ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ คุณครูเดือนฉาย หนูแสนดี ง31101 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม. 4 ภาคเรียนที่ 1/2554

user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:dc48cfec4ca6c8e8b17c7a6d9bf83f73' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\nระบบสารสนเทศ (Information System หรือ IS) \nเป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ (input) การจัดการ \n(processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนเก็บข้อมูล (storage)\n\n\nองค์ประกอบของระบบสารสนเทศคือ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C\" title=\"ฮาร์ดแวร์\">ฮาร์ดแวร์</a>, <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C\" title=\"ซอฟต์แวร์\">ซอฟต์แวร์</a>, <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C\" title=\"มนุษย์\">มนุษย์</a>, <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3&action=edit&redlink=1\" class=\"new\" title=\"กระบวนการ (หน้านี้ไม่มี)\">กระบวนการ</a>, <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5\" title=\"ข้อมูล\">ข้อมูล</a> ,เครือข่าย\n\n\nระบบสารสนเทศนั้นจะประกอบด้วย\n\n<ol style=\"background-color: #ff0000\">\n<li><a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5\" title=\"ข้อมูล\">ข้อมูล</a> (Data) หมายถึง ค่าของความจริงที่ปรากฏขึ้น โดยค่าความจริงที่ได้จะนำมาจัดการปรับแต่งหรือประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ</li>\n<li><a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8\" title=\"สารสนเทศ\">สารสนเทศ</a> (Information) คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกตามกฎเกณฑ์ตามหลักความสัมพันธ์ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นมีประโยชน์และมีความหมายมากขึ้น</li>\n<li><a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3\" title=\"การจัดการ\">การจัดการ</a> \n (Management) คือ การบริหารอย่างเป็นระบบ \n เป็นการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการจัดการขององค์กรนั้น ซึ่งต้องมีการวางแผน \n กำหนดการ และจัดการทรัพยากรภายในองค์กร \n เพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้น</li>\n</ol>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:dc48cfec4ca6c8e8b17c7a6d9bf83f73' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e76998e0cc951eb4127beb6fe442d927' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<div style=\"background-color: #ffffff\" align=\"center\">\n<table class=\"MsoNormalTable\" style=\"width: 85%\" border=\"0\" cellpadding=\"0\" width=\"85%\">\n<tbody>\n<tr>\n<td style=\"padding: 0.75pt\">\n<ul type=\"disc\">\n<li class=\"MsoNormal\" style=\"color: yellow; line-height: normal\"><span style=\"font-size: 16pt; background-image: none; background-repeat: repeat; background-attachment: scroll; background-position: 0% 0%; background-clip: border-box; background-origin: padding-box; background-size: auto auto; font-style: normal; font-family: \'Angsana New\',\'serif\'\" lang=\"TH\">องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ<span style=\"font-size: 16pt; background-image: none; background-repeat: repeat; background-attachment: scroll; background-position: 0% 0%; background-clip: border-box; background-origin: padding-box; background-size: auto auto; font-style: normal; font-family: \'Angsana New\',\'serif\'\">\n ระบบสารสนเทศเป็นงานที่ต้องใช้ส่วนประกอบหลายอย่าง \n ในการทำให้เกิดเป็นกลไกในการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ \n นักเรียนลองนึกดูว่า \n ถ้าต้องการประมวลผลรายงานการเรียนของนักเรียนได้อย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว \n ทันการ ระบบการจัดการสารสนเทศนั้น เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ประการแรกคือ \n บุคลากรหรืออาจารย์ประจำชั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ \n หรืออาจารย์ผู้สอนแต่ละรายวิชา ประการที่สอง คือ หากมีการบันทึก \n ข้อมูลก็ต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานของอาจารย์เป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง \n เมื่อไร อย่างไร ประการที่สาม คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ \n เป็นเครื่องช่วยให้การทำงานให้ผลรวดเร็ว และคำนวณได้แม่นยำถูกต้อง \n ประการที่สี่ คือ \n ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ตามที่ต้องการได้ \n ประการสุดท้ายคือ ตัวข้อมูลที่เป็นเสมือนวัตถุดิบที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสารสนเทศตามที่ต้องการ \n </li>\n</ul>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n\n \n\n<div align=\"center\">\n<table class=\"MsoNormalTable\" border=\"0\" cellpadding=\"0\" height=\"461\" width=\"587\">\n<tbody>\n<tr>\n<td style=\"width: 58%; padding: 0.75pt\" width=\"58%\"> </td>\n<td style=\"width: 42%; padding: 0.75pt\" width=\"42%\">\n\n ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบสารสนเทศมี 5 ส่วนคือ \n\n 1. ฮาร์ดแวร์(เครื่องจักรอุปกรณ)์ \n 2. ซอฟต์แวร์ \n 3. ข้อมูล\n 4. บุคลากร\n 5.ขั้นตอนการปฏิบัติงาน\n \n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n\n \n\n<div align=\"center\">\n<table class=\"MsoNormalTable\" style=\"width: 85%; background: none repeat scroll 0% 0% #ff9999\" border=\"0\" cellpadding=\"0\" width=\"85%\">\n<tbody>\n<tr>\n<td style=\"padding: 0.75pt\">\n\n ส่วนประกอบทั้งห้าส่วนนี้ทำให้เกิดสารสนเทศได้ หากขาดส่วนประกอบใด \n หรือส่วนประกอบใดไม่สมบูรณ์ ก็อาจทำให้ระบบสารสนเทศ ไม่สมบูรณ์ เช่น \n ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสมกับงาน ก็จะทำให้งานล่าช้า ไม่ทันต่อการใช้งาน \n การดำเนินการระบบสารสนเทศจึงต้องให้ความสำคัญ กับส่วนประกอบทั้งห้านี้ \n บุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ \n เพราะบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจวิธีการให้ได้มาซึ่งสารสนเทศ \n จะเป็นผู้ดำเนินการ ในการทำงานทั้งหมด บุคลากรจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ \n บุคลากรภายในองค์กรเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เกิด ระบบสารสนเทศด้วยกันทุกคน เช่น \n ร้านขายสินค้าแห่งหนึ่ง บุคลากรที่ดำเนินการในร้านค้าทุกคน ตั้งแต่ผู้จัดการถึงพนักงานขาย \n เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เกิดสารสนเทศได้ \n ขั้นตอนการปฏิบัติ \n เป็นระเบียบวิธีการปฏิบัติงานในการจัดเก็บรักษาข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่จะทำให้เป็นสารสนเทศได้ \n เช่น กำหนดให้ มีการป้อนข้อมูลทุกวัน ป้อนข้อมูลให้ทันตามกำหนดเวลา มีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องอยู่เสมอ \n กำหนดเวลาในการประมวลผล การทำรายงาน การดำเนินการ ต่าง ๆ ต้องมีขั้นตอน \n หากขั้นตอนใดมีปัญหาระบบก็จะมีปัญหาด้วย เพราะทุกขั้นตอนมีผลต่อระบบสารสนเทศ\n เครื่องคอมพิวเตอร์ \n เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผล คัดเลือก \n คำนวณ หรือพิมพ์รายงาน ผลตามที่ต้องการ \n คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำในการทำงาน \n และทำงานได้ต่อเนื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบสารสนเทศ\n ซอฟต์แวร์ \n คือลำดับขั้นตอนคำสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทำงานตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ \n ซอฟต์แวร์ จึงหมายถึงชุดคำสั่งที่เรียง \n เป็นลำดับขั้นตอนสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามต้องการ และประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ\n\n ข้อมูล เป็นวัตถุดิบที่ทำให้เกิดสารสนเทศ \n ข้อมูลที่เป็นวัตถุดิบจะต่างกัน ขึ้นกับสารสนเทศที่ต้องการ เช่น \n ในสถานศึกษามักจะต้องการ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนักเรียน ข้อมูลผลการเรียน \n ข้อมูลอาจารย์ ข้อมูลการใช้จ่ายต่าง ๆ \n ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญประการหนึ่งที่มีบทบาทต่อการให้เกิด สารสนเทศ \n \n\n จากเว็บ <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/homepage/page1.html\" title=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/homepage/page1.html\">http://www.chakkham.ac.th/technology/homepage/page1.html</a>\n \n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e76998e0cc951eb4127beb6fe442d927' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:5b43d44e130b4c845b99dd532c4da0a2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\n1.ระบบสารสนเทศ คือ งานประยุกต์คอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ทำหน้าที่รับข้อมูล (input) แล้วนำมาประมวลผล (process) ให้เป็นสารสนเทศ(information)ในรูปแบบต่าง ๆที่เป็นประโยชน์แก่การใช้งาน \n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n \n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n 2. ข้อมูล คือ ข้อ \nเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ \nหรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่นภาพ เสียง \nวีดิโอไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบ \nถ้วนขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูล \nดังนั้นการเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่ \nเราสนใจนั่นเองข้อมูลจึงหมายถึงตัวแทนของข้อเท็จจริง \nหรือความเป็นไปของสิ่งของที่เราสนใจ \n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\nข้อมูล หมายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เราสนใจศึกษา\n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n 3. สารสนเทศ คือ\n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n ข้อมูล \nต่างๆ \nที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหรือมีการประมวลหรือวิเคราะห์ผลสรุปด้วยวิธีการ \nต่างๆให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมาย \nมีคุณค่าเพิ่มขึ้นและมีวัตถุประสงค์ในการใช้งาน(ไพโรจน์ คชชา, 2542)\n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n 4. เทคโนโลยี คือ การ \nใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ระเบียบวิธี \nกระบวนการตลอดจน \nผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อ \nช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ \nและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น….\n\n<div align=\"center\">\n</div>\n\n 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล \n\n \nการประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ \n\n<div align=\"center\">\nเหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้\n</div>\n<div align=\"center\">\n \n</div>\n<div align=\"center\">\n<img src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-smile.gif\" alt=\"Smile\" title=\"Smile\" border=\"0\" /><img src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-wink.gif\" alt=\"Wink\" title=\"Wink\" border=\"0\" /><img src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-laughing.gif\" alt=\"Laughing\" title=\"Laughing\" border=\"0\" />\n</div>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:5b43d44e130b4c845b99dd532c4da0a2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:639cd6a4b9453904dd46d0b1b846d1ee' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\nครูค่ะ...นู๋ยังไม่ได้รหัสแกนนำเลยค่ะ\n\n\nน.ส.ขนิษฐา เพียงแก้ว ม.4/1ค่ะ\n\n\nขอ...ความกรุณาครูช่วยดูไห้นู๋ด้วยนะค่ะ......\n\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:639cd6a4b9453904dd46d0b1b846d1ee' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e653e977e5d9a293f446e395cc19481a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = 'ใบงานที่2 <o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p></o:p>1.ฮาร์ดแวร์ คือ องค์ประกอบสำคัญ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง<o:p></o:p>ที่มา http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what-hardware-navy34 \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>2.ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นชุดคำสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน<o:p></o:p>ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>3.บุคลากร คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานคอมพิวเตอร์<o:p></o:p>ที่มา http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page43.htm \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>4.Spss คือ SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและงานวิจัย ที่มีประวัติการพัฒนามานานหลายสิบปี \nมีสถิติให้เลือกใช้หลายประเภท ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของผู้ใช้ทั่วไป \nแต่การนำ spss มาใช้โดยที่ผู้ใช้มิได้เริ่มต้นอย่างถูกวิธีย่อมจะทำให้ดูแลยาก \nดังนั้นเวปไซด์นี้จึงเอาความรู้พื็นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้ SPSS มานำเสนอ<o:p></o:p> \n\nที่มา http://www.watpon.com/spss/ \n<hr id=\"null\" />\n \n5.รหัสแอสกี คือ แอสกี หรือ รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B5#cite_note-0#cite_note-0\">[1]</a> (<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9\" title=\"ภาษาอังกฤษ\">อังกฤษ</a>: \n\nASCII: American Standard Code for Information Interchange) เป็น<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0\" title=\"รหัสอักขระ\">รหัสอักขระ</a>ที่ประกอบด้วย<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99\" title=\"อักษรละติน\">อักษรละติน</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81\" title=\"เลขอารบิก\">เลขอารบิก</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99\" title=\"เครื่องหมายวรรคตอน\">เครื่องหมายวรรคตอน</a> และ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C\" title=\"สัญลักษณ์\">สัญลักษณ์</a>ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้น<o:p></o:p> \n\nที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html \n<hr id=\"null\" />\n \n6.รหัสเอบซีดิก คือเอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81#cite_note-0#cite_note-0\">[1]</a> (<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9\" title=\"ภาษาอังกฤษ\">อังกฤษ</a>: \n\nEBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/IBM\" title=\"IBM\">IBM</a> ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัส<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B5\" title=\"แอสกี\">แอสกี</a> (ASCII) มากกว่า<o:p></o:p>ที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html \n<hr id=\"null\" />\n \n7.รหัสยูนิโก้ คือ รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่าง ๆ รหัสยูนิโค้ด เป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิด ที่ได้กล่าวมา คือใช้เลขฐานสอง 16 บิต ในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกในบางภาษา เช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพ ซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถ แทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย<o:p></o:p>ที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>8.อุปกรณ์ส่งออก คือ อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์<o:p></o:p>ที่มา http://teacher.skw.ac.th/salunyar/40102/unit_03/p_309.htm \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p>9.ระบบเลขฐานสอง คือ (Binary Numbering SyStem)<o:p></o:p>ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร เสียง หรือรูปภาพนั้น เมื่อนำเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำการเข้ารหัสหรือแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปเลขฐานสอง และประมวลผลเสร็จแล้วจึงทำการแปลงข้อมูลกลับมาในรูปแบบที่มนุษย์เข้าใจ ระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วยสัญลักษณ์เพียง 2 ตัว คือ 0 และ 1<o:p></o:p>ที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/ \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p>10.ระบบเลขฐานแปด คือ (Octal Numbering System)<o:p></o:p>ระบบฐานสิบไม่มีสัญลักษณ์สำหรับเลข 10 ระบบเลขฐานสองไม่มีสัญลักษณ์เลข 2 ดังนั้นในระบบเลขฐานแปดจึงไม่มีสัญลักษณ์เลข 8 สรุปได้ว่า สัญลักษณ์ที่ใช้ในระบบเลขฐานแปด มีจำนวนทั้งสิ้น 8 ตัว ได้แก่ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ7<o:p></o:p>ที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/ \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p>11.ระบบเลขฐานหก คือ (Hexadecimal Numbering System)<o:p></o:p>ในระบบเลขฐานสิบหกมีสัญลักษณ์ที่ใช้ในระบบเลขฐานสิบหก จำนวน 16 ตัว ได้แก่ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, <st1:metricconverter ProductID=\"9, A\" w:st=\"on\">9, A</st1:metricconverter>, B, C, E, F<o:p></o:p>ที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/<o:p></o:p> \n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e653e977e5d9a293f446e395cc19481a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:71cb7c3c9d7c8dfde1a19f869cf9938d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = 'ใบงานที่1<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p></o:p>1.ระบบสารสนเทศ คือ ระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์ \nมาช่วยในการรวบรวมจัดเก็บหรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นสารสนเทศที่ดี สามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>2.ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วน<o:p></o:p> \n<hr id=\"null\" />\n\n3.สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้\n\n<o:p></o:p>\n<hr id=\"null\" />\n\n4.เทคโนโลยี คือ เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ \nและเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p>5.เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p></o:p>ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm<o:p></o:p> \n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:71cb7c3c9d7c8dfde1a19f869cf9938d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ca0eba73217ea4697f6b54bb98073e2d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = ' ใบงานที่ 2<o:p></o:p> \n\n 1. ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ที่มา: <a href=\"http://www.pbps.ac.th/e_learning/combasic/hardware.html\">http://www.pbps.ac.th/e_learning/combasic/hardware.html</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p> 2. ซอฟต์แวร์ คือ <a name=\"soft1\"></a>ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของ มี 2 ประเภท <a name=\"soft3\"></a><o:p></o:p>\n\n -ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบหน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ \n\n\n ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่างๆของระบบคอมพิวเตอร์ เช่นรับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้ \n\n คอมพิวเตอร์เข้าใจ<o:p></o:p> -ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ ซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ฯลฯ <o:p></o:p>ที่มา: <a href=\"http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/software/index.html\">http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/software/index.html</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>\n\n3. บุคลากร คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้ \n 1.) ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน \n 2.) นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน \n 3.) โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ \n 4.) ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการที่มา: <a href=\"http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=735f5fb95c3f9ee9\">http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=735f5fb95c3f9ee9</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p>\n\n 4. spss คือ โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ \n S = Statistical \n P = Package \n S = Social \n S = Scientists \n SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่จัดทำขึ้นสำหรับงานวิจัย \n มีคำสั่งหลากหลายคำสั่ง เป็นโปรแกรมย่อย ๆ อยู่ภายใต้โปรแกรมใหญ่ ที่มา: \n<a href=\"http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0f8fc2c6be023db5&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dspss%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD\">http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0f8fc2c6be023db5&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dspss%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p> 5. รหัสแอสกี คือ มาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นคำย่อมาจาก American Standard Code Information Interchange เป็นรหัส 8 บิต แทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ 256 ตัว เมื่อใช้แทนตัวอักษรภาษาอังกฤษแล้วยังมีเหลืออยู่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ได้กำหนดรหัสภาษาไทยเพิ่มลงไปเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ ตามตาราง <o:p></o:p>\n\nที่มา:<a href=\"http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information2/techno2_4.htm\">http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information2/techno2_4.htm</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p> 6. รัหสเอบซีดิกหรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย คือ <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81#cite_note-0\">[1]</a> (<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9\" title=\"ภาษาอังกฤษ\">อังกฤษ</a>: EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/IBM\" title=\"IBM\">IBM</a> ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัส<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B5\" title=\"แอสกี\">แอสกี</a> (ASCII) มากกว่าที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81\">http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p> 7. รหัสยูนิโค้ด คือ เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้น ซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย ที่มา: <a href=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm\">http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>8. อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิด เป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู input device เปรียบเทียบ \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>\n\n9. ระบบเลขฐานสอง คือ ตัวเลขที่มีค่าไม่ซ้ำกันสองหลัก ( 0 และ 1) เป็นเลขฐานเดียวที่เข้ากันได้กับ Hardware ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพราะการใช้เลขฐานอื่น จะสร้างความยุ่งยากให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก เช่น เลขฐานสิบมีตัวเลขที่เป็นสถานะที่ต่างกันถึง 10 ตัว ในขณะที่ระบบไฟฟ้ามีเพียง 2 สถานะ ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้น แต่ละหลักของเลขฐานสอง เรียกว่า Binary Digit (BIT) ที่มา: <a href=\"http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html\">http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p>10. ระบบเลขฐานแปด มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 3 หลัก แทนด้วยเลขฐานแปด 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 6 บิท แทนด้วยเลขฐานแปด 2 บิท การใช้เลขฐานแปดแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง <o:p></o:p>ที่มา : <a href=\"http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html\">http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>11.เลขฐานสิบหก มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 4 หลัก แทนด้วย \nเลขฐานสิบหก 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 8 บิทแทนด้วยเลขฐานสิบหก 2 บิท การใช้เลขฐานสิบหกแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง<o:p></o:p> ที่มา: <a href=\"http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html\">http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p> </o:p>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ca0eba73217ea4697f6b54bb98073e2d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:fd8e446dfb8eba4eb41defff0c7dfe62' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\n<a href=\"file:///C:/Documents%20and%20Settings/UGS/Desktop/work2.docx\">ถึง อ.เดือนฉาย นู๋น.ส.พิมพา เฮงประเสริฐ ม.4/1 ขออนุญาติ อ.ส่งงานเป็นฝากไฟล์ทางเว็บนะค่ะ เพราะหนู ไม่รู้ส่งทาง word ยังไงค่ะ เพราะไม่มีให้หนู่แนบไฟล์ </a>\n\n\n \n\n\nงานที่1 \n\n\n<a href=\"file:///C:/Documents%20and%20Settings/UGS/Desktop/work1.docx\">http://www.tempf.com/getfile.php?id=967670&key=4dfc916020894</a>\n\n\n \n\n\nงานที่2\n\n\n<a href=\"file:///C:/Documents%20and%20Settings/UGS/Desktop/work2.docx\">http://www.tempf.com/getfile.php?id=967664&key=4dfc8ef18fbd5</a>\n\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:fd8e446dfb8eba4eb41defff0c7dfe62' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b9a8d503cb0fde599a4a7bd4368e4769' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\n<span style=\"background: #333333 none repeat scroll 0% 0%; font-size: 20pt; -moz-background-clip: -moz-initial; -moz-background-origin: -moz-initial; -moz-background-inline-policy: -moz-initial; color: aqua\" lang=\"TH\">แก้ไข จากงานอันเก่าค่ะ <o:p></o:p>\n\n\nใบงานที่1\n\n\n1. ระบบสารสนเทศ (Information System ) หมายถึง ระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์\n\n\nมาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ หรือจัดการกับข้อมูลข่าวสาร \nที่มาhttp://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/pichai_l/it01/itsystem.htm\n\n\n2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ \nข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง \nๆ เช่น ภาพ เสียง \nที่มา <a href=\"/node/27183\" title=\"http://www.thaigoodview.com/node/27183\">http://www.thaigoodview.com/node/27183</a>\n\n\n3.สารสนเทศ คือ เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ \nแนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข ข้อมูล \nรูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการ สื่อความคิด และการแทนความหมาย \nที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/สารสนเทศ\n\n\n4.เทคโนโลยี คือ การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและวิทยาศาสตร์ \nมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงาน เช่น ระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ \nเพื่อให้การดำรงชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น \nที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/เทคโนโลยี\n\n\n5.เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ \nการเก็บรวบรวมข้อมูลการประมวลผล และการสื่อสารโทรคมนาคม \nเพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ \nที่มา <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm\" title=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm\">http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm</a>\n\n\nใบงานที่ 2\n\n\n1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง ที่สามารถสัมผัสได้ \nที่มา ; <a href=\"http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what\" title=\"http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what\">http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what</a> hardware-navy34\n\n\n2. ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคำสั่ง \nหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน \nซอฟต์แวร์แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ 1. ซอฟต์แวร์ระบบ 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ \nที่มา;http://www.navy34.com/index.php/com-software/206 what-hardware-navy34\n\n\n3.บุคลากรหมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ \n1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) 2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) 3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) 4. ผู้ใช้ (User) \nที่มา; <a href=\"http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro\" title=\"http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro\">http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro</a> com/wbi1/hie/page43.htm\n\n\n4. spss คือ เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยตรง \nที่มา <a href=\"http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc29ba5576a33a\" title=\"http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc29ba5576a33a\">http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc29ba5576a33a</a>\n\n\n5.รหัสแอสกี คือ \nเป็นมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารข้อมูล \nรหัสแทนข้อมูลชนิดนี้ใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิตหรือเท่ากับ 1 ไบต์ \nที่มา <a href=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\" title=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\">http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3</a>\n\n\n6. รหัสเอบซีดิก คือ รหัสแทนข้อมูล การกำหนดรหัสจะใช้ 8 บิต \nต่อหนึ่งอักขระ แต่แบบของรหัสที่กำหนดจะแตกต่างกัน \nโดยรหัสเอ็บซิดิกจะเรียงลำดับแต่ละบิตที่ใช้แทนอักขระ \nที่มา <a href=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\" title=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\">http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3</a>\n\n\n7. รหัสยูนิโค้ด คือ มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ \nรหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร \nสามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว \nที่มา <a href=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\" title=\"http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3\">http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3</a> \n8. อุปกรณ์ส่งออก คือ ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจาก หน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก \nที่มา <a href=\"http://www.sawi.ac.th/elearning/hardware/output.html\" title=\"http://www.sawi.ac.th/elearning/hardware/output.html\">http://www.sawi.ac.th/elearning/hardware/output.html</a>\n\n\n9. ระบบเลขฐานสอง อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 2 ตัว ได้แก่เลข 0 \nกับ เลข 1 ซึ่งเป็นเลขฐานที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ง่าย \nเพราะว่าอุปกรณ์ทางไฟฟ้าก็มีสถานะเพียง 2 สถานะ คือ เปิด กับ ปิด \nซึ่งก็เทียบได้กับ 0 กับ 1 \nที่มา <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\" title=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\">http://th.wikipedia.org/wiki/Radix</a>\n\n\n10.ระบบเลขฐาน 8 คือ เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัว \nซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 \nซึ่งเป็นเลขฐานที่เพิ่มเนื้อที่หน่วยความจำในการเก็บให้มากขึ้น \nที่มา <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\" title=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\">http://th.wikipedia.org/wiki/Radix</a>\n\n\n11.ระบบเลขฐาน 16 (Hexadecimal Number System) \nเป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก 6 ตัว \nซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน \n10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F ซึ่งก็จะเก็บข้อมูลได้ \nที่มา <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\" title=\"http://th.wikipedia.org/wiki/Radix\">http://th.wikipedia.org/wiki/Radix</a>\n\n<meta http-equiv=\"Content-Type\" content=\"text/html; charset=utf-8\" /> \n<meta name=\"ProgId\" content=\"Word.Document\" /> \n<meta name=\"Generator\" content=\"Microsoft Word 12\" /> \n<meta name=\"Originator\" content=\"Microsoft Word 12\" />\n<style>\n\n</style>\n<meta http-equiv=\"Content-Type\" content=\"text/html; charset=utf-8\" /> \n<meta name=\"ProgId\" content=\"Word.Document\" /> \n<meta name=\"Generator\" content=\"Microsoft Word 12\" /> \n<meta name=\"Originator\" content=\"Microsoft Word 12\" />\n<style>\n\n</style>\n<meta http-equiv=\"Content-Type\" content=\"text/html; charset=utf-8\" /> \n<meta name=\"ProgId\" content=\"Word.Document\" /> \n<meta name=\"Generator\" content=\"Microsoft Word 12\" /> \n<meta name=\"Originator\" content=\"Microsoft Word 12\" />\n<style>\n<style>\n\n</style></style>', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b9a8d503cb0fde599a4a7bd4368e4769' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6b514fe8427898fe3edf9126f1a4f2aa' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = 'ให้พิมพ์ใน word ไว้รอขึ้นเว็บตัวเองค่ะ \n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6b514fe8427898fe3edf9126f1a4f2aa' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0b84e8ddedb576cd0d146711f1a24be1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = 'ใบงานที่1<o:p></o:p> \n\nระบบสารสนเทศ คือ (Information System หรือ IS) เป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ (input) การจัดการ (processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนเก็บข้อมูล (storage)\n\n<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5\" title=\"ข้อมูล\">ข้อมูล</a> (Data) หมายถึง ค่าของความจริงที่ปรากฏขึ้น โดยค่าความจริงที่ได้จะนำมาจัดการปรับแต่งหรือประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ <o:p></o:p><a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8\" title=\"สารสนเทศ\">สารสนเทศ</a> (Information) คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกตามกฎเกณฑ์ตามหลักความสัมพันธ์ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นมีประโยชน์และมีความหมายมากขึ้น <o:p></o:p>เทคโนโลยี ความหมายค่อนข้างกว้าง โดยทั่วไปหมายถึง การนำความรู้ทาง<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2\" title=\"ธรรมชาติวิทยา\">ธรรมชาติวิทยา</a>และต่อเนื่องมาถึง<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C\" title=\"วิทยาศาสตร์\">วิทยาศาสตร์</a> มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ อันก่อให้เกิดวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร<o:p></o:p>เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5\" title=\"เทคโนโลยี\">เทคโนโลยี</a>สำหรับ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8\" title=\"การประมวลผลสารสนเทศ\">การประมวลผลสารสนเทศ</a> ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืน<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8\" title=\"สารสนเทศ\">สารสนเทศ</a> ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี<o:p></o:p>ที่มา : http://th.wikipedia.org/<o:p></o:p>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0b84e8ddedb576cd0d146711f1a24be1' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:61e25b5274fbba32ca8fb3de95ff4ded' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = ' ใบงานที่1<o:p></o:p> 1.