เทคโนโลยีสารสนเทศ 1 ง31101 ม. 4/4 ครูผู้สอน ครูเดือนฉาย หนูแสนดี

รูปภาพของ pnckruuciap

เทคโนโลยีสารสนเทศ ม .4 หน่วยที่ 1 องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ หน่วยที่ 2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 3 ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 4 คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง 2.หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู ติดตั้งใน
แผงหลักเรียกว่าไมโครชิป ทำหน้าที่ประมวลผล เรียกว่า
ไมโครโพรเซสเซอร์ประกอบไปด้วย 2 หน่วย คือหน่วยคำนวณ
และตรรกะทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบการคำนวณ และ
หน่วยควบคุมทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย รีจีสเตอร์ ใช้เก็บข้อมูลที่อ่านมา
จากหน่วยความจำ
2.1หน่วยความจำแคช เป็นหน่วยความจำขนาดเล็กอยู่ในซีพียู
เรียกว่าหน่วยความจำระดับ 2
3.หน่วยความจำหลักมี 3 ชนิด 1.หน่วยความจำแรม
2.หน่วยความจำรอม 3. หน่วยความจำรอง

รูปภาพของ pncthawisak

http://www.thaigoodview.com/node/122199
ตรวจงานให้ผมด้วยครับ

รูปภาพของ pncthawisak

ไม่เห็นเพื่อนม.4ห้องไหนส่งงานwww.kruuduanchai.ob.tc/-board.phpนี้เลยครับ

http://www.thaigoodview.com/node/108730

ตรวจให้ผมด้วยครับ

http://www.thaigoodview.com/user/55867

ตรวจงานให้ผมด้วยครับ

รูปภาพของ pncthawisak

หน่วยที่ 3 ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์  ระบบสื่อสารข้อมูล      การติดต่อสื่อสารข้อมูลสมัยใหม่นี้ มีรากฐานมาจากความพยายามในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยระบบสื่อสารที่มีอยู่แล้ว เช่น โทรศัพท์ ดังนั้นการสื่อสารข้อมูลจึงอยู่ในขอบเขตที่จำกัด ต่อมาเมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น ความต้องการในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในเวลาเดียวกัน ที่เรียกว่า ระบบเครื่อข่าย (Network) ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเป็นลำดับ      ในตอนเริ่มต้นของยุคสื่อสาร เมื่อประมาณ พ.ศ. 2513-2515 ความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันมีมากขึ้น แต่คอมพิวเตอร์ยังมีราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับอุปกรณ์สื่อสารที่มีอยู่แล้วบางอย่าง การสื่อสารด้วยระบบเครือข่ายในระยะนั้นจึงเน้นการใช้คอมพิวเตอร์ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์เป็นผู้ให้บริการแก่ผู้ใช้ปลายทางหลายคนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของระบบ      ต่อมาเมื่อถึงยุคสมัยของไมโครคอมพิวเตอร์ พบว่าขีดความสามารถในด้านความเร็วของการทำงานของเมนเฟรม มีความเร็วมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับไมโครคอมพิวเตอร์ตัวที่ดีที่สุด แต่ราคาของเมนเฟรมแพงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์หลายพันเท่าการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์จึงแพร่หลายและกระจายออกไป การสื่อสารจึงกลายเป็นระบบเครือข่ายแบบกระจาย กล่าวคือ แทนที่จะออกแบบให้เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางต่อกับเมนเฟรม ก็เปลี่ยนเป็นระบบเครือข่ายที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แทน      ข้อมูลในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บในคอมพิวเตอร์สามารถส่งต่อคัดลอก จัดพิมพ์ ทำสำเนาได้ง่าย เมื่อเทียบกับการคัดลอกด้วยมือซึ่งต้องใช้เวลามากและเสี่ยงต่อการทำข้อมูลผิดพลาดอีกด้วย วิธีการทางด้านการสื่อสารข้อมูล กำลังได้รับการนำมาประยุกต์ใช้ในระบบสำนักงานที่เรียกว่า ระบบสำนักงานอัตโนมัติ (office automation) ระบบดังกล่าวนี้มักเรียกย่อกันสั้น ๆ ว่าโอเอ (OA) เป็นระบบที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานที่เกี่ยวกับเอกสารทั่วไปแล้วส่งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ได้ด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อโอนย้ายแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ระหว่างแผนก      ลักษณะของเครือข่ายจึงเริ่มจากจุดเล็ก ๆ อาจจะอยู่บนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์เดียวกัน ขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นระบบที่ทำงานร่วมกันในห้องทำงานในตึกระหว่างตึกระหว่างสถาบัน ระหว่างเมือง ระหว่างประเทศ การจัดแบ่งรูปแบบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์จึงแยกตามขนาดของเครือข่าย      บทบาทที่สำคัญอีกบทบาทหนึ่ง คือ การให้บริการข้อมูล หลายประเทศจัดให้มีฐานข้อมูลไว้บริการ เช่น ฐานข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ฐานข้อมูลงานวิจัยฐานข้อมูลทางเศษรกิจ ฐานข้อมูลของสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ในมหาวิทยาลัยอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือและตำราวิชาการ หากผู้ใช้ต้องการข้อมูลใดก็สามารถติดต่อมายังศูนย์บริการข้อมูลนั้น