ประวัติศาสตร์ไทย (รัชกาลที่ 5)
ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
รัชกาลที่ 5
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ซึ่งประชาชาติไทยได้พร้อมใจกันถวายพระนามแด่พระองค์ว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือ สมเด็จพระปิยมหาราช และพากันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์อยู่ในทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเป็นพระบรมราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพสิรินทราบรมราชินี พระองค์ประสูติ เมื่อปีฉลู วันอังคาร เดือน 10 แรม 3 ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2396 ได้เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ เมื่อวันพุธ เดือน 12 แรม 12 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2411 เสด็จสวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 11 แรม 5 ค่ำ ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 เมื่อพระชนมายุได้ 58 พรรษา เสวยราชสมบัติได้ 42 ปี พระองค์ทรงมีพระขนิษฐาและพระอนุชารวม 3 พระองค์ ได้แก่
1. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล กรมหลวงวิสุทธิกระษัตริย์
2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์
3. สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
ตลอดเวลา 42 ปี ที่สมเด็จพระปิยมหาราชได้เสวยราชสมบัตินั้น พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ โดยเฉพาะในรัชสมัยของพระองค์นั้น เป็นระยะเวลาที่อารยธรรมสมัยใหม่ได้เข้ามาสู่ชาติไทย และเป็นพื้นฐานให้ชาติไทยได้เจริญก้าวหน้าตลอดมาจนถึงสมัยทุกวันนี้ ปัจจัยแห่งอารยธรรมสมัยใหม่ที่ได้ริเริ่มในรัชสมัยของพระองค์มี อาทิเช่น การประปา การไฟฟ้า การไปรษณีย์โทรเลข การรถไฟ การตัดถนนหนทางการแพทย์ การสาธารณสุข การศาล การทหาร การจัดระบบการศึกษาแบบใหม่ การตั้งโรงพยาบาล และการจัดระบบการบริหารราชการแผ่นดินตามแบบอย่างอารยประเทศ การเลิกทาส การจัดตั้งสภาเสนาบดี อันเป็นวิธีการของการปกครองอย่างระบอบประชาธิปไตย เป็นต้น ซึ่งได้เริ่มขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระปิยมหาราชนี้ ซึ่งแต่กาลสมัยก่อนนั้น เมืองไทยยังไม่มีปัจจัยแห่งอารยธรรมสมัยใหม่อันสำคัญดังกล่าวนี้ และประการสำคัญอีกประการหนึ่ง ก็คือการจัดส่งพระราชโอรสและนักเรียนไทยไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งได้กลับมาเป็นกำลังสำคัญแก่ประเทศชาติมากที่สุด นับว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์สำคัญพระองค์หนึ่งในประเทศประวัติศาสาสตร์ของชาติไทย ที่ได้ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชาติไทยอย่างใหญ่หลวง