|
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ออกมาเป็นอันดับที่
5 ที่ระยะทางประมาณ 10
เท่าของระยะระหว่างโลกและดวงอาทิตย์
หรือ 2
เท่าของขนาดวงโคจรของดาวพฤหัสบดี
ที่ระยะนี้พลังงานจากดวงอาทิตย์แผ่มาถึงเพียง
1.1 %
ของพลังงานที่แผ่มาถึงโลกเท่านั้น
หากสังเกตดาวเสาร์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก
เราจะได้เห็นวงแหวนของดาวเสาร์ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักดูดาวว่าเป็น
วงแหวนที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนทุกดวง
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ก๊าซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากดาวพฤหัสบดี
โดยมีขนาดเล็กกว่าดาวพฤหัสบดีประมาณ 1 ใน 5
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าโลกกว่า 9 เท่า
ละมีปริมาตรที่สามารถบรรจุโลกไว้ได้ถึง 763 ดวง |
องค์ประกอบหลักของดาวเสาร์
คือ ไนโตรเจน 75% และฮีเลียม
25%
และองค์ประกอบย่อยต่างๆในอัตราส่วนที่คล้ายกับดาวพฤหัสบดี
ดาวเสาร์มีความหนาแน่นเฉลี่ยทั้งดวงต่ำสุดในระบบสุริยะ
โดยมีความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ
0.7
กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตรเท่านั้น
นั่นคือดาวเสาร์จะลอยน้ำได้ (
หากเรามีอ่างน้ำที่ใหญ่พอสำหรับดาวเสาร์
) |
|
ดาวเสาร์หมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบในเวลา
10.7 ชั่วโมง ทำให้ดาวเสาร์
มีลักษณะกลมแป้น
โดยมีขนาดที่เส้นศูนย์สูตรละที่ขั้วของดาว
120,536 และ 108,728 กิโลเมตร
ตามลำดับ (
แป้นกว่าดาวพฤหัสบดีเล็กน้อย
) |
ดาวเสาร์เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์รอบหนึ่ง
29.5 ปี
ซึ่งแม้จะนานกว่าหนึ่งในสามของชั่วชีวิตผู้คนส่วนใหญ่
แต่นักดาราศาสตร์ตั้งแต่สมัยของชาวแอสซีเรียและบาบิโลน
( ประมาณ 800 ปีก่อนคริสตกาล
)
ก็ยังสามารถติดตามการเคลื่อนที่ของดาวเสาร์สืบต่อกันมาเรื่อยๆ
และทราบว่าดาวเสาร์ก็เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง |
|
|
วงแหวนดาวเสาร์ |
|
วงแหวนของดาวเสาร์ค้นพบโดยกาลิเลโอ ในปีค.ศ. 1610
ในเวลาไล่เลี่ยกับการสังเกตดาวศุกร์เสี้ยวและดวงจันทร์ดาวพฤหัสบดีของเขา
กล้องโทรทรรศน์ในสมัยของกาลิเลโอยังมีประสิทธิภาพไม่ดีนักกาลิเลโอจึงไม่สามารถมองเห็นวงแหวนแยกออกจากตัวดาวได้
และเห็นว่ามี หูจับ ต่อมาในปีค.ศ. 1659 คริสเตียน
ฮอยเกนส์ ( Christian Huygens )
นักดาราศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์
ได้ศึกษาดาวเสาร์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ากล้องของกาลิเลโอมาก
และอธิบายว่าวงแหวนของดาวเสาร์เป็นวัตถุรูปแหวนแบนที่โคจรอยู่รอบดาวเสาร์
นับว่าเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุดแล้วที่สามารถสรุปได้โดยการสังเกตจากโลก |
หลังจากยานไพโอเนียร์ 11
ไปเยือนดาวเสาร์เป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1979