การติดต่อจะผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้การได้ข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ความหมายของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์        เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือ กลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันผ่านอุปกรณ์ด้านการสื่อสารหรือสื่ออื่นใด ทำให้ผู้ใช้ในระบบเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครือข่ายร่วมกันได้ การที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีบทบาท และความสำคัญเพิ่มขึ้นเพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้นเพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง เครือข่ายมีตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่องเพื่อใช้งานในบ้าน หรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมไปเกือบทุกประเทศเครือข่ายสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากทั่วโลกเข้าด้วยกัน เราเรียกว่า เครือข่ายอินเทอร์เน็ต   กลาโน (Glano, 1994) ให้ความหมายของระบบเครือข่ายว่า หมายถึงการเชื่อมโยงและสร้างความสัมพันธ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการแบ่งทรัพยากรภายในกลุ่มเป็นความต้องการของผู้ใช้คอมพิวเตอร์เนื่องจากในช่วงแรกอุปกรณ์ทั้งหลายในระบบคอมพิวเตอร์ยังมีราคาค่อนข้างแพงมากการเชื่อมโยงทรัพยากรเหล่านี้เข้าด้วยกันก็ส่งผลให้ผู้ใช้ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถใช้ทรัพยากรที่มีราคาแพงได้อย่างทั่วถึงสหัส พรหมสิทธิ์ (2534) กล่าวว่า ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ที่กระจัดกระจาย อยู่ในที่ต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ด้วยวิธีที่ตกลงกันไว้เป็นการล่วงหน้า การสื่อความกันระหว่าง คอมพิวเตอร์จะเป็นไปในรูปของการส่งข่าวสารข้อมูลในรูปของสัญญาณที่เป็นรหัส โดยจะส่งไปตามเส้นทางสื่อสาร เช่น สายโทรศัพท์ช่องส่งสัญญาณดาวเทียม สายไฟฟ้า เส้นใยแก้วนำแสง เป็นต้น
กิดานันท์ มลิทอง (2539) ให้คำนิยามของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ว่าหมายถึงระบบการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล ที่สร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป โดยใช้แผ่นวงจรต่อประสานข่ายงานกับสายเคเบิลและทำงานด้วยระบบปฏิบัติการข่ายงาน
    มานิจ อาจอินทร์ (2542) ให้ความหมายของคำว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ว่า หมายถึง กลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีการ เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ดิสค์ เทป เครื่องพิมพ์ ฯลฯ ร่วมกันได้ ซึ่งในแต่ละหน่วยงานทั้งในภาครัฐ หรือเอกชนที่มีการติดตั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์ต่างก็ต้องรับผิดชอบเครือข่ายของตน
ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (
Computer Network) คือ กลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกัน ผ่านเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร เพื่อให้ผู้ใช้ในระบบเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยน และใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครือข่ายร่วมกันได้ การที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีบทบาท และความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้น เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้นเพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง เครือข่ายมีตั้งแต่ขนาดเล็ก ที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง เพื่อใช้งานในบ้าน หรือในบริษัทเล็ก ๆ ไปจนถึงเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมไปเกือบทุกประเทศ เครือข่ายสามารถเชื่อต่อคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากทั่วโลก
เข้าด้วยกัน เรียกว่า เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การต่อเชื่อมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะใกล้
               หากต้องการที่จะนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาต่อเป็นระบบ โดยใช้ขีดความสามารถเดิมที่มีอยู่สามารถทำได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้       1. การเชื่อมต่อผ่านช่องทาง Com1, Com2 และ LPT  เป็นวิธีที่นำคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ต่อผ่านช่องทาง COM1  หรือ COM2 เพื่อการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างกัน ในกรณีนี้ใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) บางตัวก็สามารถสำเนาแฟ้มข้อมูลระหว่างกันหรือส่งออกไปยังเครื่องพิมพ์ร่วมกันได้  ดังตัวอย่าง    ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์   ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อทางภูมิศาสตร์ หรือระยะทางการเชื่อมต่อ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. เครือข่ายเฉพาะที่  (Local Area Network : LAN)
 
เป็นเครือข่ายระยะใกล้ ที่ใช้กันอยู่ในบริเวณไม่กว้างนัก มักพบเห็นกัน ในองค์กรเดียวกัน โดยส่วนใหญ่ลักษณะของการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นวง LAN จะอยู่ในพื้นที่ใกล้ ๆ กัน เช่น อยู่ภาย อาคารเดียวกัน  ภายในตึกเดียวกัน เป็นต้น ตัวอย่าง การเชื่อมต่อ       เครือข่ายระยะใกล้ 2.  การเชื่อมต่อเข้ากับบัฟเฟอร์เครื่องพิมพ์  เป็นการแบ่งกันใช้เครื่องพิมพ์เพื่อให้การใช้ทรัพยากร
เครื่องพิมพ์ (
Printer) เกิดประโยชน์มากขึ้น  การใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกันวิธีหนึ่งก็คือ การต่อเข้ากับบัฟเฟอร์ของเครื่องพิมพ์  ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลที่ส่งมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง แล้วจัดส่งงานทยอยพิมพ์เรียงกันไป  เครื่องพิมพ์ที่ต่อกับบัฟเฟอร์จะต่อผ่านช่องทางขนาน เหมือนกับการต่อทั่วไป ดังตัวอย่าง
   3.  การเชื่อมต่อโดยใช้ระบบสลับสายข้อมูล  เป็นวิธีการต่อขยายระบบแบบง่าย ๆ ที่ใช้มือช่วยระบบสลับสาย ข้อมูลทำหน้าที่เหมือนชุมสายโทรศัพท์ระบบเก่าที่ต้องมีพนักงานรับโทรศัพท์คอยสลับสายให้ใช้งานตามความต้องการ เช่น ใช้สายยูพีที (UPT) โดยให้หัวต่อเป็นแบบ RJ45 การสลับสายจะเชื่อมต่อระหว่างหัวต่อ RJ45 ที่มารวมกันไว้อยู่บนแผงร่วมกัน ในส่วนของแผงจึงเป็นเสมือนส่วนที่รวมสาย เพื่อการเชื่อมโยง จากต้นทางไปยังปลายทางตามข้อกำหนดตามที่ต้องการ  
  4.  การเชื่อมต่อผ่านระบบผู้ใช้หลายคนหลายช่องทาง   ระบบผู้ใช้หลายคนขนาดเล็ก ที่อยู่บนไมโครคอมพิวเตอร์มีหลายระบบ เช่น ระบบยูนิกซ์ ระบบลีนุกซ์ ระบบดังกล่าวสามารถเชื่อมขยายเข้ากับสถานีย่อยได้มาก เป็นระบบที่ใช้งานร่วมกันได้ในราคาประหยัด มีซอฟต์แวร์ สนับสนุนอยู่มากเช่น ระบบจัดการฐานข้อมูลที่มีระบบรักษาความปลอดภัย  ข้อเด่นของระบบผู้ใช้หลายคนในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เห็นได้ชัดได้แก่ ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ระบบปฏิบัติการ ลีนุกซ์ ซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานพร้อมกันได้หลายคน หลายงาน มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ และซอฟต์แวร์ระบบสื่อสารไว้มาก  มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีการต่อช่องทางเข้าออกได้หลายแบบ อีกทั้งมีระบบเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) ที่เชื่อมต่อตามมาตรฐานสากล ทำให้การ
ทำงานของระบบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2.เครือข่ายเมือง (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครือข่ายขนาดกลาง กลุ่มของเครือข่าย LAN ที่นำมาเชื่อมต่อกันเป็นวงที่ใหญ่ขึ้น ภายในบริเวณ
พื้นที่ใกล้เคียง เช่น ในเมืองเดียวกัน หรือจังหวัดใกล้เคียงกัน เป็นต้น
3.เครือข่ายบริเวณกว้าง ( Wide Area Network : WAN)
    
   เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่โดยเป็นการรวมเครือข่ายทั้ง LAN และ MAN มาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายเดียวดังนั้นเครือข่ายนี้จึงครอบคลุมพื้นที่กว้าง บางครั้งครอบคลุมไปทั่วประเทศ หรือ ทั่วโลก อย่างเช่น อินเตอร์เน็ตก็จัดว่าเป็นเครือข่าย WAN ประเภทหนึ่ง แต่เป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ องค์ประกอบของเครือข่าย    คอมพิวเตอร์
แน่นอนที่สุด!! เครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็จะต้องมีคอมพิวเตอร์ เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่น หรือยี่ห้อเดียวกัน หรือประเภทเดียวกัน เราสามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้
   อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ
เช่น เครื่องพิมพ์ แฟกซ์ เทปสำรองข้อมูล หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่นๆ เป็นต้น โดยเมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เชื่อมต่อกับเครือข่ายแล้ว ผู้ใช้ในเครือข่ายก็สามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้โดยเรียกใช้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เอง เช่น ส่งเอกสารไปพิมพ์ที่เครื่องพิมพ์สำหรับเครือข่าย เป็นต้น
   สายเคเบิล
สายเคเบิล คือ สายสัญญาณที่ใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่าย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ละแบบจะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูล และราคาแตกต่างกันไป ส่วนการจะเลือกใช้สายเคเบิลแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของเครือข่าย
   คอนเน็กเตอร์ (connector)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน เมื่อเชื่อมเครือข่ายเข้าด้วยกันแล้ว คอมพิวเตอร์ทั้งสองเครือข่ายก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ เสมือนเป็นเครือข่ายเดียวกัน ตัวอย่างคอนเน็กเตอร์ที่พบเห็นกันโดยทั่วไป คือ บริดจ์ (
bridge)
   การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (Network Interface Card: NIC)
สำหรับอุปกรณ์ชนิดนี้จะใช้เชื่อมระหว่างคอมพิวเตอร์กับสายเคเบิล การ์ดนี้ส่วนใหญ่จะติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเสียบลงบนเมนบอร์ด (
mainboard) ส่วนพอร์ตในการต่อกับสายเคเบิลจะอยู่ทางด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์
   ซอฟต์แวร์เครือข่าย
เมื่อเรานำเอาอุปกรณ์ต่างๆ มาเชื่อมต่อกันแล้ว ระบบเครือข่ายก็ยังจะทำงานไม่ได้ เครือข่ายจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นชุดโปรแกรมที่ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อทำให้ระบบปฏิบัติการรู้จักกับอุปกรณ์เครือข่ายนั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงโปรแกรมระบบปฏิบัติการเครือข่ายซึ่งจะแตกต่างกับระบบปฏิบัติการทั่วไป และโปรแกรมต่างๆ ที่ใช้งานในเครือข่ายด้วย เช่น เวิร์ดโปรเซสเซอร์ สเปรดชีต โปรแกรมวาดภาพ หรือโปรแกรมสำหรับส่งข้อมูลหรือข้อความระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นต้น 
 

รูปภาพของ pncthawisak

 หน่วยที่ 4 คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ
1.ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
(super computer)เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดมีขนาดใหญ่และราคาแพงกว่าคอมพิวเตอร์ชนิดอี่นออกแบบมาเพื่อใช้แก่ปํญหาทางวิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็นระยะเวลาหลายวัน เป็นต้น
2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (
mainframe computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะการทำงานสูง เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้ได้หลายร้อยคน  คอมพิวเตอร์ชนิดนี้มักใช้ในองค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร เป็นต้น
3. มินิคอมพิวเตอร์ (
minicomputer)    เป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับองค์กรขนาดกลางที่ใช้บริการแก่เครื่องลูกข่าย เช่น โรงแรม เป็นต้น
4. ไมโครคอมพิวเตอร์ (
microcomputer)มีประสิทธิภาพสูงราคาไม่แพงมีความนิยมสูงเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัวที่บ้าน และยังได้รับความนิยมสูงสุดด้วย
5.คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (
handheld   computer)สามารถจัดการกับข้อมูลประจำวันได้  สร้างปฏิทิน   บันทึกเตือนความจำ  เล่นเกม  ชมภาพยนตร์  ฟังเพลง   และรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้   เป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก เช่น  พีอีเอ ไอโฟน เป็นต้น
อุปกรณ์ต่อพ่วงอุปกรณ์ต่อพ่วง หมายถึง  อุปกรณ์ต่างๆที่สามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ของหน่วยประมวลผลกลางและประกอบเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานได้อุปกรณ์ต่อพ่วงแต่ละชนิดมีคุณลักษณะที่สำคัญ ดังนี้1.แผงพิมพ์อักขระ
เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากการกดแป้นจากนั้นก็เปลี่ยนรหัสแล้วส่งไปยังประมวลผลกลาง  แป้นพิมพ์โดยทั่วไปมี  50  แป้นขึ้นไปแบ่งเป็นแป้นตัวเลขและแป้นอักขระ2.เมาส์ 
เป็นอุปกรณ์ประเภทตัวชี้ที่ได้รับข้อมูลจากการกดปุ่มข้างบนเมาส์ ทำหน้าที่คลิกปุ่มคำสั่งที่ต้องการ  แบ่งเป็น 2 ประเภท
2.1
  เมาส์ทางกล
2.2
  เมาส์แบบใช้แสง
3.อุปกรณ์ชี้ตำแหน่งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค     
เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่สามารถติดกับตัวโน๊ตบุ๊ค สะดวกในการพกพา
  ซึ่งมี 3ประเภท
3.1ลูกกลมควบคุม
3.2แท่งชี้ควบคุม
3.3แผ่นรองสัมผัส
4.ก้านควบคุม 
เป็นอุปกรณ์ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนหน้าจอ มีลักษณะเป็นก้านโผล่ออกมาจากกล่อง5.จอสัมผัส  
เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากการสัมผัสโดยเมื่อมีการเลือกตำแหน่งที่ถูกเลือกจะแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังซอฟต์แวร์ที่แปลคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน6.อุปกรณ์รับเข้าแบบกราดตรวจ  ที่นิยมใช้มีอยู่ 3ประเภท
6.1
 เครื่องอ่านรหัสแท่ง อุปกรณ์รับเข้าที่ทำงานโดยหลักการของการสะท้อนแสง  เครื่องจะส่องลำเสียงไปยังรหัสบนสินค้าจากนั้นจะเปลี่ยนรหัสเป็นสัญญาณไฟฟ้าผ่านสายที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
6.2
 เครื่องกราดตรวจหรือสแกนเนอร์ เป็นอุปกรณ์รับเข้าประเภทรูปภาพและข้อความที่อยู่บนสิ่งพิมพ์โดยใช้หลักสะท้อนแสง  ข้อมูลจะถูกแปลงในแบบที่คอมพิวเตอร์เข้าใจและเก็บไว้ในหน่วยความจำ
6.2กล้องดิจิทัล ทำงานเหมือนกล้องถ่ายรูปทั่วไปแต่ไม่ต้องมีฟิล์มและมีคอมแพ็กแฟลช
7.เว็บแคม 
เป็นอุปกรณ์รับเข้าประเภทกล้องวีดีโอที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซค์แล้วปรากฎบนหน้าจอได้8.จอภาพ มี2 ชนิด
1.จอภาพแบบซีอาร์ที มีลักษณะเหมือนจอโทรทัศน์
  ทำงานโดยเทคโนโลยีหลอดรังสีอิเล็กตรอน  โดยยิงอิเล็กตรอนไปยังผิวด้านในจอเมื่อลำแสงวิ่งมาชนจะเกิดแสงสว่างขึ้น
2.จอภาพแบบแอลซีดี
   ทำงานโดยอาศัยการเบี่ยงเบนแสงตามการควบคุมทิศทางของโพราไลเซชั่นของวัตถุที่กั้นระหว่างแหล่งกำเนิดแสงและแผ่นเคลือบสารเรืองแสง  ป้องแรงดันเข้าไปยังแผ่นเพลตเมื่อได้รับแรงดันไฟฟ้า  มีผลให้แสดงจากแหล่งกำเนิดสามารถผ่านทะลุกระทบกับสารเรืองแสงจนเกิดแสงสีที่ต้องการ
9. ลำโพง
เป็นอุปกรณ์ที่แสดงผลเป็นเสียงโดยใช้งานคู่กับการด์เสียงซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นอะนาล็อกแล้วส่งไปยังลำโพง10.หูฟัง
เป็นอุปกรณ์ส่งออกใช้ฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์  ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณจากไฟฟ้าเป็นเสียง  มีทั้งชนิดไร้สายและมีสาย บางรุ่นก็จะมีไมโครโฟนสำหรับสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ตอีกด้วย         11.  เครื่องพิมพ์  
เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่แสดงผลงานพิมพ์ลงบนกระดาษ แบบเครื่องพิมพ์
11.1เครื่องพิมพ์แบบจุด
11.2เครื่องพิมพ์เลเซอร์
11.3เครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก
11.4พล็อตเคอร์
12.  โมเด็ม
   เป็นการแปลงสัญญาณเพื่อให้ติดต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้โดยเชื่อมต่อคอมเข้ากับคู่สายของโทรศัพท์   แล้วโมเด็มก็จะแปลงจากสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณอะนาล็อก