ระบบสารสนเทศ คือ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ <o:p></o:p>ที่มา: <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-2.htm\">http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-2.htm</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p> 2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วน ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูล <o:p></o:p>ที่มา: <a href=\"/node/27183\">http://www.thaigoodview.com/node/27183</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p> 3. สารสนเทศ คือ ผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิค<o:p></o:p>ที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8\">http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p> 4. เทคโนโลยี คือ การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ \nและเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ <o:p></o:p>ที่มา: <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-1.htm\">http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-1.htm</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p> 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ <o:p></o:p> ที่มา: <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm\">http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm</a> \n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p> </o:p><o:p> </o:p>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:61e25b5274fbba32ca8fb3de95ff4ded' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ca7644999e87c214e0f5f7d8199f3cc2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\nใบงานที่2 \n\n\n1. ฮาร์ดแวร์ \n ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์รอบข้าง รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจเมื่อพิจารณาเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งเป็น 3 หน่วย คือ \n -หน่วยรับข้อมูล (input unit) ได้แก่ แผงแป้นอักขระ เมาส์ \n -หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) \n -หน่วยแสดงผล (output unit) ได้แก่ จอภาพ เครื่องพิมพ์ \nที่มา:<a href=\"/\">http://www.thaigoodview.com</a> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n2 . ซอฟต์แวร์ \n ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการที่สอง ซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งงานให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการของการใช้งาน \n ประเภทของซอร์ฟแวร์ \n1.การแบ่งเชิงเทคนิค แบ่งออกเป็น3ประเภทหลัก คือ \n-ซอฟต์แวร์ระบบ ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ \n-โปรแกรมประยุกต์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไป \n-โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้ \n2.การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ \n-ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการ \n-ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป \n3.การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ \n-ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา จัดการทรัพยากรของบุคคล \n-ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก \n-ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ \nทีมา:<a href=\"/\">http://www.thaigoodview.com</a> \n<hr id=\"null\" />\n3.บุคลากร \n บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ \n1.ผู้จัดการระบบ คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน \n2.นักวิเคราะห์ระบบ คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน \n3.โปรแกรมเมอร์ คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ \n4.ผู้ใช้ คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ \nทีมา:<a href=\"/\">http://www.thaigoodview.com</a><o:p> \n<hr id=\"null\" />\n</o:p><o:p>4.spss \n เป็นโปรแกรมช่วยประมวลผลทางสถิติค่ะ ก่อนนำมาประมวลผลใน SPSS จะมีการลง code ก่อน ซึ่งแต่ละตัวจะนำมาคำนวณหาตัวเลขทางสถิติโดยใช้สูตรแตกต่างกันไป บางครั้งอาจมีการทดสอบสมมติฐาน เพื่อนำผลที่ได้มาประกอบการตัดสินใจ \nทีมา:<a href=\"http://www.thai3d.net/web\">http://www.thai3d.net/web</a> \n<hr id=\"null\" />\n</o:p><o:p>5.รหัสแอสกี \n เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\n6.รหัสเอบซีติก \n เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่า \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\n7.รหัสยูนิโคด \n ช่วยให้คอมพิวเตอร์แสดงผลและจัดการข้อความตัวอักษรที่ใช้ในระบบการเขียนของภาษาส่วนใหญ่ในโลกได้อย่างสอดคล้องกัน ยูนิโคดประกอบด้วยรายการอักขระที่แสดงผลได้มากกว่า 100,000 ตัว พัฒนาต่อยอดมาจากมาตรฐานชุดอักขระสากล (Universal Character Set: UCS) และมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือ The Unicode Standard เป็นแผนผังรหัสเพื่อใช้เป็นรายการอ้างอิง นอกจากนั้นยังมีการอธิบายวิธีการที่ใช้เข้ารหัสและการนำเสนอมาตรฐานของการเข้ารหัสอักขระอีกจำนวนหนึ่ง การเรียงลำดับอักษร กฎเกณฑ์ของการรวมและการแยกอักขระ รวมไปถึงลำดับการแสดงผลของอักขระสองทิศทาง (เช่นอักษรอาหรับหรืออักษรฮีบรูที่เขียนจากขวาไปซ้าย) \nที่มา:http://th.wikipedia.org</o:p> \n<hr id=\"null\" />\n\n\n<a target=\"_blank\">8.อุปกรณ์ส่งออก \n</a> อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\n9.เลขฐานสอง \n\n\n เลขฐานสอง หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 กับ 1 บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\n10.เลขฐานแปด \n เลขฐานแปด หรือ อัฐนิยม (Octal) หมายถึง ระบบตัวเลขที่มีตัวเลขแปดตัว คือ 0 - 7 เลขฐานแปดนี้สร้างขึ้นจากเลขฐานสอง โดยการจัดกลุ่มเลขฐานสองออกเป็นกลุ่มละสามตัว (เริ่มจากขวา) ตัวอย่างเช่น เลขฐานสองที่แทนเลข 74 ในฐานสิบ คือ 1001010 เมื่อจัดเป็นกลุ่มละสาม จากขวาไปซ้าย ก็จะได้ 1 001 010 — เลขฐานแปดก็คือ 112 \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\n11.เลขฐานสิบหก \n เลขฐานสิบหก (hexadecimal) หมายถึงระบบเลขฐานที่มีสัญลักษณ์ 16 ตัว (ฐานสิบมี 10 ตัวคือ 0-9) โดยปกติจะใช้สัญลักษรณ์ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F ในการแสดงหรือเขียนทั้ง 16 ตัว \nที่มา:<a href=\"http://th.wikipedia.org\">http://th.wikipedia.org</a> \n<hr id=\"null\" />\nนางสาววนัสวี กุศล ม.4/1 \n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ca7644999e87c214e0f5f7d8199f3cc2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b77a145fcd0a74564d8b974c52965173' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '\nใบงานที่ 2 \n\n\n\n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p>1.ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม)ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน<o:p></o:p> \n\nที่มา : <cite><a href=\"http://www.blog.eduzones.com/\">www.blog.eduzones.com</a></cite>\n\n\n<cite></cite>\n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p><o:p> </o:p>2. ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น <o:p></o:p> 1. ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software)<o:p></o:p>คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพื่อคอยควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่าง และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการใช้งาน <o:p></o:p>2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)<o:p></o:p>คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่มำให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ<o:p></o:p>2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program<o:p></o:p>2.3 ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทำไว้ เพื่อใช้ในการทำงานประเภทต่างๆ ทั่วไป โดยผู้ใช้คนอื่นๆ สามารถนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้กับข้อมูลของตนได้<o:p></o:p>ที่มา : www.thaiwbi.com<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p></o:p>\n<hr id=\"null\" />\n3. บุคลากร คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้<o:p></o:p>1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) <o:p></o:p>คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน<o:p></o:p>2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) <o:p></o:p>คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน<o:p></o:p>3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) <o:p></o:p>คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้<o:p></o:p>4. ผู้ใช้ (User) <o:p></o:p>คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ<o:p></o:p><o:p> ที่มา : www.thaiwbi.com<o:p></o:p> </o:p><o:p>\n<hr id=\"null\" />\n</o:p><o:p></o:p> 4. spss คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยผู้วิจัยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขั้นตอนของการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงคุณภาพ และข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงปริมาณ แต่ในการทำวิจัยทางสาขาการวัดผลและวิจัยการศึกษา ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเชิงปริมาณ<o:p></o:p> \n\nที่มา : <a href=\"http://www.watpon.com/\">www.watpon.com</a>\n\n\n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>5. รหัสแอสกี คือ เป็น<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0\" title=\"รหัสอักขระ\">รหัสอักขระ</a>ที่ประกอบด้วย<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99\" title=\"อักษรละติน\">อักษรละติน</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81\" title=\"เลขอารบิก\">เลขอารบิก</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99\" title=\"เครื่องหมายวรรคตอน\">เครื่องหมายวรรคตอน</a> และ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C\" title=\"สัญลักษณ์\">สัญลักษณ์</a>ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้น<o:p></o:p> \n\nที่มา : <a href=\"http://www.th.wikipedia.org/\">www.th.wikipedia.org</a>\n\n\n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>6. รัหสเอบซีดิก คือเป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/IBM\" title=\"IBM\">IBM</a> ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัส<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B5\" title=\"แอสกี\">แอสกี</a> (ASCII) มากกว่า<o:p></o:p> \n\nที่มา : <a href=\"http://www.th.wikipedia.org/\">www.th.wikipedia.org</a>\n\n\n\n<hr id=\"null\" />\n \n7. รหัสยูนิโค้ด คือ\n\n คือ<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1\" title=\"มาตรฐานอุตสาหกรรม (หน้านี้ไม่มี)\">มาตรฐานอุตสาหกรรม</a>ที่ช่วยให้<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C\" title=\"คอมพิวเตอร์\">คอมพิวเตอร์</a>แสดงผลและจัดการ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3\" title=\"ข้อความตัวอักษร\">ข้อความตัวอักษร</a>ที่ใช้ใน<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99\" title=\"ระบบการเขียน\">ระบบการเขียน</a>ของ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2\" title=\"ภาษา\">ภาษา</a>ส่วนใหญ่ในโลกได้อย่างสอดคล้องกัน ยูนิโคดประกอบด้วยรายการ<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0&action=edit&redlink=1\" title=\"อักขระ (หน้านี้ไม่มี)\">อักขระ</a>ที่แสดงผลได้มากกว่า 100,000 ตัว พัฒนาต่อยอดมาจากมาตรฐาน<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5&action=edit&redlink=1\" title=\"ชุดอักขระสากล (หน้านี้ไม่มี)\">ชุดอักขระสากล</a> (Universal Character Set: UCS) และมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือ The Unicode Standard เป็นแผนผังรหัสเพื่อใช้เป็นรายการอ้างอิง นอกจากนั้นยังมีการอธิบายวิธีการที่ใช้เข้ารหัสและการนำเสนอมาตรฐานของ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0\" title=\"การเข้ารหัสอักขระ\">การเข้ารหัสอักขระ</a>อีกจำนวนหนึ่ง <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3&action=edit&redlink=1\" title=\"การเรียงลำดับอักษร (หน้านี้ไม่มี)\">การเรียงลำดับอักษร</a> กฎเกณฑ์ของการรวมและการแยกอักขระ รวมไปถึงลำดับการแสดงผลของอักขระสองทิศทาง (เช่น<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A\" title=\"อักษรอาหรับ\">อักษรอาหรับ</a>หรือ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3%E0%B8%AE%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B9\" title=\"อักษรฮีบรู\">อักษรฮีบรู</a>ที่เขียนจากขวาไปซ้าย)<o:p></o:p> ที่มา : www.th.wikipedia.org<o:p></o:p><o:p> </o:p><o:p></o:p>\n<hr id=\"null\" />\n8. อุุปกรณ์ส่งออก (Output Device) คือ ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์<o:p></o:p> \n\nที่มา : <a href=\"http://www.th.wikipedia.org/\">www.th.wikipedia.org</a>\n\n\n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p><o:p> </o:p>9. ระบบเลขฐานสอง <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82\" title=\"ระบบเลข\">ระบบเลข</a>ที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/0\" title=\"0\">0</a> (ศูนย์) กับ <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/1\" title=\"1\">1</a> (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น<o:p></o:p> \n\nที่มา : <a href=\"http://www.cdt.ob.th/\">www.cdt.ob.th</a>\n\n\n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>10. ระบบเลขฐานแปด อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7<o:p></o:p>ที่มา : www.th.wikipedia.org<o:p></o:p> \n\n\n<hr id=\"null\" />\n\n\n<o:p></o:p>11.ระบบเลขฐานสิบหก อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก 6 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน 10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F <o:p></o:p>\n\nที่มา : <a href=\"http://www.cdt.ob.th/\">www.cdt.ob.th</a>\n\n\n<hr id=\"null\" />\n<o:p></o:p>\n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b77a145fcd0a74564d8b974c52965173' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b2c8e45f92f20325cd988d575a494860' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = 'ใบงานที่ 1<o:p></o:p>\n1. ระบบสารสนเทศ (InformationSystem ) หมายถึงระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์ มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บหรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมุลนั้นกลายเป็น สารสนเทศที่ดีสามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว<o:p></o:p>\n2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความหรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วนขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูลดังนั้นการเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจนั่นเองข้อมูลจึงหมายถึงตัวแทนของข้อเท็จจริง หรือความเป็นไปของสิ่งของที่เราสนใจ ข้อมูล หมายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เราสนใจศึกษา <o:p></o:p>\n3. สารสนเทศ คือ (information) <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8#cite_note-0\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">[1]</a>เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผลการจัดดำเนินการ และการเข้าประเภท<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5\" title=\"ข้อมูล\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">ข้อมูล</a>โดยการรวม<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89\" title=\"ความรู้\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">ความรู้</a>เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้นสารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลายตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิคตามปกติในภาษาพูด แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของ<a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3\" title=\"การสื่อสาร\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">การสื่อสาร</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82&action=edit&redlink=1\" title=\"เงื่อนไข (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">เงื่อนไข</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1&action=edit&redlink=1\" title=\"การควบคุม (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">การควบคุม</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5\" title=\"ข้อมูล\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">ข้อมูล</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A&action=edit&redlink=1\" title=\"รูปแบบ (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">รูปแบบ</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3&action=edit&redlink=1\" title=\"คำสั่งปฏิบัติการ (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">คำสั่งปฏิบัติการ</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89\" title=\"ความรู้\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">ความรู้</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2&action=edit&redlink=1\" title=\"ความหมาย (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">ความหมาย</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94&action=edit&redlink=1\" title=\"สื่อความคิด (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">สื่อความคิด</a> <a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89&action=edit&redlink=1\" title=\"การรับรู้ (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">การรับรู้</a>และ<a href=\"http://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2&action=edit&redlink=1\" title=\"การแทนความหมาย (หน้านี้ไม่มี)\" style=\"background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: initial\">การแทนความหมาย</a><o:p></o:p>\n4. เทคโนโลยี คือ เป็นการนำเอาแนวความคิดหลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ทั้งในด้านสิ่งประดิษฐ์และวิธีปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น<o:p></o:p>\n5. เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนาและการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้\nที่มา. <a href=\"http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm\">http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm</a> \n', created = 1714830800, expire = 1714917200, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b2c8e45f92f20325cd988d575a494860' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

เมื่อ เสาร์, 04/06/2011 - 14:41 | แก้ไขล่าสุด ศุกร์, 05/08/2011 - 15:58| โดย

pnckruuciap

เว็บเกี่ยวกัีบ เทคโนโลยีสารสนเทศ

แหล่งอ้างอิง:

หนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ ม. 4

pnckruuciap's blog |

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น |

อ่าน 438233 ครั้ง

khanittha pheingkeaw เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 21:59

ระบบสารสนเทศ (Information System หรือ IS)
เป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ (input) การจัดการ
(processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนเก็บข้อมูล (storage)

องค์ประกอบของระบบสารสนเทศคือฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, มนุษย์, กระบวนการ, ข้อมูล ,เครือข่าย

ระบบสารสนเทศนั้นจะประกอบด้วย

ข้อมูล (Data) หมายถึง ค่าของความจริงที่ปรากฏขึ้น โดยค่าความจริงที่ได้จะนำมาจัดการปรับแต่งหรือประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ
สารสนเทศ (Information) คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกตามกฎเกณฑ์ตามหลักความสัมพันธ์ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นมีประโยชน์และมีความหมายมากขึ้น
การจัดการ
(Management) คือ การบริหารอย่างเป็นระบบ
เป็นการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการจัดการขององค์กรนั้น ซึ่งต้องมีการวางแผน
กำหนดการ และจัดการทรัพยากรภายในองค์กร
เพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์กรนั้น

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pnckruuciap เมื่อ จันทร์, 20/06/2011 - 23:04

ครูต้องการใจความสำคัญ แค่ ไม่เกิน 2 บรรทัด ค่ะ ไม่ใชยาวเป็น 5 หน้าแบบนี้ ไปก๊อปปี้ที่ไหนมาค่ะ

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncnitida เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 21:44

องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศเป็นงานที่ต้องใช้ส่วนประกอบหลายอย่าง
ในการทำให้เกิดเป็นกลไกในการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

นักเรียนลองนึกดูว่า
ถ้าต้องการประมวลผลรายงานการเรียนของนักเรียนได้อย่าง ถูกต้อง รวดเร็ว
ทันการ ระบบการจัดการสารสนเทศนั้น เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ประการแรกคือ
บุคลากรหรืออาจารย์ประจำชั้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ
หรืออาจารย์ผู้สอนแต่ละรายวิชา ประการที่สอง คือ หากมีการบันทึก
ข้อมูลก็ต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานของอาจารย์เป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อไร อย่างไร ประการที่สาม คือ เครื่องคอมพิวเตอร์
เป็นเครื่องช่วยให้การทำงานให้ผลรวดเร็ว และคำนวณได้แม่นยำถูกต้อง
ประการที่สี่ คือ
ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทำให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ตามที่ต้องการได้
ประการสุดท้ายคือ ตัวข้อมูลที่เป็นเสมือนวัตถุดิบที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสารสนเทศตามที่ต้องการ

ส่วนประกอบที่สำคัญของระบบสารสนเทศมี 5 ส่วนคือ

1. ฮาร์ดแวร์(เครื่องจักรอุปกรณ)์

2. ซอฟต์แวร์
3. ข้อมูล

4. บุคลากร

5.ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

ส่วนประกอบทั้งห้าส่วนนี้ทำให้เกิดสารสนเทศได้ หากขาดส่วนประกอบใด
หรือส่วนประกอบใดไม่สมบูรณ์ ก็อาจทำให้ระบบสารสนเทศ ไม่สมบูรณ์ เช่น
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสมกับงาน ก็จะทำให้งานล่าช้า ไม่ทันต่อการใช้งาน
การดำเนินการระบบสารสนเทศจึงต้องให้ความสำคัญ กับส่วนประกอบทั้งห้านี้

บุคลากร เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ
เพราะบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และเข้าใจวิธีการให้ได้มาซึ่งสารสนเทศ
จะเป็นผู้ดำเนินการ ในการทำงานทั้งหมด บุคลากรจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
บุคลากรภายในองค์กรเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เกิด ระบบสารสนเทศด้วยกันทุกคน เช่น
ร้านขายสินค้าแห่งหนึ่ง บุคลากรที่ดำเนินการในร้านค้าทุกคน ตั้งแต่ผู้จัดการถึงพนักงานขาย
เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เกิดสารสนเทศได้

ขั้นตอนการปฏิบัติ
เป็นระเบียบวิธีการปฏิบัติงานในการจัดเก็บรักษาข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่จะทำให้เป็นสารสนเทศได้
เช่น กำหนดให้ มีการป้อนข้อมูลทุกวัน ป้อนข้อมูลให้ทันตามกำหนดเวลา มีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องอยู่เสมอ
กำหนดเวลาในการประมวลผล การทำรายงาน การดำเนินการ ต่าง ๆ ต้องมีขั้นตอน
หากขั้นตอนใดมีปัญหาระบบก็จะมีปัญหาด้วย เพราะทุกขั้นตอนมีผลต่อระบบสารสนเทศ

เครื่องคอมพิวเตอร์
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผล คัดเลือก
คำนวณ หรือพิมพ์รายงาน ผลตามที่ต้องการ
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำในการทำงาน
และทำงานได้ต่อเนื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบสารสนเทศ

ซอฟต์แวร์
คือลำดับขั้นตอนคำสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทำงานตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ซอฟต์แวร์ จึงหมายถึงชุดคำสั่งที่เรียง
เป็นลำดับขั้นตอนสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามต้องการ และประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ

ข้อมูล เป็นวัตถุดิบที่ทำให้เกิดสารสนเทศ
ข้อมูลที่เป็นวัตถุดิบจะต่างกัน ขึ้นกับสารสนเทศที่ต้องการ เช่น
ในสถานศึกษามักจะต้องการ สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนักเรียน ข้อมูลผลการเรียน
ข้อมูลอาจารย์ ข้อมูลการใช้จ่ายต่าง ๆ
ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญประการหนึ่งที่มีบทบาทต่อการให้เกิด สารสนเทศ

จากเว็บ http://www.chakkham.ac.th/technology/homepage/page1.html

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pnckruuciap เมื่อ จันทร์, 20/06/2011 - 23:04

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncnitida เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 21:36

1.ระบบสารสนเทศ คือ งานประยุกต์คอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่ทำหน้าที่รับข้อมูล (input) แล้วนำมาประมวลผล (process) ให้เป็นสารสนเทศ(information)ในรูปแบบต่าง ๆที่เป็นประโยชน์แก่การใช้งาน

2. ข้อมูล คือ ข้อ
เท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ
หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่นภาพ เสียง
วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบ
ถ้วนขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูล
ดังนั้นการเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่
เราสนใจนั่นเองข้อมูลจึงหมายถึงตัวแทนของข้อเท็จจริง
หรือความเป็นไปของสิ่งของที่เราสนใจ

ข้อมูล หมายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เราสนใจศึกษา

3. สารสนเทศ คือ

ข้อมูล
ต่างๆ
ที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหรือมีการประมวลหรือวิเคราะห์ผลสรุปด้วยวิธีการ
ต่างๆให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมาย
มีคุณค่าเพิ่มขึ้นและมีวัตถุประสงค์ในการใช้งาน(ไพโรจน์ คชชา, 2542)

4. เทคโนโลยี คือ การ
ใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ระเบียบวิธี
กระบวนการตลอดจน
ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อ
ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น….

5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล

การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้ได้สารสนเทศที่

เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pnckruuciap เมื่อ จันทร์, 20/06/2011 - 23:04

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

khanittha pheingkeaw เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 19:49

ครูค่ะ...นู๋ยังไม่ได้รหัสแกนนำเลยค่ะ

น.ส.ขนิษฐา เพียงแก้ว ม.4/1ค่ะ

ขอ...ความกรุณาครูช่วยดูไห้นู๋ด้วยนะค่ะ......

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncsupawanee เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 19:16

ใบงานที่2 1.ฮาร์ดแวร์ คือ องค์ประกอบสำคัญ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้างที่มา http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what-hardware-navy34

2.ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นชุดคำสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงานที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C

3.บุคลากร คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานคอมพิวเตอร์ที่มา http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page43.htm

4.Spss คือ SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและงานวิจัย ที่มีประวัติการพัฒนามานานหลายสิบปี
มีสถิติให้เลือกใช้หลายประเภท ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของผู้ใช้ทั่วไป
แต่การนำ spss มาใช้โดยที่ผู้ใช้มิได้เริ่มต้นอย่างถูกวิธีย่อมจะทำให้ดูแลยาก
ดังนั้นเวปไซด์นี้จึงเอาความรู้พื็นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้ SPSS มานำเสนอ

ที่มา http://www.watpon.com/spss/

5.รหัสแอสกี คือ แอสกี หรือ รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ ^[1] (อังกฤษ:

ASCII: American Standard Code for Information Interchange) เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้น

ที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html

6.รหัสเอบซีดิก คือเอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย ^[1] (อังกฤษ:

EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่าที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html

7.รหัสยูนิโก้ คือ รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่าง ๆ รหัสยูนิโค้ด เป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิด ที่ได้กล่าวมา คือใช้เลขฐานสอง 16 บิต ในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกในบางภาษา เช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพ ซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถ แทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วยที่มา http://sek-mod.blogspot.com/2009/10/blog-post_9057.html

8.อุปกรณ์ส่งออก คือ อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ที่มา http://teacher.skw.ac.th/salunyar/40102/unit_03/p_309.htm

9.ระบบเลขฐานสอง คือ (Binary Numbering SyStem)ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร เสียง หรือรูปภาพนั้น เมื่อนำเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำการเข้ารหัสหรือแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปเลขฐานสอง และประมวลผลเสร็จแล้วจึงทำการแปลงข้อมูลกลับมาในรูปแบบที่มนุษย์เข้าใจ ระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วยสัญลักษณ์เพียง 2 ตัว คือ 0 และ 1ที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/

10.ระบบเลขฐานแปด คือ (Octal Numbering System)ระบบฐานสิบไม่มีสัญลักษณ์สำหรับเลข 10 ระบบเลขฐานสองไม่มีสัญลักษณ์เลข 2 ดังนั้นในระบบเลขฐานแปดจึงไม่มีสัญลักษณ์เลข 8 สรุปได้ว่า สัญลักษณ์ที่ใช้ในระบบเลขฐานแปด มีจำนวนทั้งสิ้น 8 ตัว ได้แก่ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ7ที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/

11.ระบบเลขฐานหก คือ (Hexadecimal Numbering System)ในระบบเลขฐานสิบหกมีสัญลักษณ์ที่ใช้ในระบบเลขฐานสิบหก จำนวน 16 ตัว ได้แก่ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, A, B, C, E, Fที่มา http://rampasri.wordpress.com/2010/06/20/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncsupawanee เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 18:52

ใบงานที่1 1.ระบบสารสนเทศ คือ ระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์
มาช่วยในการรวบรวมจัดเก็บหรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นสารสนเทศที่ดี สามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง

3.สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

4.เทคโนโลยี คือ เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์
และเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์

5.เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncwannasiri เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 18:45

ใบงานที่ 2

1. ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ที่มา: http://www.pbps.ac.th/e_learning/combasic/hardware.html

2. ซอฟต์แวร์ คือ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของ มี 2 ประเภท

-ซอฟต์แวร์ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบหน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์

ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่างๆของระบบคอมพิวเตอร์ เช่นรับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้

คอมพิวเตอร์เข้าใจ -ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ ซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ฯลฯ ที่มา: http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/software/index.html

3. บุคลากร คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้
1.) ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2.) นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3.) โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4.) ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการที่มา: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=735f5fb95c3f9ee9

         4. spss คือ โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ
            S = Statistical
            P = Package
            S = Social
           S = Scientists
          SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่จัดทำขึ้นสำหรับงานวิจัย
         มีคำสั่งหลากหลายคำสั่ง เป็นโปรแกรมย่อย ๆ อยู่ภายใต้โปรแกรมใหญ่ ที่มา:
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0f8fc2c6be023db5&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dspss%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD

5. รหัสแอสกี คือ มาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นคำย่อมาจาก American Standard Code Information Interchange เป็นรหัส 8 บิต แทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ 256 ตัว เมื่อใช้แทนตัวอักษรภาษาอังกฤษแล้วยังมีเหลืออยู่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ได้กำหนดรหัสภาษาไทยเพิ่มลงไปเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ ตามตาราง

ที่มา:http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information2/techno2_4.htm

6. รัหสเอบซีดิกหรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย คือ ^[1] (อังกฤษ: EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่าที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81

7. รหัสยูนิโค้ด คือ เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้น ซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย ที่มา: http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm

8. อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิด เป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู input device เปรียบเทียบ

9. ระบบเลขฐานสอง คือ ตัวเลขที่มีค่าไม่ซ้ำกันสองหลัก ( 0 และ 1) เป็นเลขฐานเดียวที่เข้ากันได้กับ Hardware ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพราะการใช้เลขฐานอื่น จะสร้างความยุ่งยากให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก เช่น เลขฐานสิบมีตัวเลขที่เป็นสถานะที่ต่างกันถึง 10 ตัว ในขณะที่ระบบไฟฟ้ามีเพียง 2 สถานะ ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้น แต่ละหลักของเลขฐานสอง เรียกว่า Binary Digit (BIT) ที่มา: http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

10. ระบบเลขฐานแปด มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 3 หลัก แทนด้วยเลขฐานแปด 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 6 บิท แทนด้วยเลขฐานแปด 2 บิท การใช้เลขฐานแปดแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง ที่มา : http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

11.เลขฐานสิบหก มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 4 หลัก แทนด้วย
เลขฐานสิบหก 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 8 บิทแทนด้วยเลขฐานสิบหก 2 บิท การใช้เลขฐานสิบหกแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง ที่มา: http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpimpa เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 18:57

ถึง อ.เดือนฉาย นู๋น.ส.พิมพา เฮงประเสริฐ ม.4/1 ขออนุญาติ อ.ส่งงานเป็นฝากไฟล์ทางเว็บนะค่ะ เพราะหนู ไม่รู้ส่งทาง word ยังไงค่ะ เพราะไม่มีให้หนู่แนบไฟล์

งานที่1

http://www.tempf.com/getfile.php?id=967670&key=4dfc916020894

งานที่2

http://www.tempf.com/getfile.php?id=967664&key=4dfc8ef18fbd5

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpimpa เมื่อ ศุกร์, 24/06/2011 - 19:38

แก้ไข จากงานอันเก่าค่ะ

ใบงานที่1

1. ระบบสารสนเทศ (Information System ) หมายถึง ระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์

มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ หรือจัดการกับข้อมูลข่าวสาร
ที่มาhttp://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/pichai_l/it01/itsystem.htm

2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ
ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง
ๆ เช่น ภาพ เสียง
ที่มา http://www.thaigoodview.com/node/27183

3.สารสนเทศ คือ เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ
แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข ข้อมูล
รูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการ สื่อความคิด และการแทนความหมาย
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/สารสนเทศ

4.เทคโนโลยี คือ การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและวิทยาศาสตร์
มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงาน เช่น ระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ
เพื่อให้การดำรงชีวิตของมนุษย์ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/เทคโนโลยี

5.เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ
การเก็บรวบรวมข้อมูลการประมวลผล และการสื่อสารโทรคมนาคม
เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ที่มา http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm

ใบงานที่ 2

1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง ที่สามารถสัมผัสได้
ที่มา ; http://www.navy34.com/index.php/com-hardware/205-what hardware-navy34

2. ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคำสั่ง
หรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ซอฟต์แวร์แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ 1. ซอฟต์แวร์ระบบ 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์
ที่มา;http://www.navy34.com/index.php/com-software/206 what-hardware-navy34

3.บุคลากรหมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) 2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) 3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) 4. ผู้ใช้ (User)
ที่มา; http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro com/wbi1/hie/page43.htm

4. spss คือ เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยตรง
ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=74dc29ba5576a33a

5.รหัสแอสกี คือ
เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารข้อมูล
รหัสแทนข้อมูลชนิดนี้ใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิตหรือเท่ากับ 1 ไบต์
ที่มา http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3

6. รหัสเอบซีดิก คือ รหัสแทนข้อมูล การกำหนดรหัสจะใช้ 8 บิต
ต่อหนึ่งอักขระ แต่แบบของรหัสที่กำหนดจะแตกต่างกัน
โดยรหัสเอ็บซิดิกจะเรียงลำดับแต่ละบิตที่ใช้แทนอักขระ
ที่มา http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3

7. รหัสยูนิโค้ด คือ มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ
รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร
สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว
ที่มา http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/vocab6.htm#v3
8. อุปกรณ์ส่งออก คือ ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจาก หน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก
ที่มา http://www.sawi.ac.th/elearning/hardware/output.html

9. ระบบเลขฐานสอง อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 2 ตัว ได้แก่เลข 0
กับ เลข 1 ซึ่งเป็นเลขฐานที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ง่าย
เพราะว่าอุปกรณ์ทางไฟฟ้าก็มีสถานะเพียง 2 สถานะ คือ เปิด กับ ปิด
ซึ่งก็เทียบได้กับ 0 กับ 1
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/Radix

10.ระบบเลขฐาน 8 คือ เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัว
ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ซึ่งเป็นเลขฐานที่เพิ่มเนื้อที่หน่วยความจำในการเก็บให้มากขึ้น
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/Radix

11.ระบบเลขฐาน 16 (Hexadecimal Number System)
เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก 6 ตัว
ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน
10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F ซึ่งก็จะเก็บข้อมูลได้
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/Radix

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pnckruuciap เมื่อ จันทร์, 20/06/2011 - 23:05

ให้พิมพ์ใน word ไว้รอขึ้นเว็บตัวเองค่ะ

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncjutarat เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 17:24

ใบงานที่1

ระบบสารสนเทศ คือ (Information System หรือ IS) เป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ (input) การจัดการ (processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนเก็บข้อมูล (storage)

ข้อมูล (Data) หมายถึง ค่าของความจริงที่ปรากฏขึ้น โดยค่าความจริงที่ได้จะนำมาจัดการปรับแต่งหรือประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการ สารสนเทศ (Information) คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกตามกฎเกณฑ์ตามหลักความสัมพันธ์ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นมีประโยชน์และมีความหมายมากขึ้น เทคโนโลยี ความหมายค่อนข้างกว้าง โดยทั่วไปหมายถึง การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและต่อเนื่องมาถึงวิทยาศาสตร์ มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ อันก่อให้เกิดวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่มา : http://th.wikipedia.org/

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncwannasiri เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 17:15

ใบงานที่1 1.ระบบสารสนเทศ คือ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-2.htm

2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความ หรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วน ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูล ที่มา: http://www.thaigoodview.com/node/27183

3. สารสนเทศ คือ ผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิคที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8

4. เทคโนโลยี คือ การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์
และเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-1.htm

5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pnckhwanjira เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 15:30

ใบงานที่11.ระบบสารสนเทศ คือ ระบบของการจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล โดยอาศัยบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินการ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมกับงานหรือภารกิจแต่ละอย่าง แหล่งที่มา http://blog.eduzones.com/dena/48922. ข้อมูล คือ ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่มีอยู่ในรูปของตัวเลข ภาษา ภาพ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีความหมายเฉพาะตัว ซึ่งยังไม่มีการประมวลไม่เกี่ยวกับการนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ… (ไพโรจน์ คชชา, 2542) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2525) ให้ความหมายของ ข้อมูล(Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ถือหรือยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง สำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือ การคำนวณข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่อยู่ในรูปของตัวเลขหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ยังไม่ผ่านการประมวลข้อมูล (มนตรี ดวงจิโน, 2546) ” กล่าวโดยสรุป ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล”แหล่งที่มา http://www.คืออะไร.com/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/3. สารสนเทศ คือ เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิค ตามปกติในภาษาพูด แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข การควบคุม ข้อมูล รูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการ ความรู้ ความหมาย สื่อความคิด การรับรู้ และการแทนความหมายแหล่งที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A84. เทคโนโลยี คือ เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี ผู้คนส่วนใหญ่อาจนึกถึงเครื่องมือเครื่องจักรเชิงกลหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย แต่ความเป็นจริงคือ เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของมนุษย์มาเป็นเวลานานตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์นำความรู้จากธรรมชาติวิทยามาคิดค้นและดัดแปลงธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานในการดำรงชีวิต ในระยะแรกเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นระดับพื้นฐานอาทิ การเพาะปลูก การชลประทาน การก่อสร้าง การทำเครื่องมือเครื่องใช้ การทำเครื่องปั้นดินเผา การทอผ้า เป็นต้น ปัจจัยการเพิ่มจำนวนของประชากร ข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญในการนำและการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันมาก เทคโนโลยีเกิดจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถ่ายทอดมาจากประเทศตะวันตก ซึ่งศึกษาค้นคว้าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์ (คริสต์ศตวรรษที่ 16-17) ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าควบคู่ไปกับวิทยาศาสตร์ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่เกิดจากการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คือการพยายามที่อธิบายว่าทำไมจึงเกิดอย่างนั้น เช่น นักฟิสิกส์ อธิบายว่า เมื่อขดลวดตัดสนามแม่เหล็กจะได้กระแสไฟฟ้า และน้ำเกิดจากไฮโดรเจนผสมกับออกซิเจน เป็นต้น ตั้งเป็นกฎเกณฑ์และทฤษฎีเพื่อถ่ายทอดและสอนให้ผู้อื่นได้ศึกษาและพัฒนาแหล่งที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5 5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล
การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่
เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แหล่งที่มา http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncbaitoey เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 10:04

ครูคะ.

การบ้านดูตรงไหนคะๆ

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpatcharin เมื่อ เสาร์, 18/06/2011 - 08:04

ใบงานที่ 2

1.ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit :CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน

ที่มา :www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro.../page41.htm

2.ซอฟแวร์ หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ1). ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software) คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพื่อคอยควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่าง และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการใช้งาน ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมระบบที่รู้จักกันดีก็คือ DOS, Windows, Unix, Linux รวมทั้งโปรแกรมแปลคำสั่งที่เขียนในภาษาระดับสูง เช่น ภาษา Basic, Fortran, Pascal, Cobol, C เป็นต้น นอกจากนี้โปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบระบบเช่น Norton’s Utilities ก็นับเป็นโปรแกรมสำหรับระบบด้วยเช่นกัน2.) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น

ที่มา: http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page42.htm

3.บุคลากร หมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้
1.) ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2.) นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3.) โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4.) ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการที่มา: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=735f5fb95c3f9ee9

4.Spss คือ โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ
S = Statistical
P = Package
S = Social
S = Scientists
SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่จัดทำขึ้นสำหรับงานวิจัย
มีคำสั่งหลากหลายคำสั่ง เป็นโปรแกรมย่อย ๆ อยู่ภายใต้โปรแกรมใหญ่ ที่มา:
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0f8fc2c6be023db5&table=%2Fguru%2Fsearch%3Fq%3Dspss%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD

5.รหัสแอสกี คือ aรหัสแอสกี (ASCII) เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นคำย่อมาจาก American Standard Code Information Interchange เป็นรหัส 8 บิต แทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้ 256 ตัว เมื่อใช้แทนตัวอักษรภาษาอังกฤษแล้วยังมีเหลืออยู่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ได้กำหนดรหัสภาษาไทยเพิ่มลงไปเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ ตามตาราง ที่มา:http://a.1asphost.com/chalin623/drinking48/information2/techno2_4.htm

6.รหัสเอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย ^[1] (อังกฤษ: EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่าที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81

7. รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้น ซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย ที่มา: http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm

8.อุปกรณ์ส่งออก (output device) หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิด เป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู input device เปรียบเทียบที่มา:http://guru.sanook.com/dictionary/dict_comp/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81/

9. เลขฐานสอง คือ ตัวเลขที่มีค่าไม่ซ้ำกันสองหลัก ( 0 และ 1) เป็นเลขฐานเดียวที่เข้ากันได้กับ Hardware ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพราะการใช้เลขฐานอื่น จะสร้างความยุ่งยากให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก เช่น เลขฐานสิบมีตัวเลขที่เป็นสถานะที่ต่างกันถึง 10 ตัว ในขณะที่ระบบไฟฟ้ามีเพียง 2 สถานะ ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งๆมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้น แต่ละหลักของเลขฐานสอง เรียกว่า Binary Digit (BIT) ที่มา: http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

10. เลขฐานแปด มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 3 หลัก แทนด้วยเลขฐานแปด 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 6 บิท แทนด้วยเลขฐานแปด 2 บิท การใช้เลขฐานแปดแทนเลขฐานสองทำให้จำนวนบิทสั้นลง

ที่มา : http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncnitida เมื่อ ศุกร์, 17/06/2011 - 21:43

การบ้านคือ???? อะไรค่ะ

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpatcharin เมื่อ ศุกร์, 17/06/2011 - 20:30

^{ใบงานที่ 1}^{1.ระบบสารสนเทศ หมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บข้อมูล และประมวลผลเป็นสารสนเทศ โดยอาศัยบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินการ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมกับงานหรือภารกิจแต่ละอย่าง ที่มา: http://blog.eduzones.com/dena/4892}

^{2.ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือสาระต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติ อาจเป็นตัวเลขหรือข้อความที่เกิดขึ้นจาก การ ดำเนินงาน หรือที่ได้จากหน่วยงานอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในการตัดสินใจได้ทันที จะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว}

^{ที่มา : http://www.chakkham.ac.th/technology/techno2/page1.html}

^{3.สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไปให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์ หรือ มีความเกี่ยว ข้องกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหรือตอบปัญหาต่าง ๆ}^{ที่มา: http://www.chakkham.ac.th/technology/techno2/page1.html}^{4.เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์}^{ที่มา:}^{http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-1.htm}

^{5.เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้}

^{ที่มา:}^{http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm}

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpeerapan เมื่อ ศุกร์, 17/06/2011 - 20:01

อาจารย์เดือนฉายคัฟใบงานที่3ออกยังคัฟ

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncwanatsavee เมื่อ อาทิตย์, 19/06/2011 - 11:22

ใบงานที่2

1. ฮาร์ดแวร์
   ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์รอบข้าง รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจเมื่อพิจารณาเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งเป็น 3 หน่วย คือ
        -หน่วยรับข้อมูล (input unit) ได้แก่ แผงแป้นอักขระ เมาส์
        -หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
        -หน่วยแสดงผล (output unit) ได้แก่ จอภาพ เครื่องพิมพ์
ที่มา:http://www.thaigoodview.com

2 . ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการที่สอง ซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งงานให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการของการใช้งาน
ประเภทของซอร์ฟแวร์
1.การแบ่งเชิงเทคนิค แบ่งออกเป็น3ประเภทหลัก คือ
-ซอฟต์แวร์ระบบ ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้
-โปรแกรมประยุกต์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไป
-โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้
2.การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
-ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการ
-ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป
3.การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
-ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา จัดการทรัพยากรของบุคคล
-ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก
-ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ
ทีมา:http://www.thaigoodview.com

3.บุคลากร
บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ
1.ผู้จัดการระบบ คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2.นักวิเคราะห์ระบบ คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3.โปรแกรมเมอร์ คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4.ผู้ใช้ คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ
ทีมา:http://www.thaigoodview.com

4.spss
เป็นโปรแกรมช่วยประมวลผลทางสถิติค่ะ ก่อนนำมาประมวลผลใน SPSS จะมีการลง code ก่อน ซึ่งแต่ละตัวจะนำมาคำนวณหาตัวเลขทางสถิติโดยใช้สูตรแตกต่างกันไป บางครั้งอาจมีการทดสอบสมมติฐาน เพื่อนำผลที่ได้มาประกอบการตัดสินใจ
ทีมา:http://www.thai3d.net/web

5.รหัสแอสกี
เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่
ที่มา:http://th.wikipedia.org

6.รหัสเอบซีติก
เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่า
ที่มา:http://th.wikipedia.org

7.รหัสยูนิโคด
ช่วยให้คอมพิวเตอร์แสดงผลและจัดการข้อความตัวอักษรที่ใช้ในระบบการเขียนของภาษาส่วนใหญ่ในโลกได้อย่างสอดคล้องกัน ยูนิโคดประกอบด้วยรายการอักขระที่แสดงผลได้มากกว่า 100,000 ตัว พัฒนาต่อยอดมาจากมาตรฐานชุดอักขระสากล (Universal Character Set: UCS) และมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือ The Unicode Standard เป็นแผนผังรหัสเพื่อใช้เป็นรายการอ้างอิง นอกจากนั้นยังมีการอธิบายวิธีการที่ใช้เข้ารหัสและการนำเสนอมาตรฐานของการเข้ารหัสอักขระอีกจำนวนหนึ่ง การเรียงลำดับอักษร กฎเกณฑ์ของการรวมและการแยกอักขระ รวมไปถึงลำดับการแสดงผลของอักขระสองทิศทาง (เช่นอักษรอาหรับหรืออักษรฮีบรูที่เขียนจากขวาไปซ้าย)
ที่มา:http://th.wikipedia.org

8.อุปกรณ์ส่งออก
อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์
ที่มา:http://th.wikipedia.org

9.เลขฐานสอง

เลขฐานสอง หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 กับ 1 บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
ที่มา:http://th.wikipedia.org

10.เลขฐานแปด
เลขฐานแปด หรือ อัฐนิยม (Octal) หมายถึง ระบบตัวเลขที่มีตัวเลขแปดตัว คือ 0 - 7 เลขฐานแปดนี้สร้างขึ้นจากเลขฐานสอง โดยการจัดกลุ่มเลขฐานสองออกเป็นกลุ่มละสามตัว (เริ่มจากขวา) ตัวอย่างเช่น เลขฐานสองที่แทนเลข 74 ในฐานสิบ คือ 1001010 เมื่อจัดเป็นกลุ่มละสาม จากขวาไปซ้าย ก็จะได้ 1 001 010 — เลขฐานแปดก็คือ 112
ที่มา:http://th.wikipedia.org

11.เลขฐานสิบหก
เลขฐานสิบหก (hexadecimal) หมายถึงระบบเลขฐานที่มีสัญลักษณ์ 16 ตัว (ฐานสิบมี 10 ตัวคือ 0-9) โดยปกติจะใช้สัญลักษรณ์ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F ในการแสดงหรือเขียนทั้ง 16 ตัว
ที่มา:http://th.wikipedia.org

นางสาววนัสวี กุศล ม.4/1

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncwanatsavee เมื่อ จันทร์, 11/07/2011 - 22:00

ใบงานที่1

1.ระบบสารสนเทศ เป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ การจัดการ เผยแพร่ และมีส่วนเก็บข้อมูล

2.ข้อมูล (data) หรือ ข้อมูลดิบ หมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ก็ได้. ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำ และเป็นปัจจุบัน

3.สารสนเทศ (information) เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูล แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร

4.เทคโนโลยี การนำความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและต่อเนื่องมาถึงวิทยาศาสตร์ มาเป็นวิธีการปฏิบัติและประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ

5.เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี

ที่มา:http://th.wikipedia.org

นางสาววนัสวี กุศล ม.4/1

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncuntika เมื่อ ศุกร์, 17/06/2011 - 16:44

ใบงานที่ 2

1.ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม)ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน

ที่มา : www.blog.eduzones.com

2. ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 1. ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software)คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป ซึ่งจะทำงานใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด เพื่อคอยควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ทุกอย่าง และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการใช้งาน 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่มำให้คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program2.3 ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทำไว้ เพื่อใช้ในการทำงานประเภทต่างๆ ทั่วไป โดยผู้ใช้คนอื่นๆ สามารถนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้กับข้อมูลของตนได้ที่มา : www.thaiwbi.com

3. บุคลากร คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้4. ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ ที่มา : www.thaiwbi.com

4. spss คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยผู้วิจัยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขั้นตอนของการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงคุณภาพ และข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงปริมาณ แต่ในการทำวิจัยทางสาขาการวัดผลและวิจัยการศึกษา ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเชิงปริมาณ

ที่มา : www.watpon.com

5. รหัสแอสกี คือ เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้น

ที่มา : www.th.wikipedia.org

6. รัหสเอบซีดิก คือเป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่า

ที่มา : www.th.wikipedia.org

7. รหัสยูนิโค้ด คือ

คือมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์แสดงผลและจัดการข้อความตัวอักษรที่ใช้ในระบบการเขียนของภาษาส่วนใหญ่ในโลกได้อย่างสอดคล้องกัน ยูนิโคดประกอบด้วยรายการอักขระที่แสดงผลได้มากกว่า 100,000 ตัว พัฒนาต่อยอดมาจากมาตรฐานชุดอักขระสากล (Universal Character Set: UCS) และมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือ The Unicode Standard เป็นแผนผังรหัสเพื่อใช้เป็นรายการอ้างอิง นอกจากนั้นยังมีการอธิบายวิธีการที่ใช้เข้ารหัสและการนำเสนอมาตรฐานของการเข้ารหัสอักขระอีกจำนวนหนึ่ง การเรียงลำดับอักษร กฎเกณฑ์ของการรวมและการแยกอักขระ รวมไปถึงลำดับการแสดงผลของอักขระสองทิศทาง (เช่นอักษรอาหรับหรืออักษรฮีบรูที่เขียนจากขวาไปซ้าย) ที่มา : www.th.wikipedia.org

8. อุุปกรณ์ส่งออก (Output Device) คือ ทำหน้าที่แสดงผลจากการประมวลผล โดยนำผลที่ได้ออกจากหน่วยความจำหลักแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นทางอุปกรณ์ส่งออก อุปกรณ์ส่งออกที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ คือ จอภาพ และเครื่องพิมพ์

ที่มา : www.th.wikipedia.org

9. ระบบเลขฐานสอง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น

ที่มา : www.cdt.ob.th

10. ระบบเลขฐานแปด อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7ที่มา : www.th.wikipedia.org

11.ระบบเลขฐานสิบหก อธิบาย เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก 6 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน 10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F

ที่มา : www.cdt.ob.th

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncsuratchaya เมื่อ พฤ, 16/06/2011 - 23:22

ใบงานที่ 2

1. ฮาร์ดแวร์ คือ หมายถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพคีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วยคือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (CentralProcessing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน

มีกี่ประเภทฮาร์ดแวร์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทครับ
1. หน่วยประมวลผล (Processor)
2. หน่วยความจำ (Memory)
3. อุปกรณ์รับเข้าและส่งออก (Input– Output Devices)
4. ช่องทางสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง (Port)

2. ซอฟต์แวร์ คือ (software) หมายถึงชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่งการทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสองซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกันซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้

การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมายเพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อนบริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋วคอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมายคอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้นการที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญมากและเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ

ซอฟท์แวร์มีสองประเภท

ซอฟต์แวร์ระบบ คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบหน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์เช่น รับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจนำข้อมูลไปแสดงผลบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลบนหน่วยความจำรอง

เมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันทีที่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามโปรแกรมทันทีโปรแกรมแรกที่สั่งคอมพิวเตอร์ทำงานนี้เป็นซอฟต์แวร์ระบบซอฟต์แวร์ระบบอาจเก็บไว้ในรอม หรือในแผ่นจานแม่เหล็ก หากไม่มีซอฟต์แวร์ระบบคอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้

ซอฟต์แวร์ระบบยังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่นๆ และยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาต่าง ๆ

ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรงปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงานฯลฯ

3. บุคลากรคือ หมายถึงบุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานสั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับดังนี้

1. ผู้จัดการระบบ(System Manager)

คือผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน

2. นักวิเคราะห์ระบบ(System Analyst)

คือผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงานเพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน

3. โปรแกรมเมอร์(Programmer)

คือผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้

4. ผู้ใช้(User)

คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องและวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ

เนื่องจากเป็นผู้กำหนดโปรแกรมและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์มนุษย์จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอันที่จะทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากคำสั่งและข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลได้รับจากการกำหนดของมนุษย์ (Peopleware) ทั้งสิ้น

4. SPSS คือ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงคุณภาพ และข้อมูลที่อยู่ในรูปเชิงปริมาณ แต่ในการทำวิจัยทางสาขาการวัดผลและวิจัยการศึกษาข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเชิงปริมาณโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยผู้วิจัยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องมีอยู่ด้วยกันหลายโปรแกรมซึ่งโปรแกรม SPSS ก็เป็นโปรแกรมหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันเป็นส่วนใหญ่เนื่องมาจากใช้งานได้ง่าย และสามารถหามาใช้ได้ง่ายนอกจากนี้โปรแกรมยังมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา อันจะเห็นได้จากรุ่นของโปรแกรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบัน SPSS for Windows พัฒนามาถึงรุ่นที่ 13 แล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่คู่มือการใช้โปรแกรมจะต้องมีการพัฒนาตามให้ทัน เพื่อเสนอคุณสมบัติต่างๆ ที่มีอยู่ในโปรแกรมและคุณสมบัติใหม่ที่ปรากฏในโปรแกรมรุ่นใหม่ให้ผู้ใช้ได้นำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องกับลักษณะงานวิจัยของตน

5. รหัสแฮกคือ ในปัจจุบัน "แฮกเกอร์" นั้นใช้ใน 2ความหมายหลัก ในทางที่ดี และ ไม่ค่อยดีนัก ความหมายที่เป็นที่นิยมและพบได้บ่อยในสื่อนั้น มักจะไม่ดี โดยจะหมายถึง อาชญากรคอมพิวเตอร์.ส่วนในทางที่ดีนั้น "แฮกเกอร์"ยังใช้ในลักษณะของคำติดปาก หมายถึงความเป็นพวกพ้อง หรือ สมาชิกของกลุ่มคอมพิวเตอร์. นอกเหนือจากนี้ คำว่า"แฮกเกอร์" ยังใช้หมายถึงกลุ่มของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถในระดับผู้เชี่ยวชาญตัวอย่างเช่น "นายลินัส ทอร์วอลด์ (Linus Torvalds) ผู้สร้างลินุกซ์นั้นเป็นแฮกเกอร์อัจฉริยะ"

6. รหัสเอบซีดิก คือ เอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย ^[1] (อังกฤษ: EBCDIC:Extended Binary Coded Decimal Interchange Code)เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBMOS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิกตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต(8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลขและเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII)มากกว่า

7. รหัสยูนิโค้ด คือ (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆรหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้นคือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษรเนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือเมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัวหากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิตเราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้นซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบจึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัวซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย

8. อุปกรณ์ส่งออก (OutputDevice) คือ หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำหรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิดเป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู inputdevice เปรียบเทียบ

9. ระบบเลขฐานสอง คือ (อังกฤษ:binary numeral system) หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0(ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่,เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น

ถ้าแปลงค่าเลขฐานสิบ มาเป็นเลขฐานสอง จะได้ดังนี้

1= 1

2= 10

3= 11

4= 100

5= 101

6= 110

7= 111

8= 1000

9= 1001

10= 1010

ในปัจจุบันเลขฐานสองเป็นพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาหลักการของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมีไฟฟ้า) มาใช้ในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือมากกว่านั้นซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นการประมวลผลแบบดิจิทัล

10. ระบบเลขฐานแปด(Octal NumberSystem) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข8 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0,1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ซึ่งเป็นเลขฐานที่เพิ่มเนื้อที่หน่วยความจำในการเก็บให้มากขึ้นการเก็บข้อมูลเป็นเลขฐาน 8 จะทำให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น

11. ระบบเลขฐาน 16 (Hexadecimal Number System) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก6 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8,9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน 10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F ซึ่งก็จะเก็บข้อมูลได้มากกว่าระบบเลขฐาน2 ฐาน 8

การแปลงเลขฐาน 2 เป็นเลขฐาน10 เลขฐาน 2 แต่ละหลักมีเลขประจำหลักต่างกันไปในการแปลงเป็นเลขฐานอื่นโดยเริ่มจาก

         หลักหน่วย   จะเท่ากับ    $20$    หรือเท่ากับ    1

    หลักสิบ       จะเท่ากับ    $21$    หรือเท่ากับ    2

    หลักร้อย     จะเท่ากับ    $22$    หรือเท่ากับ    4

    หลักพัน      จะเท่ากับ    $23$    หรือเท่ากับ    8

    หลักหมื่น    จะเท่ากับ    $24$    หรือเท่ากับ  16

และหลักถัดไปก็จะยกกำลังเพิ่มขึ้นบวกหนึ่งไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนหลักของเลขฐานสอง หรือถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่าตัวเลขจะมีการเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าทุก ๆ จำนวน เริ่มจาก 1 เป็น2 2 เป็น 4 4 เป็น 8 8 เป็น 16 16 เป็น 32 32 เป็น 64ไปเรื่อย ๆ

http://th.wikipedia.org/wiki/Radix

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncsuratchaya เมื่อ พฤ, 16/06/2011 - 23:00

ใบงานที่ 1

1. ระบบสารสนเทศ (InformationSystem ) หมายถึงระบบที่มีการนำคอมพิวเตอร์
มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บหรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมุลนั้นกลายเป็น
สารสนเทศที่ดีสามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว

2. ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจ ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลข ข้อความหรือรายละเอียดซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง วีดิโอไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ ข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องถูกต้องแม่นยำ ครบถ้วนขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการที่ให้ความสำคัญของความรวดเร็วของการเก็บข้อมูลดังนั้นการเก็บข้อมูลจึงเป็นการเก็บรวบรวมเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสิ่งที่เราสนใจนั่นเองข้อมูลจึงหมายถึงตัวแทนของข้อเท็จจริง หรือความเป็นไปของสิ่งของที่เราสนใจ
ข้อมูล หมายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เราสนใจศึกษา

3. สารสนเทศ คือ (information) ^[1]เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผลการจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้นสารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลายตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิคตามปกติในภาษาพูด แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข การควบคุม ข้อมูล รูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการ ความรู้ ความหมาย สื่อความคิด การรับรู้และการแทนความหมาย

4. เทคโนโลยี คือ เป็นการนำเอาแนวความคิดหลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจนผลผลิตทางวิทยาศาสตร์ทั้งในด้านสิ่งประดิษฐ์และวิธีปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น

5. เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนาและการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

ที่มา. http://www.chakkham.ac.th/technology/techno1/c2-3.htm

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncthunwarud เมื่อ พฤ, 16/06/2011 - 22:05

ใบงานที่ 2 1.ฮาร์ดแวร์ คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้2. ซอฟต์แวร์ คือ ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน    มี 2 ประเภท ได้แก่ 1. ซอฟต์แวร์สัมหรับระบบ 2.ซอฟต์แวร์แบบประยุกต์3. บุคลากร คือ บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์   มี 4 ประเภท ได้แก่ 1.ผู้จัดการระบบ 2.นักวิเคราะห์ระบบ 3.โปรแกรมเมอร์ 4.ผู้ใช้4. spss คือ เป็นโปรแกรมสำหรับการจัดการ การประมวลผลการวิเคราะห์ข้อมูล งานวิจัย โดยเฉพาะงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ ซึ่งผู้ใช้จะต้องเข้าใจ ศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง 3 ด้าน คือ สถิติ การวิจัย และโปรแกรม SPSS5. รหัสแอสกี คือ เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้กันมากในระบบคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ เป็นคำย่อมาจาก American Standard Code Information Interchange เป็นรหัส 8 บิต แทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้6. รหัสเอบซีดิก คือ รหัสแทนข้อมูลนี้ไม่เป็นที่นิยมใช้แล้วในปัจจุบัน   การกำหนดรหัส
     จะใช้ 8 บิต ต่อหนึ่งอักขระ เหมือนกับรหัสแอสกี แต่แบบของรหัสที่กำหนดจะแตกต่างกัน
7. รหัสยูนิโค้ด คือ จะเป็นระบบรหัสที่เป็น 16 บิต จึงแทนตัวอักษรได้มากถึง 65,536 ตัว ซึ่ง
     เพียงพอสำหรับตัวอักษรและสัญลักษณ์กราฟฟิกโดยทั่วไป รวมทั้งสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ8. อุปกรณ์ส่งออก (Output Device) 9. ระบบเลขฐานสอง คือ ระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นสอง มีสัญญลักษณ์ 2 ตัว คือ 0 กับ 110. ระบบเลขฐานแปด คือ เป็นระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นแปด มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว คือ
0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 711.ระบบเลขฐานสิบหก คือ      เลขฐานสิบหก มีความสัมพันธ์กับเลขฐานสอง คือ เลขฐานสองจำนวน 4 หลัก แทนด้วย
เลขฐานสิบหก 1 หลัก ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนเลขฐานสอง 8 บิทแทนด้วยเลขฐานสิบหก 2 บิท ที่มา :  http://www.dovepvc.moe.go.th/e_book/maths/page02.html

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncuntika เมื่อ พุธ, 15/06/2011 - 22:54

ใบงานที่

1 1.ระบบสารสนเทศ คือ ระบบที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล ผู้พัฒนาระบบ ผู้ใช้ระบบ พนักงานที่เกี่ยวข้อง และ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่มา : www.blog.eduzones.com

2. ข้อมูล คือ ข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่ต้องป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับโปรแกรมที่นักคอมพิวเตอร์เขียนขึ้นเพื่อผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการออกมา ข้อมูลที่สามารถนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ มี 5 ประเภท คือ ข้อมูลตัวเลข (Numeric Data) ข้อมูลตัวอักษร (Text Data) ข้อมูลเสียง (Audio Data) ข้อมูลภาพ (Images Data) และข้อมูลภาพเคลื่อนไหว (Video Data)

ที่มา : www.thaiwbi.com

3. สารสนเทศ คือ เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน

ที่มา : www.th.wikipedia.org

4. เทคโนโลยี คือ เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของมนุษย์มาเป็นเวลานานตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์นำความรู้จากธรรมชาติวิทยามาคิดค้นและดัดแปลงธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหาพื้นฐานในการดำรงชีวิตที่มา : www.th.wikipedia.org

5. เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ

ที่มา : www.th.wikipedia.org

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpeerapongdeeluan เมื่อ พุธ, 15/06/2011 - 22:00

1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง (Peripheral) ที่สามารถสัมผัสได้ โดยจะประกอบด้วยอุปกรณ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการประมวลผลข้อมูล การรับข้อมูล การแสดงผลข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์

http://www.thaigoodview.com/node/100081?page=2%2C2

2.ซอฟต์แวร์ software) หรือ ส่วนชุดคำสั่ง ^[1] หรือบางครั้งมีการสะกดว่า ซอฟ‌ท์แวร์ เป็นส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ซอฟต์แวร์นั้นนอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือหุ่นยนต์ในโรงงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ คำว่า "ซอฟต์แวร์" ใช้ครั้งแรกโดย จอห์น ดับเบิลยู. เทอร์กีย์ (John W. Turkey) ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) โดยแนวคิดของซอฟต์แวร์ปรากฏครั้งแรกในเรียงความของแอลัน ทัวริง บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ กล่าวกันว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชิ้นแรกของโลกเขียนโดยเอดา ไบรอน เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับเครื่องวิเคราะห์ (analytical engine) ของชาร์ลส แบบเบจ ประเภทของซอฟต์แวร์

หน้าจอของโปรแกรมประยุกต์ เว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์การแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์แบ่งออกได้เป็นหลายแบบ เช่น1. การแบ่งเชิงเทคนิค อาจแบ่งซอฟต์แวร์เป็น 3 ประเภทหลักคือ o ซอฟต์แวร์ระบบ (System/Infrastructure software) ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยรวมถึงระบบปฏิบัติการ ไดรเวอร์ และระบบหลักของคอมพิวเตอร์ต่าง ๆo โปรแกรมประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไปเช่น โปรแกรมสำนักงาน ฐานข้อมูล คอมพิวเตอร์เกม เว็บเบราว์เซอร์ โดยโปรแกรมประยุกต์จะมีจียูไอo โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Tools/Utilities) ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้ เครื่องมือต่าง ๆ ประกอบไปด้วย คอมไพเลอร์ อินเตอร์พรีเตอร์ ดีบักเกอร์2. การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ o ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package software) ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการเป็น transaction หรือ licenseo ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน (Outsources software development) เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป ส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จะเป็นของผู้ที่ว่าจ้างให้พัฒนาขึ้น3. การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ o ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป (Enterprise software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา/จัดการทรัพยากรของ บุคคล/องค์กร เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์จัดทำเอกสาร เป็นต้นo ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก (Mobile applications software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ PDA โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ (1) ซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนธุรกรรมทางธุรกิจ (Business applications) เช่น Mobile banking, Mobile payment, GPS on Mobile, Mobile applications for business process management และ(2) ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการและบันเทิง (Entertainment applications) ซึ่งรวมเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่o ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded System Software) เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ เช่น ระบบ GPRS ระบบทำความเย็นอัจริยะ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ เป็นต้น 3.บุคลากรหมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้1. ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้4. ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการเนื่องจากเป็นผู้กำหนดโปรแกรมและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ มนุษย์จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอันที่จะทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากคำสั่งและข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลได้รับจากการกำหนดของมนุษย์ (Peopleware) ทั้งสิ้นhttp://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page43.htm4. SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและงานวิจัย ที่มีประวัติการพัฒนามานานหลายสิบปี
มีสถิติให้เลือกใช้หลายประเภท ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของผู้ใช้ทั่วไป
แต่การนำ spss มาใช้โดยที่ผู้ใช้มิได้เริ่มต้นอย่างถูกวิธีย่อมจะทำให้ดูแลยาก
ดังนั้นเวปไซด์นี้จึงเอาความรู้พื็นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้ SPSS มานำเสนอhttp://student.nu.ac.th/piya_tada/index.html5.แอสกี หรือ รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ ^[1] (อังกฤษ: ASCII: American Standard Code for Information Interchange) เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้นhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B56.เอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย ^[1] (อังกฤษ: EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่าhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%817. รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้น ซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วยhttp://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm

8.อุปกรณ์ส่งออก

พจนานุกรม ศัพท์คอมพิวเตอร์

อุปกรณ์ส่งออก
output device
อุปกรณ์แสดงผล ความหมาย
หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิด เป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู input device เปรียบเทียบ

http://guru.sanook.com/dictionary/dict_comp/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81/9.เลขฐานสอง (อังกฤษ: binary numeral system) หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้นถ้าแปลงค่าเลขฐานสิบ มาเป็นเลขฐานสอง จะได้ดังนี้

1 = 1
2 = 10
3 = 11
4 = 100
5 = 101
6 = 110
7 = 111
8 = 1000
9 = 1001
10 = 1010

ในปัจจุบันเลขฐานสองเป็นพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาหลักการของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมีไฟฟ้า) มาใช้ในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือมากกว่านั้น ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นการประมวลผลแบบดิจิทัลhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87

110.ระบบเลขฐานแปด เป็นระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นแปด มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว คือ
0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ซึ่งสามารถเปรียบเทียบค่าเลขฐานได้ตามตาราง

เลขฐานสิบ	เลขฐานสอง	เลขฐานแปด
0	000	0
1	001	1
2	010	2
3	011	3
4	100	4
5	101	5
6	110	6
7	111	7

http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/sukanda_p/number/sec02p01.html11.เลขฐานสิบหก (hexadecimal) หมายถึงระบบเลขฐานที่มีสัญลักษณ์ 16 ตัว (ฐานสิบมี 10 ตัวคือ 0-9) โดยปกติจะใช้สัญลักษรณ์ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F ในการแสดงหรือเขียนทั้ง 16 ตัว


0_hex	=	0_dec	=	0_oct	0	0	0	0
1_hex	=	1_dec	=	1_oct	0	0	0	1
2_hex	=	2_dec	=	2_oct	0	0	1	0
3_hex	=	3_dec	=	3_oct	0	0	1	1

4_hex	=	4_dec	=	4_oct	0	1	0	0
5_hex	=	5_dec	=	5_oct	0	1	0	1
6_hex	=	6_dec	=	6_oct	0	1	1	0
7_hex	=	7_dec	=	7_oct	0	1	1	1

8_hex	=	8_dec	=	10_oct	1	0	0	0
9_hex	=	9_dec	=	11_oct	1	0	0	1
A_hex	=	10_dec	=	12_oct	1	0	1	0
B_hex	=	11_dec	=	13_oct	1	0	1	1

C_hex	=	12_dec	=	14_oct	1	1	0	0
D_hex	=	13_dec	=	15_oct	1	1	0	1
E_hex	=	14_dec	=	16_oct	1	1	1	0
F_hex	=	15_dec	=	17_oct	1	1	1	1