เราได้ข้อมูลสรุปที่ชัดเจนว่าวงแหวนของดาวเสาร์มิใช่จานแบนขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว
แต่ประกอบด้วยเศษหินและน้ำแข็งขนาดจิ๋วมากมายที่เรียงตัวอยู่ในระนาบเดียวกัน
ต่อมาในปีค.ศ. 1980 ยานวอยเอเจอร์ได้ค้นพบอีกว่าภายในวงแหวนหลักประกอบด้วยวงแหวนย่อยๆ
เป็นชั้นๆมากมาย
แม้แต่ช่องว่างต่างๆที่เข้าใจว่าเป็นที่ว่างระหว่างวงแหวนก็ยังมีวงแหวนจิ๋ว
( Ringlet ) อยู่หลายวง |
|
แท้จริงวงแหวนของดาวเสาร์บางมาก คือ
มีความหนาแน่นเฉลี่ยประมาณ 500 เมตร
แต่เพราะเศษวัตถุที่ประกอบเป็นวงแหวนของดาวเสาร์สามารถสะท้อนแสงได้ดีและวงแหวนมีความกว้างรวมกว่า
80,000 กิโลเมตร
จึงสามารถสังเกตได้จากโลกแม้จะห่างออกไปกว่า 1,100
ล้านกิโลเมตร
เศษวัตถุในวงแหวนของดาวเสาร์มีขนาดต่างๆกัน
โดยส่วนใหญ่มีขนาด 1-10 เซนติเมตร
แต่บางส่วนก็มีขนาดเทียบได้กับรถยนต์หรือใหญ่กว่านั้น
นักดาราศาสตร์ประมาณว่าหากรวบรวมเศษวัตถุในวงแหวนทั้งหมดของดาวเสาร์มารวมเป็นดวงจันทร์ของดาวเสาร์ดวงเดียว
ดวงจันทร์ดังกล่าวจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 100
กิโลเมตร เท่านั้น
อ่านเพิ่ม |
|
ดวงจันทร์ดาวเสาร์ |
|
ดาวเสาร์มีดวงจันทร์ที่นักดาราศาสตร์รู้จักแล้ว 31
ดวง ( สิงหาคม ค.ศ. 2003 ) ในจำนวนนี้ตั้งชื่อแล้ว
18 ดวง และเพิ่งค้นพบ 13 ดวง
ดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดและถูกค้นพบเป็นดวงแรกคือ
ไททัน ซึ่งค้นพบโดย คริสเตียน ฮอยเกนส์ ในปีค.ศ.
1655 |
ดวงจันทร์ของดาวเสาร์ส่วนใหญ่เป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกดูดจับมา
สังเกตได้จากลักษณะที่บูดเบี้ยวไม่เป็นทรงกลม
ดาวเคราะห์และดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1,000
กิโลเมตร
มักจะมีรูปร่างกลมเนื่องจากมีแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะดึงให้เนื้อสารของดาวเข้ามาอยู่ใกล้กันได้
รูปทรงที่เปิดโอกาสให้เนื้อสารของดาวเข้ามาอยู่ใกล้กันได้มากที่สุดก็คือทรงกลม
ในขณะที่ดาวเคราะห์หรือดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กกว่า
1,000 กิโลเมตร
มักมีแรงโน้มถ่วงน้อยเกินจึงไม่สามารถเอาชนะความแข็งของวัสดุของเนื้อสารดาวเพื่อดึงเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกันได้
ทำให้ดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่บูดเบี้ยวและไม่มีรูปทรงที่ชัดเจน
ในที่นี้ได้กล่าวถึงรายละเอียดที่ย่าสนใจของดวงจันทร์ขนาดใหญ่ที่สุด
5 ดวงของดาวเสาร์เรียงลำดับตามขนาดจากใหญ่ไปเล็ก |
|
การสังเกตดาวเสาร์ |
ดาวเสาร์ปรากฏเป็นดาวสว่างสีออกเหลืองที่สามารถสังเกตได้ง่ายด้วยตาเปล่า
หากท่านไม่แน่ใจว่าดาวที่เห็นใช่ดาวเสาร์หรือไม่ควรตรวจสอบตำแหน่งกับแผนที่ดาว
หรือโปรแกรมแผนที่ดาวในคอมพิวเตอร์และหากสังเกตในช่วงปีค.ศ.
2003-2010
ท่านสามารถใช้แผนที่ด้านล่างเพื่อตรวจสอบตำแหน่งดาวเสาร์ได้ |
|