อารยธรรมอินเดียโบราณ:สมัยจักรวรรดิ
อารยธรรมอินเดียโบราณ
Ancient India Civilization
สมัยจักรวรรดิ
การปกครองแบบสาธารณรัฐไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และไม่ขัดขวางการแสดงออกซึ่งความคิดที่เป็นอิสระและเป็นของตัวเอง ในระบอบการปกครองดังกล่าวนี้เองจึงเกิดนักคิด และผู้นำทางลัทธิศาสนาใหม่ถึง 2 คน คือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แห่งศากยวงศ์ และ พระมหาวีระชฺญาตฺฤกวงศ์
อาณาจักรที่มีการปกครองโดยระบอบราชาธิปไตย รุ่งเรืองขึ้นในบริเวณลึ่มแม่น้ำคงคาอาณาจักรที่ปรากฏชื่อเสียงในพุทธประวัติคือ โกศล และ มคธ ในแว่นเคว้นดังกล่าวกษัตริย์เป็นประมุข ตำแหน่งกษัตริย์สืบต่ออยู่ในตระกูลบเดียวกัน และจะต้องเป็นผู้อยู่ในวรรณะกษัตริย์ ความคิดที่ว่ากษัตริย์เป็นสมมติเทพเป็นที่ยึดถืออย่างเคร่งครัด มีพิธีรีตรองต่างๆมากมาย เพื่อช่วยเพิ่มความศักสิทธิ์ให้แก่คติดังกล่าว พิธีสำคัญมีอาทิเช่น อัศวเมธ เป็นต้น
ในพิธีอัสวเมธนี้กษัตริย์ผู้กระทำพิธีจะปล่อยม้าที่ได้เข้าพิธีแล้วออกท่องเที่ยวตระเวนไปในดินแดนต่างๆเป็นเวลา 1 ปี เจ้าผู้ครองแคว้นหรือกษัตริย์ของแว่นแคว้นใดที่ม้าเหยีบย่างไปถึง จำต้องถวายความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ผู้กระทำพิธี หรือมิฉะนั้นจำต้องหยิบอาวุธขึ้นต่อสู้ ม้าตัวนั้นถ้าไม่ถูกเจ้าผู้ครองแคว้นองค์หนึ่งจับไว้ ก็จะถูกนำตัวกลับมา และใช้บูชายัญ เมื่อสิ้นสุดปี กษัตริย์ที่ทรงฮึกเหิมทุกองค์ใคร่ที่จะได้รับประกอบพิธีนี้ ซึ่งยังผลให้เกิดการรบราฆ่าฟันในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐในอินเดียมาตลอดสมัยที่ลัทธิฮินดูรุ่งเรือง
อาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดคือ มคธ มีกษัตริย์ที่สำคัญพระองค์แรกคือ พระเจ้าพิมพิสาร เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่เน้นความสำคัญของการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ พระองค์มีคณะเสนาบดีเป็นผู้ช่วยบริหาร คณะเสนาบดีเหล่านี้กษัตริย์เลือกและแต่งตั้งขึ้นตามความพอพระทัย และพระองค์มักจะรับฟังความคิดเห็นของบุคคลเหล่านี้ ทรงแบ่งเจ้าหน้าที่บริหารออกเป็นหมวดหมู่ตามหน้าที่ ถือได้ว่าเริ่มระบบการบริหารอย่างเป็นสัดส่วนเป็นครั้งแรก หน่วยขั้นพื้นฐานในทางเศษฐกิจและสังคมโดยทั่วๆไป คือหมู่บ้าน มีกำนันเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ดูแลเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษี นำส่งท้องพระคลัง และมีอำนาจในการปกครองหมู่ของตนอย่างเต็มที่ การกสิกรรมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับพวกศูทร ผู้หักล้างถางพง และทำนาในที่ดินของพวกเจ้าของที่ดิน
พระเจ้าพิมพิสารเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ภาพจาก http://www.84000.org/tipitaka/picture/p42.jpg
พระเจ้าอชาตศัตรู โอรสของพระเจ้าพิมพิสาร ได้ขึ้นครองแคว้นมคธต่อจากพระราชบิดาผู้ถูกพระองค์ให้ลอบปลงพระชนม์ และได้แผ่ขยายอำนาจของแคว้นมคธออกไปอย่างกว้างขวาง ได้สถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้นอย่างมั่นคงในอินเดีย ทางเขตลุ่มแม่น้ำคงคา
เมืองหลวงของแคว้นมคธ คือ กรุงราชคฤห์ เป็นนครงดงามตั้งอยู่ในแนวเขาล้อมรอบ 5 เทือก เป็นปราการธรรมฃาติที่มั่นคง พระเจ้าอชาตศัตรูได้โปรดให้เสริมสร้างกรุงราชคฤห์ให้มั่นคงยิ่งขึ้น โดยสร้างเมืองป้อมเล็กแห่งหนึ่งชื่อ ปาตลีคามเมืองป้อมแห่งนี้ต่อมาเป็นนครหลวงของราชวงศ์โมริยะชื่อ ปาตลีบุตร นครปาตลีบุตรเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมาก ในสมัยที่ราชวงศ์โมริยะได้ปกครองอินเดียเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร ที่ใหญ่โตกว้างขวางในระยะเวลาระหว่าง 321-185 ปีก่อนคริสต์กาล
แหล่งอ้างอิง ธิติมา พิทักษ์ไพรวัน.ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ.พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช จำกัด,2518.