ฐานสิบ	ฐานสอง	ฐานสิบหก
30	11110	1E

การแสดงฐานตัวเลขต่างๆในตารางสุดท้ายนี้ จำนวน 30 คือจำนวนตัวเลขของเลขฐานสิบ (decimal)จะสามารถแปลงค่าเท่ากับจำนวน 11110 ของเลขฐานสอง (binary) หรือเท่ากับจำนวน 36 ของเลขฐานแปด (octal) หรือเท่ากับจำนวน 1E ของเลขฐานสิบหก (hexadecimal)สามารถยกตัวอย่างเพิ่มเติม คือจะเห็นว่า จำนวน 31 ของเลขฐานสิบ (decimal)จะสามารถแปลงค่าเท่ากับจำนวน 11111 ของเลขฐานสอง (binary) หรือเท่ากับจำนวน 37 ของเลขฐานแปด (octal) หรือเท่ากับจำนวน 1F ของเลขฐานสิบหก (hexadecimal)ซึ่งสามารถแสดงได้ตามลำดับดังนี้ 31 11111 37 1F ระบบเลขฐานสิบหก (hexadecimal)นี้จะเป็นที่นิยมใช้ในการเข้ารหัส (encode)คำสั่งควบคุมเครื่อง (control code ) ที่อยู่ในระบบเลขฐานสอง ( binary ) ที่มีจำนวนคำสั่งยาวมากๆ ยกตัวอย่างได้เช่นตามคำอธิบายข้างต้น ถ้า 11111 เป็นคำสั่งควบคุมเครื่องในรูปเลขฐานสอง(binary)คือ 11111 ผู้ควบคุมเครื่องอาจจะเข้ารหัส ( encode)คำสั่งควบคุมเครื่องไว้ในรหัสบาร์โค้ด(barcode)ในรูป 1F ถ้าใช้รหัสเลขฐานสิบหก (hexadecimal)ซึ่งบาร์โค้ด(barcode)นั้นเวลาพิมพ์ที่จะใช้ให้เครื่องอ่านคำสั่งควบคุมเครื่อง จะใช้ความยาวของบาร์โค้ด(barcode) 2 ตัว เช่นการใช้ระบบเลขฐานสิบหก (hexadecimal)นี้ในการเข้ารหัส (encode)คำสั่งควบคุมเครื่อง (control code )สำหรับเครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง ( high speed Finishing system) เป็นต้นhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%81ที่มา:www.google.com

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

pncpeerapan เมื่อ พุธ, 15/06/2011 - 20:20

ใบงานที่2

1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
หมายถึง
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง (Peripheral) ที่สามารถสัมผัสได้ โดยจะประกอบด้วยอุปกรณ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการประมวลผลข้อมูล การรับข้อมูล การแสดงผลข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์
http://www.thaigoodview.com/node/100081?page=2%2C2
2.ซอฟต์แวร์ (อังกฤษ: software) หรือ ส่วนชุดคำสั่ง [1] หรือบางครั้งมีการสะกดว่า ซอฟ‌ท์แวร์ เป็นส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ซอฟต์แวร์นั้นนอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือหุ่นยนต์ในโรงงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ คำว่า "ซอฟต์แวร์" ใช้ครั้งแรกโดย จอห์น ดับเบิลยู. เทอร์กีย์ (John W. Turkey) ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) โดยแนวคิดของซอฟต์แวร์ปรากฏครั้งแรกในเรียงความของแอลัน ทัวริง บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ กล่าวกันว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชิ้นแรกของโลกเขียนโดยเอดา ไบรอน เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับเครื่องวิเคราะห์ (analytical engine) ของชาร์ลส แบบเบจ ประเภทของซอฟต์แวร์
หน้าจอของโปรแกรมประยุกต์ เว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์
การแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์แบ่งออกได้เป็นหลายแบบ เช่น
1. การแบ่งเชิงเทคนิค อาจแบ่งซอฟต์แวร์เป็น 3 ประเภทหลักคือ
o ซอฟต์แวร์ระบบ (System/Infrastructure software) ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยรวมถึงระบบปฏิบัติการ ไดรเวอร์ และระบบหลักของคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
o โปรแกรมประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไปเช่น โปรแกรมสำนักงาน ฐานข้อมูล คอมพิวเตอร์เกม เว็บเบราว์เซอร์ โดยโปรแกรมประยุกต์จะมีจียูไอ
o โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Tools/Utilities) ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้ เครื่องมือต่าง ๆ ประกอบไปด้วย คอมไพเลอร์ อินเตอร์พรีเตอร์ ดีบักเกอร์
2. การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ
o ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package software) ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการเป็น transaction หรือ license
o ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน (Outsources software development) เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป ส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จะเป็นของผู้ที่ว่าจ้างให้พัฒนาขึ้น
3. การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
o ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป (Enterprise software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา/จัดการทรัพยากรของ บุคคล/องค์กร เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์จัดทำเอกสาร เป็นต้น
o ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก (Mobile applications software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ PDA โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ (1) ซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนธุรกรรมทางธุรกิจ (Business applications) เช่น Mobile banking, Mobile payment, GPS on Mobile, Mobile applications for business process management และ(2) ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการและบันเทิง (Entertainment applications) ซึ่งรวมเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่
o ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded System Software) เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ เช่น ระบบ GPRS ระบบทำความเย็นอัจริยะ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ เป็นต้น

3.บุคลากรหมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้
1. ผู้จัดการระบบ (System Manager)
คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst)
คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4. ผู้ใช้ (User)
คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ
เนื่องจากเป็นผู้กำหนดโปรแกรมและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ มนุษย์จึงเป็นตัวแปรสำคัญในอันที่จะทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากคำสั่งและข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลได้รับจากการกำหนดของมนุษย์ (Peopleware) ทั้งสิ้น
http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page43.htm
4. SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและงานวิจัย ที่มีประวัติการพัฒนามานานหลายสิบปี
มีสถิติให้เลือกใช้หลายประเภท ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของผู้ใช้ทั่วไป
แต่การนำ spss มาใช้โดยที่ผู้ใช้มิได้เริ่มต้นอย่างถูกวิธีย่อมจะทำให้ดูแลยาก
ดังนั้นเวปไซด์นี้จึงเอาความรู้พื็นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้ SPSS มานำเสนอ
http://student.nu.ac.th/piya_tada/index.html
5.แอสกี หรือ รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ [1] (อังกฤษ: ASCII: American Standard Code for Information Interchange) เป็นรหัสอักขระที่ประกอบด้วยอักษรละติน เลขอารบิก เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ โดยแต่ละรหัสจะแทนด้วยตัวอักขระหนึ่งตัว เช่น รหัส 65 (เลขฐานสิบ) ใช้แทนอักษรเอ (A) พิมพ์ใหญ่ เป็นต้นhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B5
6.เอบซีดิก หรือ รหัสสับเปลี่ยนเลขฐานสิบเข้ารหัสฐานสองแบบขยาย [1] (อังกฤษ: EBCDIC: Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) เป็นรหัสอักขระ 8 บิตที่พัฒนาโดยบริษัท IBM ซึ่งพัฒนาสำหรับระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่ โดยเป็นรหัสสำหรับไฟล์ข้อความที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ IBM OS-390 สำหรับเครื่องแม่ข่าย S/390 และบริษัทจำนวนมากใช้กับโปรแกรมประยุกต์ legacy application และฐานข้อมูล ในไฟล์เอบซีดิก ตัวอักษรพยัญชนะและตัวเลขได้รับการนำเสนอเป็นเลขฐานสอง 8 บิต (8 ตัวอักษรของ 0 และ 1) ทำให้สามารถสร้างรหัสได้ 256 รหัส (2 ยกกำลัง 8) ได้แก่ ตัวพยัญชนะ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้รหัสแอสกี (ASCII) มากกว่าhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81
7. รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสที่สร้างขึ้นมาในระยะหลังที่มีการสร้างแบบตัวอักษรของภาษาต่างๆ รหัสยูนิโค้ดเป็นรหัสที่ต่างจาก 2 ชนิดที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือใช้เลขฐานสอง 16 บิตในการแทนตัวอักษร เนื่องจากที่มาของการคิดค้นรหัสชนิดนี้ คือ เมื่อมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศและมีการสร้างแบบตัวอักษร (font) ของภาษาต่างๆ ทั่วโลก ในบางภาษาเช่น ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาที่เรียกว่าภาษารูปภาพซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต เราสามารถแทนรูปแบบตัวอักษรได้เพียง 256 รูปแบบที่ได้อธิบายมาข้างต้น ซึ่งไม่สามารถแทนตัวอักษรได้ครบ จึงสร้างรหัสใหม่ขึ้นมาที่สามารถแทนตัวอักขระได้ถึง 65,536 ตัว ซึ่งมากพอและสามารถแทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย
http://www.ns.ac.th/course/webit/lesson2/lesson2_26.htm

8.อุปกรณ์ส่งออก

พจนานุกรม ศัพท์คอมพิวเตอร์

อุปกรณ์ส่งออก
output device
อุปกรณ์แสดงผล
ความหมาย
หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำ หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล การแสดงนั้นอาจแสดงผ่านทางอุปกรณ์ได้หลายชนิด เป็นต้นว่า จอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก ดู input device เปรียบเทียบ

http://guru.sanook.com/dictionary/dict_comp/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%...
9.เลขฐานสอง (อังกฤษ: binary numeral system) หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
ถ้าแปลงค่าเลขฐานสิบ มาเป็นเลขฐานสอง จะได้ดังนี้
• 1 = 1
• 2 = 10
• 3 = 11
• 4 = 100
• 5 = 101
• 6 = 110
• 7 = 111
• 8 = 1000
• 9 = 1001
• 10 = 1010
ในปัจจุบันเลขฐานสองเป็นพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาหลักการของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมีไฟฟ้า) มาใช้ในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือมากกว่านั้น ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นการประมวลผลแบบดิจิทัล
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%...
1
10.ระบบเลขฐานแปด เป็นระบบตัวเลขที่มีค่าฐานเป็นแปด มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว คือ
0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7
ซึ่งสามารถเปรียบเทียบค่าเลขฐานได้ตามตาราง
เลขฐานสิบ เลขฐานสอง เลขฐานแปด
0 000 0
1 001 1
2 010 2
3 011 3
4 100 4
5 101 5
6 110 6
7 111 7

http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/sukanda_p/number...

11.เลขฐานสิบหก (hexadecimal) หมายถึงระบบเลขฐานที่มีสัญลักษณ์ 16 ตัว (ฐานสิบมี 10 ตัวคือ 0-9) โดยปกติจะใช้สัญลักษรณ์ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F ในการแสดงหรือเขียนทั้ง 16 ตัว

0hex = 0dec = 0oct 0 0 0 0
1hex = 1dec = 1oct 0 0 0 1
2hex = 2dec = 2oct 0 0 1 0
3hex = 3dec = 3oct 0 0 1 1

4hex = 4dec = 4oct 0 1 0 0
5hex = 5dec = 5oct 0 1 0 1
6hex = 6dec = 6oct 0 1 1 0
7hex = 7dec = 7oct 0 1 1 1

8hex = 8dec = 10oct 1 0 0 0
9hex = 9dec = 11oct 1 0 0 1
Ahex = 10dec = 12oct 1 0 1 0
Bhex = 11dec = 13oct 1 0 1 1

Chex = 12dec = 14oct 1 1 0 0
Dhex = 13dec = 15oct 1 1 0 1
Ehex = 14dec = 16oct 1 1 1 0
Fhex = 15dec = 17oct 1 1 1 1

ฐานสิบ ฐานสอง ฐานสิบหก
30 11110 1E
การแสดงฐานตัวเลขต่างๆในตารางสุดท้ายนี้ จำนวน 30 คือจำนวนตัวเลขของเลขฐานสิบ (decimal)จะสามารถแปลงค่าเท่ากับจำนวน 11110 ของเลขฐานสอง (binary) หรือเท่ากับจำนวน 36 ของเลขฐานแปด (octal) หรือเท่ากับจำนวน 1E ของเลขฐานสิบหก (hexadecimal)
สามารถยกตัวอย่างเพิ่มเติม คือจะเห็นว่า จำนวน 31 ของเลขฐานสิบ (decimal)จะสามารถแปลงค่าเท่ากับจำนวน 11111 ของเลขฐานสอง (binary) หรือเท่ากับจำนวน 37 ของเลขฐานแปด (octal) หรือเท่ากับจำนวน 1F ของเลขฐานสิบหก (hexadecimal)ซึ่งสามารถแสดงได้ตามลำดับดังนี้
31 11111 37 1F
ระบบเลขฐานสิบหก (hexadecimal)นี้จะเป็นที่นิยมใช้ในการเข้ารหัส (encode)คำสั่งควบคุมเครื่อง (control code ) ที่อยู่ในระบบเลขฐานสอง ( binary ) ที่มีจำนวนคำสั่งยาวมากๆ ยกตัวอย่างได้เช่นตามคำอธิบายข้างต้น ถ้า 11111 เป็นคำสั่งควบคุมเครื่องในรูปเลขฐานสอง(binary)คือ 11111 ผู้ควบคุมเครื่องอาจจะเข้ารหัส ( encode)คำสั่งควบคุมเครื่องไว้ในรหัสบาร์โค้ด(barcode)ในรูป 1F ถ้าใช้รหัสเลขฐานสิบหก (hexadecimal)ซึ่งบาร์โค้ด(barcode)นั้นเวลาพิมพ์ที่จะใช้ให้เครื่องอ่านคำสั่งควบคุมเครื่อง จะใช้ความยาวของบาร์โค้ด(barcode) 2 ตัว เช่นการใช้ระบบเลขฐานสิบหก (hexadecimal)นี้ในการเข้ารหัส (encode)คำสั่งควบคุมเครื่อง (control code )สำหรับเครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง ( high speed Finishing system) เป็นต้น
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%90%E0%B8%...
ที่มา:www.google.com

ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น

Thaigoodview

ของขวัญ ของที่ระลึก Miori Jung Handmade

ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ
ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
มีผลบังคับใช้แล้ว
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

โรงเรียนเครือข่ายจัดกิจกรรม บล็อก(Blog) เครื่องมือสำหรับครูยุคใหม่ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้

เปลี่ยนชื่อผู้ใช้งาน/เพิ่มพื้นที่เก็บภาพ

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 415 คน กำลังออนไลน์

Copyright © 2000-2024 thaigoodview.com | ออกแบบและพัฒนาระบบโดย ไทยกู๊ดวิวดอทคอม
สงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 Unported License.
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้ แสดง ดัดแปลง เผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานดัดแปลงต่อยอดที่เผยเผยแพร่ต่อ

ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ คุณครูเดือนฉาย หนูแสนดี ง31101 วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ม. 4 ภาคเรียนที่ 1/2554

นำทาง

สมาชิกที่ออนไลน์