รูปภาพของ pncthawisak

http://www.thaigoodview.com/node/108738

นาย ทวีศักดิ์ พฤกษารา ม. 4/4

เทคโนโ,ยีสารสนเทศ ม.4 หน่วยที่ 1 องค์ประกอบของสารสนเทศ หน่วยที่ 2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 3 ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 4 คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง 2. หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียูติดตั้งในแผงหลักเรียกว่าไมโครชิปทำหน้าที่ประมวลผล เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ประกอบไปด้วย 2 หน่วย คือหน่วยคำนวณและตรรกะทำหน้าที่คำนวณและเปรีบยเทียบการคำนวณ และหน่วยควบคุมทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย รีจีสเตอร์ใช้เก็บข้อมูลที่อ่านมาจากหน่วยความจำ 2.1 หน่วยความจำแคช เป็นหน่วยความจำขนาดเล็กอยู่ในซีพียูเรียกว่าหน่วยความจำระดับ 2 . หน่วยความจำหลักมี 3 ชนิด 1.หน่วยความจำแรม 2.หน่วยความจำรอม 3.หน่วยความจำรอง

เช่น แผ่นบันทึกฮาร์ดดิสก์ ทำด้วยอะลูมิเนียม หรือวัสดุแข็งโครงสร้างของแผ่นบันทึก จะถูกแบ่งตามแนวการหมุนออกเป็นวง ๆ เรียกว่าแทรค แต่ละแทรคแบ่งเป็นส่วนๆ เรียกว่าเว็กเตอร์เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดที่อ่านและบันทึกได้ 4.หน่วยที่ส่งออกเช่นจอภาพเครื่งพิมพ์ 4.1จอภาพชนิดSVGA จอภาพทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นแสงที่มองเห็นได้และวงจรกราฟิกทำหน้าที่สร้างสัญญาณที่เหมาะสมในการขับจอภาพ มี 2 ชนิด คือ1.จอภาพชนิดซีอาร์ที เป็นจอแก้วหมดความนิยม2.จอภาพชนิดผลึกเหลวใช้กับเครื่องคิดเลขและนาฬิกา เครื่องคอมพิวเตอร์แลปท็อบ โน๊ตบุ๊ก 4.2เครื่องพิมพ์มีเครื่องพิมพ์แบบจุด เครื่องพมพ์แบบฉีกหมึก เครื่องพิมพ์เลเซอร์ 5.บัส การเชื่อมโยงอุปกรณ์ในแผงหลักใช้เครื่องมือ 2 ชนิด เส้นทางของระบบและการขัดจังหวะ

นายวงศพัทธ์ พั่วคูขาม ม.4/4 เลขที่28

รูปภาพของ pncthawisak

http://www.thaigoodview.com/node/108738

นาย ทวีศักดิ์ พฤกษารา ม. 4/4

http://www.thaigoodview.com/node/108722 ภาณุพันธ์ จูเฮง ม4/4 เลขที่ 17

http://www.thaigoodview.com/node/108704
สันติสุข ตู้สุวรรณ์ {ติ๊ก }

http://www.thaigoodview.com/node/108720
นาย กึกก้อง พงษ์สถิตย์ ม 4.4 เลขที่ 21 

http://www.thaigoodview.com/node/108711?page=0,1

นาย ธนกร  ท้าวนอก  ม.4/4 เลขที่ 2  > ( ตรวจด้วยครับ. ) < 

เทคโนโ,ยีสารสนเทศ ม.4

หน่วยที่ 1 องค์ประกอบของสารสนเทศ
หน่วยที่ 2 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 3 ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 4 คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

2. หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียูติดตั้งในแผงหลักเรียกว่าไมโครชิปทำหน้าที่ประมวลผล เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ประกอบไปด้วย 2 หน่วย คือหน่วยคำนวณและตรรกะทำหน้าที่คำนวณและเปรีบยเทียบการคำนวณ และหน่วยควบคุมทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย รีจีสเตอร์ใช้เก็บข้อมูลที่อ่านมาจากหน่วยความจำ
2.1 หน่วยความจำแคช เป็นหน่วยความจำขนาดเล็กอยู่ในซีพียูเรียกว่าหน่วยความจำระดับ 2
3. หน่วยความจำหลักมี 3 ชนิด 1.หน่วยความจำแรม 2.หน่วยความจำรอม 3.หน่วยความจำรอง

เช่น แผ่นบันทึกฮาร์ดดิสก์ ทำด้วยอะลูมิเนียม หรือวัสดุแข็งโครงสร้างของแผ่นบันทึก จะถูกแบ่งตามแนวการหมุนออกเป็นวง ๆ เรียกว่าแทรค แต่ละแทรคแบ่งเป็นส่วนๆ เรียกว่าเว็กเตอร์เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดที่อ่านและบันทึกได้ 4.หน่วยที่ส่งออกเช่นจอภาพเครื่งพิมพ์ 4.1จอภาพชนิดSVGA จอภาพทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นแสงที่มองเห็นได้และวงจรกราฟิกทำหน้าที่สร้างสัญญาณที่เหมาะสมในการขับจอภาพ มี 2 ชนิด คือ1.จอภาพชนิดซีอาร์ที เป็นจอแก้วหมดความนิยม2.จอภาพชนิดผลึกเหลวใช้กับเครื่องคิดเลขและนาฬิกา เครื่องคอมพิวเตอร์แลปท็อบ โน๊ตบุ๊ก 4.2เครื่องพิมพ์มีเครื่องพิมพ์แบบจุด เครื่องพมพ์แบบฉีกหมึก เครื่องพิมพ์เลเซอร์ 5.บัส การเชื่อมโยงอุปกรณ์ในแผงหลักใช้เครื่องมือ 2 ชนิด เส้นทางของระบบและการขัดจังหวะ

นาย ณัฐพล เปี่ยมพลาย ม4/4 เลขที่ 24

รูปภาพของ pncthunwarud

http://www.thaigoodview.com/node/108708

นส ธัญวรตม์ ภู่เจริญ 

http://www.thaigoodview.com/node/108709

นาย จิรายุทธ  จุดชายสงค์ เลขที่ 6 ม. 4/4

http://www.thaigoodview.com/node/108723/ตรวจงานให้ด้วยนะคับ
ธนาเทพ ศิริสวัสดิ์ ม.4/4 เลขที่25

http://www.thaigoodview.com/node/108707

 นาย พิทักพงศ์  จันทร์อ่วม  ม . 4/4  เลขที่  16

http://www.thaigoodview.com/node/108727
นาย เศรษฐพงษ์  ใสงาม  ม.4/4 เลขที่ 9 <-ตรวจงานให้ผมด้วยคับ->

http://www.thaigoodview.com/node/108720 นาย กึกก้อง พงษ์สถิตย์ ม 4.4 เลขที่ 21

http://www.thaigoodview.com/node/108714

ณัฐชนน แก้วประสิทธิ์ 4/4 เลขที่  20 

http://www.thaigoodview.com/node/108712

น.ส.ณัฐทมาศ ผลเหม ม.4/4 

รูปภาพของ pncnattavadee

http://www.thaigoodview.com/node/108726

น.ส. ณัฐวดี  สุขพลอย   ห้อง4/4 เลขที่35

http://www.thaigoodview.com/node/108727
นาย เศรษฐพงษ์ ใสงาม  ม.4/4  เลขที่ 9  <-ตรวจงานให้ผมด้วยคับ->

http://thaigoodview.com/node/108721

นาย สหรัฐ รุตรัก ม.4/4 เลขที่ 11 ตรวจงานให้ผมด้วยครับ 

รูปภาพของ Pncprachaya

http://www.thaigoodview.com/node/109464

นาย ปรัชญา โพธิสาร เลขที่ 1 ชั้น ม4/4 ตรวจงานให้ผมด้วยคับ  

รูปภาพของ pncthunwarud

http://thaigoodview.com/node/108708/edit

นส. ธัญวรัตม์ ภู่เจริญ ม.4/4 เลขที่ 40 <ตรวจงานด้วยค่ะ> 

http://www.thaigoodview.com/node/108701

น.ส. เยาวลักษณ์ บุญครอง ม.4/4 เลขที่33

รูปภาพของ pncparit

http://www.thaigoodview.com/node/108715    
    นาย พริษฐ์ บุญสม ม.4/4 เลขที่10 ตรวจงานด้วย งับ

   http://www.thaigoodview.com/node/108697

ณัฐชนน  แก้วประสิทธิ์ ม.4/4 เลขที่ 20  ( กรุณาตรวจงานให้ผมด้วย )

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 346 คน กำลังออนไลน์