โครงสร้างของสังคม
โครงสร้างของสังคม
ความหมายของโครงสร้างของสังคม (Social Structure)
พจนานุกรมศัพท์สังคมวิทยาภาษาอังกฤษ – ไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า โครงสร้างสังคม หมายถึง องค์ประกอบที่มีส่วนต่างๆ สัมพันธ์กันอย่างมีระเบียบ และดำรงอยู่ได้ถาวรตามสมควร โครงสร้างของสังคม คือ ระบบความสัมพันธ์ของสถาบันต่างๆ ของสังคมในขณะใดขณะหนึ่ง
-มาร์วิน.อี.ออลเซน(Marvin E. Olsen) ได้อธิบายความหมายโครงสร้างของสังคม ซึ่งสรุปได้ว่าโครงสร้างของสังคม คือ ลักษณะของส่วนประกอบต่างๆของสังคม ซึ่งเป็นเสมือนการจำลองภาพนิ่งของระบบความสัมพันธ์ในสังคมมนุษย์ในขณะใดขณะหนึ่ง เนื่องจากกระบวนการที่สมาชิกในสังคมมีการกระทำระหว่างกันเป็นสิ่งเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
-เจมส์ ดับเบิลยู. แวนเกอร์ ซานาเดน (James W. Vander Zanden) กล่าวว่า โครงสร้างของสังคม หมายถึง เค้าโครงของความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในสังคมที่มีความเชื่อมโยงผูกพันระหว่างกัน
-ศาตราจารย์ ดร.ประสาท หลักศิลา ได้เปรียบเทียบลักษณะโครงสร้างทางของสังคมมนุษย์ไว้เหมือนกับลักษณะโครงสร้างของบ้านแต่ละหลัง
>>สรุปได้ว่า โครงสร้างของสังคม หมายถึง ส่วนต่างๆที่ประกอบกันเป็นระบบความสัมพันธ์ของสังคมมนุษย์ ส่วนประกอบดังกล่าวจะต้องเป็นเค้าโครงที่ปรากฏในสังคมมนุษย์ทุกๆสังคม แม้ว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไปในแต่ละสังคมก็ตาม
ลักษณะของโครงสร้างสังคม
1.มีการรวมกลุ่มแต่ละกลุ่มต่างก็มีหน้าที่ ความรับผิดชอบ มีประสิทธิภาพในการทำงาน
2.มีแนวปฏิบัติอย่างเหมาะสม โดยยึดหลักประโยชน์สูงสุดของสังคม
3.มีจุดหมายในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ดีและเหมาะสมที่จะใช้กับสังคมนั้นๆ เช่น การมีกิน มีใช้การสนองความต้องการทางเพศ การต้องการความรู้
4.มีการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น จำนวนคน รูปแบบความสัมพันธ์สภาพแวดล้อม
1. มีการกระทำระหว่างกันทางสังคมหรือมีปฎิสัมพันธ์ทางสังคม
2. สมาชิกมีตำแหน่ง และบทบาทต่างกัน มีแบบแผนพฤติกรรมตามบรรทัดฐานของกลุ่ม เรียกว่า วัฒนธรรมย่อย
3. มีความรู้สึกเป็นสมาชิกร่วมกัน มีความผูกพันในฐานะสมาชิกกลุ่มเดียวกัน
4. มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน สำคัญ คือ สนองความต้องการของสมาชิกแต่ละคน และความต้องการของสมาชิกของกลุ่มเป็นส่วนร่วม
สังคมมนุษย์ประกอบด้วยไปด้วยกลุ่มสังคมคนหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มสังคมเล็กๆไปจนถึงสังคมใหญ่ กลุ่มสังคมต่างมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เปรียบเหมือนสายใยของสังคมมนุษย์
1.กลุ่มปฐมภูมิ (Primary group) กลุ่มขนาดเล็ก สมาชิกมีความสนิทสนมกัน เป็นส่วนตัว
2.กลุ่มทุติยภูมิ (Secondary group) กลุ่มคนที่มีจำนวนมาก สัมพันธภาพของสมาชิกเป็นไปตามแบบแผน
3.กลุ่มสมาคม (Task Oriented group) เป็นกลุ่มสมาชิกมารวมกันเพื่อร่วมกันทำงาน หรือแก้ปัญหาให้ลุล่วง
4.กลุ่มชุมชนชนบท และชุมชนเมือง (Rural and Urban group) กลุ่มชนบทเป็นกลุ่มที่มีชีวิตในชนบท มีอาชีพทางการเกษตร ความเป็นอยู่ง่ายๆขึ้นอยู่กับธรรมชาติ
??
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ ต้องเอาไปทำรายงานพอดี
จะวิชาการไปไหนเนี่ย
วัยรุ่นเซงเลย...55+
เเต่ว่าเนื้อหาดีนะ
สู้ๆๆ
เยี่ยมไปเลย
อย่าลืมส่งประกวด
แต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน