติตังไม่อยู่กับตัว เผลอร้องเพลงเกี้ยวพาราสีนางต่อหน้าใครๆ สังครามาระตาที่คอยเสด็จต้องสะกิดเตือน หลังจากได้พบบุษบา อิเหนาก็มีอาการคลั่งรักขึ้นสมอง คิดแต่หาวิธีที่จะได้บุษบามาครอบครอง จนกระทั่งงานอภิเษกของบุษบา อิเหนาก็ขออนุยาตท้าวกุเรปันกับท้าวดาหาออกไปประทับแรมในป่า อิเหนาก็ยกทัพออกป่า ทำทีว่าเที่ยวล่าสัตว์อยู่ในป่า แล้ววกเข้าเมืองดาหาพร้อมทั้งจุดไฟเผาโรงมโหรสพต่างๆที่กำลังเล่นฉลองพิธีอภิเษก เพื่อความสนใจของทุกคน อิเหนาได้ฉวยโอกาสที่ชุลมุนปลอมตัวเป็นจรกาอ้างว่าท้าวดาหาให้มารับบุษบา ลักพาตัวนางออกจากเมืองดาหา แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกสงสัยอิเหนาจึงเข้าเมืองดาหาอีกครั้ง เพื่อเข้าเฝ้าท้าวกุเรปันและท้าวดาหา ทำเป็นว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการหายไปของบุษบา ทั้งยังอาสาออกติดตามด้วย ท้าวดาหานั้นแทบมั่นพระทัยเลยว่า คนทำเรื่องคืออิเหนา ส่วนท้าวกุเรปันก็พลอยเห็นชอบกับการกระทำของโอรส หลังจากบุษบาเป็นชายาของอิเหนาโดยพฤตินัยแล้วนางก็มีความจงรักพักดีต่ออิเหนาอย่างจริงจัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม้แต่หน้าของเขาแทบจะไม่มองด้วยซ้ำ นางรอคอยอิเหนาอยู่ที่ถ้ำอย่างกระวนกระวายใจ พอตกเย็นก็ขึ้นรถไปคอยอิเหนาที่สวน ตอนนี้องค์ปะตาระกาหลาซึ่งอยู่บนสวรรค์เกิดนึกไม่พอพระทัยความโอหังของอิเหนา ต้องการจะทรมานอิเหนาให้อิเหนารู้สึกเสียใจ จึงทำให้เกิดพายุใหญ่ พัดเอารถทรงของบุษบาไปจนถึงป่าใกล้เมืองประมอตัน พออิเหนารู้ว่าบุษบาหาย จึงเสียอกเสียใจคร่ำครวญอยู่ยกใหญุ่ แล้วรีบออกติดตามหาในคราบโจรป่าปันหยี ส่วนบุษบาที่ถูกลมหอบไปนั้น องค์ปะตาระกาหลาทรงปรากฎให้เห็น แล้วสั่งให้นางปลอมตัวเป็นชาย ให้ชื่อใหม่ว่า อุณากรรณ ได้เป็นบุตรบุญธรรมของท้าวประมอตัน อยู่ในเมืองประมอตันพักหนึ่งก่อนที่จะเร่ร่อนตามหาอิเหนา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนางก็มีจิตใจอ่อนไหวของผู้หญิงอย่างเต็มเปี่ยม หลักชัยของนางคือการฝากอนาคตไว้กลับอิเหนา และก็เป็นคำสาบขององค์ปะตาระกาหลาทำให้นางแม้พบกลับอิเหนาหลายหนแต่จำกันไม่ได้ จนในที่สุดนางต้องหนีไปบวชชี ต่อมาประสันตาพี่เลี้ยงของอิเหนามาพบเข้า ได้กลับมาบอกต่ออิเหนาว่านางชีสวยงามมาก ทำให้อิเหนาไปหลอกนางมาเมืองกาหลังอีกครั้งและสงสัยว่านางคือ บุษบา จึงออกอุบายตั้งโรงหนังตะลุงตรงกับหน้าต่างตำหนักนาง เล่นเรื่องตั้งแต่อิเหนาไปช่วยดาหารบจนถึงบุษบาถูกลมหอบพัดไป บุษบาสะเทือนใจมาก เพราะถูกสะกิดเตือนความหลัง จึงร้องไห้บอกให้เลิกเล่นเสียกลางคัน เป็นเหตุให้จดจำกันได้ และนับแต่นั้นมานางก็พ้นทุกข์ทรมานแห่งการพลัดพราก ได้พบวงศาคณาญาติอีกครั้ง และเข้าพิธีอภิเษกเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายของอิเหนาอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียที หลังจากต้องพลากจากการเข้าพิธีมาแล้วสองครั้ง แต่ถึงแม้นางจะเป็นเพียงฝ่ายซ้ายนางก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนนัก ในเมื่อรู้ว่าใจของอิเหนามีบุษบาเข้ามาแทนที่จินตราเสียแล้ว