พระพุทธรูปปางถวายเนตร
พระพุทธรูปปางนี้เป็นพุทธจริยาในอิริยาบถยืน พระหัตถ์ (มือ) ทั้งสองห้อยลงมาประสานทับกันอยู่บนพระเพลา (ตัก)
พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายประทับยืนทอดพระเนตรต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้
มีประวัติเล่าว่า
หลังจากที่พระพุทธองค์ได้ทรงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยา
หันมาบำเพ็ญทางใจ โดยเสด็จจาริกหาสถานที่อันสงบเงียบ เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา
จึงเสด็จไปประทับนั่งบำเพ็ญภาวนาที่โคนต้นโพธิ์
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ เพื่อทรงพักผ่อนอิริยาบถจนเป็นที่สำราญแล้วก็ทรงเริ่มบำเพ็ญเพียรทางใจ
พร้อมกันนั้นก็ทรงตั้งสัจจาอธิษฐานว่า "ถ้ายังไม่ได้บรรลุมรรคผลตราบใด
ก็จะไม่เลิกความเพียรพยายามตราบนั้น แม้ว่าร่างกายเลือดเนื้อจะซูบผอมเหือดแห่งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ถ้ามิได้บรรลุมรรคผลแล้วก็จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด"
พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ไม่นานช้าก็ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณดั่งที่ตั้งพระทัยไว้ หลังตรัสรู้แล้วก็ประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ ณ
ภายใต้ร่มโพธิ์นั้นนานถึง 7 วัน
ต่อจากนั้นได้เสด็จออกจากต้นโพธิ์ไปประทับยืนกลางแจ้งแล้วผินพระพักตร์กลับมาทางต้นโพธิ์อีก
ได้ประทับยืนทอดพระเนตรต้นโพธิ์โดยไม่กะพริบตานานถึง 7 วัน เรียกว่า "อนิมิสเจดีย์"
พุทธจริยาตอนทรงจ้องพระเนตรดูต้นโพธิ์ตรัสรู้นี้เอง
เป็นต้นเค้าความคิดให้สร้างพระพุทธรูปปางถวายเนตรขึ้นสักการบูชา
ต่อมาท่านโหราจารย์ได้กำหนดให้เป็นพระพุทธรูปกำหนดให้เป็นพระพุทะรูปบูชาประจำวันอาทิตย์
|