รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้สื่อปร
รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระที่
4 ประวัติศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม โดยใช้สื่อประสม
ชุด
ถิ่นฐานเมืองร่อยเอ็ด
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4
ผู้วิจัย นางสุภัทรา อักกะมานัง ตำแหน่ง
ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎรอุทิศ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ปีที่พิมพ์ 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อสร้างและพัฒนาสื่อประสม ชุด
ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ให้มีคุณภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)ศึกษาค่าประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยสื่อประสม
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนสื่อประสม
4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อประสม
กับกลุ่มที่เรียนตามปกติไม่ใช้สื่อประสม 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วย
สื่อประสม และ
6) เพื่อศึกษาผลการประเมินคุณภาพสื่อประสม ชุด ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยครูผู้สอนมีประสบการณ์ การวิจัยครั้งนี้
ใช้กระบวนการวิจัยรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and
Development) แบ่งออกเป็น
4 ขั้นตอน
คือ ขั้นตอนที่ 1 สำรวจวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน / ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2
การพัฒนาสื่อการเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้สื่อการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4
ประเมินผลสรุปรวมการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 1)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโรงเรียนเทศบาลราษฎรอุทิศ จำนวน 30 คน
ซึ่งได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling) 2) ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา
2554 เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนเทศบาลราษฎรอุทิศ จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาโดยเลือก แบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1
โรงเรียนชุมชนบ้านหนองหญ้า
จำนวน 25
คน เป็นกลุ่มควบคุม ซึ่งได้มาโดยโดยการสุ่มอย่างง่าย
(Simple Random Sampling)
โดยใช้โรงเรียนและห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม 3) ครูผู้มีประสบการณ์ในการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 10
คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ประกอบด้วย
1) สื่อประสม
ชุด ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
-2-
ประกอบด้วย หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 10
เรื่อง และ วีดีทัศน์ จำนวน 20 ตอน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์
เรื่อง ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 1
ฉบับ 50 ข้อ 3) แบบสอบถามสำรวจสภาพปัญหาการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม
จำนวน 1 ฉบับ 4) แบบประเมินคุณภาพหนังสืออ่านเพิ่มเติม
จำนวน
1 ฉบับ
และแบบประเมินคุณภาพวีดีทัศน์ จำนวน 1 ฉบับ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (
) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
t – test
แบบ
Dependent Sample และ t – test แบบ Independent Sample
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการสำรวจสภาพปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 1 ประวัติศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนเทศบาล
วัดราษฏรอุทิศ
ในปีที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าเป้าหมายของโรงเรียน นักเรียนขาดความสนใจในการเรียน
นักเรียนขาดความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับท้องถิ่นในบริบทจังหวัดของตนเอง และที่สำคัญยิ่งขาดสื่อการเรียนรู้ หรือมีสื่อการเรียนรู้บ้างแต่ไม่สมบูรณ์
ไม่เพียงพอต่อการศึกษาค้นคว้า
2. การพัฒนาสื่อประสม ชุด
ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งประกอบด้วยหนังสืออ่านเพิ่ม จำนวน 10 เรื่อง และวีดีทัศน์ จำนวน 20 ตอน พบว่า จากการทดลองใช้ภาคสนามในภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2553
มีประสิทธิภาพ 84.60 / 85.13
และค่าดัชนีประสิทธิผล 0.7169
และการทดลองใช้จริงในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 มีประสิทธิภาพ 88.20 / 87.80 และค่าดัชนีประสิทธิผล 0.7814
ตามลำดับ
3. การทดลองใช้สื่อประสม ชุด ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด พบว่า
คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่
ระดับ .01 และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองที่เรียนด้วยสื่อประสม
ชุด ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด สูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่เรียนตามปกติไม่ใช้สื่อประสม
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 เช่นกัน
4. การประเมินคุณภาพสื่อประสมทั้งหนังสืออ่านเพิ่มเติมและวีดีทัศน์
โดยผู้เชี่ยวชาญและครูผู้สอนที่มีประสบการณ์
พบว่า สื่อประสมทั้งหนังสืออ่านเพิ่มเติมและวีดีทัศน์
อยู่ในระดับคุณภาพ “ดีมาก” นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยสื่อประสม อยู่ในระดับ
“มากที่สุด” เช่นเดียวกัน
-3-
จากการวิจัยครั้งนี้ทำให้ได้สื่อประสม
ชุด ถิ่นฐานเมืองร้อยเอ็ด กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ซึ่งประกอบด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม และวีดีทัศน์ ที่มีคุณภาพ
มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลตามเกณฑ์
เมื่อนำไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น นักเรียนมีความพึงพอใจใน
การเรียน อันจะส่งผลให้นักเรียนมิความรัก
ความผูกพัน และภูมิใจในท้องถิ่นตนเอง
และสามารถ
อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป