ละครกรีก
โรงละครและงานฉากของกรีก
สิ่งที่สำคัญในโรงละครของยุคกรีกคือพื้นที่การแสดง เนื่องจากละครโศกนาฏกรรม สุขนาฏกรรม เสียดสีสังคม เป็นการแสดงที่แสดงในเทศกาลศาสนา โรงละครขนาดใหญ่จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โรงละครคลาสสิคของกรีกจุคนได้ประมาณ 15,000-17,000 คน ตัวอย่างโรงละครแบบนี้ได้แก่ โรงละครไดโอนีซุสที่กรุงเอเธนส์ โรงละครกรีกเป็นโรงละครกลางแจ้งอาศัยแสงธรรมชาติ ฉะนั้นการคำนึงถึงการใช้แสงจึงมีความสำคัญ ส่วนประกอบของโรงละครแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ที่นั่งผู้ชม (Theatron) เวทีแสดง (Orchestra) บริเวณที่ตั้งฉาก (Skene) ทั้งสามส่วนนี้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันแต่ไม่ได้เป็นสิ่งก่อสร้างที่เชื่อมติดกัน บริเวณที่ตั้งฉาก (Skene) เป็นบริเวณที่มีการซ่อนอุปกรณ์สำหรับเทคนิคพิเศษ ซึ่งมีอยู่สองชนิดที่เป็นที่รู้จักอย่างดี คืออุปกรณ์ที่เรียกว่า แมเชน Mechane หรือ แมชีน Mechine และ อิกีเกิลมา Ekkyklema ในโศกนาฏกรรมกรีก ละครจะถึงจุดสูงสุดเมื่อมีการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของเทพเจ้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในละคร mechane หรือ mechine คือที่ซ่อนที่อยู่บน Skene ที่นักแสดงที่แสดงเป็นเทพเจ้าใช้ในการปรากฏตัวเหมือนหนึ่งว่าลงมาจากสวรรค์ และเนื่องจากละครในสมัยกรีกไม่มีการแสดงความรุนแรงให้คนดูเห็น ดังนั้นเหตุการณ์สำคัญจึงเกิดจากภายนอกฉาก ซึ่งจะนำเข้ามาให้คนดูเห็นโดยใช้เกวียนที่มีล้อข็นมาจากภายในฉาก เกวียนที่ตัวะครนอนออกมาจากภายในฉากนี้เรียกว่า อิกีเกิลมา Ekkyklema
เสื้อผ้าและหน้ากาก
นักแสดงกรีกทุกคนสวมหน้ากากเพื่อที่จะซ่อนใบหน้าและผมทั้งนี้เพื่อช่วยให้คนดูแยกความแตกต่างได้เวลานักแสดงๆมากกว่าหนึ่งบทบาท หน้ากากของคอรัสในละครโศกนาฏกรรมจะเหมือนกันแต่ในคอรัสของสุขนาฏกรรมจะมีลักษณะเหนือจริง ส่วนเสื้อผ้าที่สวมใส่ในโศกนาฏกรรมนั้นจะเป็นเสื้อทูนิคหรูหราเห็นได้จากรูปวาดบนแจกันของกรีก ส่วนของสุขนาฏกรรมจะเน้นรูปร่างและทำให้เกิดลักษณะน่าขบขันเช่นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของชุดการแสดงที่เรียกว่า พัลลัส Phallus ซึ่งเป็นการขยายส่วนของอวัยวะเพศชายให้ใหญ่เกินจริง