อินเดียโบราณ
อารยธรรมอินเดียโบราณ
Ancient India Civilization
อารยธรรมอินเดียเริ่มที่บริเวณแม่น้ำ สินธุ (Sindhu) คุ้นหูใช่ไหมค่ะ ใช่แล้วค่ะคุณอาจเคยได้ยินจากชั่วโมงเรียนวิชาสังคมฯหรือพระพุทธ ในเนื้อหาพุทธประวัติค่ะ แคว้นสำคัญๆหลายแคว้นในพุทธประวัติตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำสินธุค่ะ คือ แคว้นมัจฉะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสินธุกับแม่น้ำยมุนาตอนบน แคว้นสุรเสนะ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสินธุกับแม่น้ำยมุนาตอนล่าง แคว้นคันธาระ ตั้งอยู่ทางลุ่มแม่น้ำสินธุตอนบน ค่ะแม่น้ำสินธุ เป็นแม่น้ำสายสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียโบราณ ชื่ออินเดีย ก็มาจากคำภาษาสันกฤตว่า สินธุ(Sindhu) ชาวเปอร์เซียเปลี่ยนตัวอักษร S เป็น H เรียกดินแดนในแถบนี้ว่า Hindu หรือ Hidu ต่อมาพวกกรักตัดตัว H ออกแล้วแผลงเป็น Indos ต่อมาก็เพี้ยนเป็น Indus และ India ตามลำดับค่ะ ในสมัยต้นชื่อนี้ใช้เรียกเฉพาะดินแดนในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ ต่อมาจึงใช้เรียกดินแดนที่เป็นประเทศอินเดียทั้งหมดดินแดนอินเดียโบราณ ในทางศาสนามักจะเรียกกันว่า ชมพูทวีป ชื่อนี้เราค่อนข้างคุ้นหูกันดีนะค่ะ ส่วนชาวอินเดียเรียกดินแดนของเขาว่า ภรตวรรษ ซึ่งหมายความว่า ถิ่นที่อยู่ของชาวภารตะ คำว่า ภารตะ มาจากคำว่า ภรตะ ซึ่งคือชื่อของกษัตริย์ต้นวงศ์ของพวกเการพปละปาณฑบ ที่ทำสงครามขับเดี่ยวกันในมหากาพย์ เรื่อง มหาภารตะ(คุ้นหูกันอีกแล้วใช่ไหมค่ะ) ในยุคมหากาพย์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ภรตะจึงเรียกว่า พวกภารตะ (อย่างในสำนวนข่าวที่เรียกอินเดียว่า แดนภารตะ ค่ะ:ผู้เขียน)
อินเดียสมัยโบราณ
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เริ่มประมาณ 2,500 B.C. - 1,500 B.C. โดยชาวดราวิเดียน ต่อมา 1,500 B.C. – คริสต์ศักราชที่ 6 เป็นอารยธรรมที่ชาวอารยันสร้างขึ้น จนกลายเป็นแบบแผนของอินเดียต่อมา
แผนที่ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ
ภาพจาก http://www.history-of-india.net/images/indus_valley_civilization.jpg
อนุทวีปอินเดยมีเทือกเขาฮินดูกูชอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและเทือกเขาหิมาลัยอยู่ทางทิศเหนือ ทางตะวันตกและออก ตอนใต้ ติดทะเล ทำให้อินเดียโบราณติดต่อกับภายนอกได้ยาก ทางที่จะเข้าสู่อินเดียได้คือทางช่องเขาตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นทางที่พ่อค้า และผู้รุกรานจากเอเชียกลางเข้าสู่อนุทวีป
อารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ ถูกสร้างขึ้นโดยชาวดราวิเดียน (มิลักขะหรือ ทมิฬ) ชนพื้นเมืองเดิมของอินเดียผิวดำ ร่างเล็ก จมูกแบนพูดภาษาตระกูลดราวิเดียน (ทมิฬ ) มีการค้นพบหลักฐานเมื่อค.ศ. 1856 เมื่อมีการก่อสร้างทางรถไฟบริเวณลุ่มน้ำสินธุ ค้นพบซากสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ค.ศ.1920 ปรากฏเป็นรูปเมือง บริเวณเมือง ฮารัปปา(Harappa) และเมืองโมเฮนโจดาโร(Mohenjo Daro) อายุประมาณ 2500 ปีก่อนค.ศ. หลักฐานที่ค้นพบจัดเป็นอารยธรรมยุคโลหะมีสังคมเมือง ป้อมปราการขนาดใหญ่ มีสระอาบน้ำสาธารณะนักโบราณคดีสันนิฐานว่าอาจเป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีการวางผังเมือง ตัดถนน มีกำแพงอิฐ บ้านเรือนสร้างด้วยอิฐ มีระบบระบายน้ำสองท่อดินเผาอยู่ข้างถนน เพื่อรับน้ำที่ระบายจากบ้าน มีอักษรภาพใช้ พบโบราณวัตถุรูปแกะสลักหินชายมีเครามีแถบผ้าคาดมีตราประทับตรงหน้าผาก รูปสำริดหญิงสาว รูปแกะสลักบนหินเนื้ออ่อน เครื่องประดับ สร้อยทองคำ สร้อยลูกปัด มีการเพาะปลูกพืชเกษตรเช่นฝ้าย ข้าวสาลี ถั่ง งา ข้าวโพด พบหลักฐานการค้ากับต่างแดนทั้งทางบกและทางทะเล เช่นเปอร์เชีย แอฟกานิสถาน เมโสโปเตเมีย ธิเบต โดยพบโบราณวัตถุหอยสังข์จากอินเดีย หินสี เงิน อัญมณีจากเปอร์เชีย แอฟกานิสถาน หยกจากธิเบตและมีการขุดค้นพบอารยธรรมนี้กว่า 100 แห่งบริเวณแม่น้ำสินธุ ส่วนใหญ่อยู่ในปากีสถาน
ต่อมาชาวอินโด-อารยัน ผิวขาว ร่างสูง จมูกโด่งพูดภาษาตระกูลอินโด- ยูโรเปียน(ภาษาสันสกฤต) อพยพมาจากแถบทะเลสาบแคสเปียน บุกรุกเข้ามาทางเทือกเขาฮินดูกูช มายังลุ่มน้ำสินธุขยายความเจริญมาทางลุ่มแม่น้ำคงคา ชาวดราวิเดียแพ้สงครามต้องเคลื่อนย้ายลงไปทางใต้ สู่ภาคกลางและภาคใต้ของอินเดีย ต่อมาถูกชาวมุสลิมเตอร์กรุกรานทำให้ศาสนาอิสลามเข้ามาเผยแพร่ในอินเดีย
ชาวอินโด-อารยัน