เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ชื่อเรื่อง การสร้างและพัฒนาแบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนตามแนวชายแดนจังหวัดตากผู้ศึกษาค้นคว้า นางอุบลรัตน์ บุญลือ สถานที่ศึกษา ศูนย์การเรียนเอลพีส อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 2 ปีที่ศึกษาค้นคว้า ปีการศึกษา 2550 และ ปีการศึกษา 2551 บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและพัฒนาแบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราว และศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชน สำหรับนักเรียนต่างด้าว ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน และการสื่อสารของนักเรียนต่างด้าวที่เรียนระดับชั้นต้น เกรด 1 ถึง เกรด 4 ของศูนย์การเรียนเอลพีส ก่อนและหลังการทดลองใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับโรงเรียนในพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชน 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้สอนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชน
ประชากร คือ นักเรียนต่างด้าวที่กำลังเรียนอยู่เกรด 1 และเกรด 2 ในศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนในจังหวัดตาก ประจำปีการศึกษา 2550 และ ปีการศึกษา 2551 จำนวน 24 ศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 650 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้มาจากกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก (Convenience Sampling) เป็นนักเรียนต่างด้าวที่กำลังเรียนอยู่เกรด 1 และเกรด 2 ของศูนย์การเรียนเอลพิส อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวน 58 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือแบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราว และศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชน จำนวน 4 เล่ม มีภาพวาดและภาพประกอบ โดยใช้นักเรียนเกรด 1- เกรด 4 ของศูนย์การเรียนซ่าทูเหล่เป็นกลุ่มทดลองในการหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ในปีการศึกษา 2550ได้นำแบบเรียนเล่มที่ 1 ให้ศูนย์การเรียนที่มีการสอนภาษาไทยจำนวน 24 ศูนย์การเรียนใช้สอนนักเรียนต่างด้าวทุกคน ทุกเกรดที่เรียนอยู่ใน ศูนย์การเรียน และในปีการศึกษา 2551 1 ได้นำเล่มที่ 2 สำหรับนักเรียนตั้งแต่เกรด 2 – เกรด 10 ส่วนเกรด 1 ใช้เล่มที่ 1 ตามที่ได้กำหนดไว้ในแนวทางการใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนตามแนวชายแดนจังหวัดตาก
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ก่อนและหลังเรียน โดยใช้สถิติ t- test( Dependent) และค่าสัมประสิทธิ์การกระจาย CV โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 58 คน จากศูนย์การเรียนเอลพิส ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า ผลการวิเคราะห์จากคะแนนเพื่อหาประสิทธิภาพของแบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนรู้ โดยการบริหารงานขององค์กรเอกชน โดยภาพรวมจากรายเล่มมีประสิทธิภาพ 90.75/84.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 โดยภาพรวมจากรายเล่มเทียบกับคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนจากแบบฝึกทักษะการอ่านและการสื่อสาร มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 90.75/84.00 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นหลัง การทดลองและแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ (ทักษะการอ่านและการสื่อสาร) จากแบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและ ศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนตามแนวชายแดนจังหวัดตาก จำนวน 2 เล่ม ก่อนการทดลองและหลังการทดลอง โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นหลังการทดลอง เมื่อพิจารณาเป็นรายเล่ม พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบเรียนภาษาไทย ทุกเล่มมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นหลังการทดลอง แสดงว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชนตามแนวชายแดนจังหวัดตากมีความรู้เปลี่ยนแปลงภายในกลุ่มเพิ่มขึ้น ความคิดเห็นของผู้สอนที่มีต่อการเรียนภาษาไทยเพื่อทักษะการอ่านและการสื่อสาร โดยใช้แบบเรียนภาษาไทยสำหรับพื้นที่พักพิงชั่วคราวและศูนย์การเรียนที่บริหารจัดการโดยองค์กรเอกชน โดยภาพรวมของลักษณะการจัดรูปเล่มระดับค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.64 ซึ่งอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ลักษณะเนื้อหา มีระดับค่าเฉลี่ย 4.71 อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ลักษณะการจัดภาพมีระดับค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.80 อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ลักษณะภาษาที่ใช้ มีระดับค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.74 อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด และคุณค่าของแบบเรียนมีระดับค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.76 อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด