สมัยโบราณ
โรมัน
- ถือว่าเป็นผู้สืบทอดวัฒนธรรมกรีก เพราะผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกรีกกับของอีทรัสกันเข้าด้วยกัน เช่น การวางผังเมือง การแกะสลักเครื่องปั้นดินเผา
ท่อระบายน้ำ การใช้ประตูโค้ง
- โรมันปกครองแบบสาธารณรัฐ ซึ่งประกอบด้วยประมุขฝ่ายบริหาร 2 คนและมีสภาเซานท์หรือสภาสูงจำนวน 300 คน ประกอบด้วยชนชั้นสุงและเจ้าของที่ดิน (Patrician) ส่วนสภาราษฎรประกอบด้วยพลเมืองโรมันทั้งพาทริเชียนและพลีเบียน คือ ชนชั้นสามัญ
- ต่อมาพวกพลีเบียนมีบทบาททางการเมืองมากขึ้นและมีสิทธิในการปกครอง สามารถแต่งตั้งตำแหน่งทรีบูน (Tribune) ซึ่งมีสิทธิออกเสียงโหวต ทำให้มีการ
บันทึกกฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร เรียกว่า กฎหมายสิบสองโต๊ะ ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกของโรมันที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีความเสมอภาคทางกฎหมาย ทำให้การ
ตัดสินคดีมีมาตรฐานเดียวกัน
- มีการแบ่งแยกอำนาจกัน ทหารเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น จูเลียส ซีซาร์ ดำรงตำแหน่งผู้เผด็จการตลอดชีพ ส่วนออกัสลัส ซีซาร์ ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ ทำให้การปกครองระบอบสาธารณรัฐสิ้นสุด การปกครองแบบจักรพรรดิ เรียกว่า " สมัยสันติภาพโรมัน " อันเป็นผลให้ปรับปรุงการปกครอง ปรับปรุงภาษี ขยายดิน
แดน สร้างสาธารณูปโภค เช่น สะพาน ถนน ท่อน้ำ ที่จักรพรรดิรวมกันได้มั่นคงเพราะมีกฎหมายควบคุม ตลอดจนการปลูกฝังวัฒนธรรมและภาษาละติน ค.ศ.476
จักรพรรดิโรมันตะวันตกถูกยึดครองโดยพวกอนารยชนเผ่าติวตัน
- ชาวโรมันเป็นนักปฏิวัติ นักประยุกต์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอย นับถือเทพเจ้าตามอย่างกรีกแต่เปลี่ยนชื่อ นำศิลปะมารับใช้มนุษย์แทนการรับใช้พระเจ้า
- ชาวโรมันคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย ความรับผิดชอบต่อสังคม ความมีระเบียบวินัย ความหรูหรา ความสะดวกสบายและการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของอำนาจรัฐ เช่น วิหารแพนธีออน โคลอสเซียม โรงละคร ที่อาบน้ำสาธารณะ
- จิตรกรรม ภาพวาดที่ฝาผนังนครปอมเปอี
- วรรณกรรม มหากาพย์เอเนียลของเวอร์จิล
- กฎหมาย กฎหมายสิบสองโต๊ะ
- การแพทย์ การผ่าตัดหน้า
ที่มาของภาพ http://www.thebestinsure.com/images/column_1265077028/%E0%B9%0%B8%99.JPEG