โรคบูลิเมีย เนอร์โวชส (bulimia nervosa)
บูลิเมีย เนอร์โวชส (bulimia nervosa)
บูลิเมียมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินโดยความหมายของคำนี้เปรียบเปรยถึง ความหิวกระหายของวัวกระทิง ซึ่งสะท้อนจากอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ที่ไม่สามารถควบคุมการบริโภคอาหารของตนเองได้ในชั่ววูบหนึ่ง
ดังนั้นบูลิเมีย จึงหมายถึง ภาวะที่ร่างกายมีความรู้สึกผิดปกติ คือ เห็นอาหารแล้วเกิดความอยากบริโภค และบริโภคได้ในปริมาณมากกว่าปกติ โดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้ โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล ในการบริโภคอาหารแต่ละครั้งจะบริโภคในปริมาณมาก ในเวลารวดเร็ว เมื่อบริโภคเสร็จแล้วจะรู้สึกผิด ไม่สบายใจ และพยายามเอาอาหารที่บริโภคเข้าไปออก ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ล้วงคอให้อาเจียน กินยาระบาย หรือออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง เพื่อใช้พลังงานจากอาหาร
ที่บริโภคให้หมด หรือบางคนอาจใช้วิธีการอดอาหาร 2 - 3 วันเพื่อชดเชย ปริมาณพลังงานที่ได้รับจากอาหารที่บริโภค
บูลิเมีย มักเกิดกับผู้หญิงอายุ ประมาณ 15-35 ปี ในผู้ชายพบน้อย ในต่างประเทศพบผู้ป่วยโรคนี้ ประมาณร้อยละ 1-3 ของประชากรทั่วไป ในประเทศไทยขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการ แต่จากการสืบค้นทางอินเทอร์เนตพบว่ามีการกระทู้ถามตอบเกี่ยวกับ โรคแอโนเร็กเซีย และบูลิเมียหลายรายโดยกล่าวถึงอาการ ความทุกข์ และแนวทางการบำบัดของผู้ที่เคยป่วย
สาเหตุการเกิดโรค อาจเกิดจากสาเหตุ ดังนี้
1. พันธุกรรม ในต่างประเทศมีการศึกษาและพบว่าถ้าบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะมารดาเคยเป็นโรคนี้มาก่อน ลูกก็มีแนวโน้มที่จะเป็นด้วย
2. ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ต่อมควบคุมการบริโภคอาหาร และฮอร์โมนทำงานผิดปกติ
3. ค่านิยม ผู้หญิงบางคนมีค่านิยมในเรื่องรูปร่าง คือให้ความสำคัญเรื่องรูปร่างผอมว่าเป็นมาตรฐานที่ดี
หรือผู้ที่คิดว่าตนเองไร้ค่า และผู้เป็นโรคซึมเศร้าก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่าย
ข้อสังเกต ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียนั้นจะเห็นได้ชัดที่พฤติกรรมการบริโภค คือ มักจะบริโภคอาหารในปริมาณมาก
แต่ละครั้ง แล้วมีพฤติกรรมในการกำจัดอาหารที่ตัวเองบริโภคออกมา ด้วยการล้วงคอให้อาเจียน ใช้ยาถ่าย
อดอาหารติดต่อกัน 3-4 วัน หรือออกกำลังอย่างหนักติดต่อกันนาน มากกว่า 5 ชั่วโมงทุกวัน
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคบูลิเมีย จากการที่ผู้ป่วยพยายามกำจัดอาหารที่บริโภคด้วยวิธีการต่างๆ
ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้
1. ภาวะอิเล็กโตรไลท์ผิดปกติ เช่น มีระดับโปตัสเซียมและคลอไรด์ในเลือดต่ำ ซึ่งถ้ารักษาไม่ทันก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
2. ทำให้เกิดความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น อาจมีการฉีกขาดของหลอดอาหาร หรือเยื่อบุลำคอ ในระหว่างที่มีการกระตุ้นตนเองให้อาเจียน หรืออาจทำให้ฟันผุ เนื่องจากกรดที่ย้อนขึ้นมาจากกระเพาะ
หรืออาจทำให้ต่อมน้ำลายบวม3. อาจเป็นสาเหตุทำให้ไตวาย เพราะการล้วงคอให้อาเจียนหลายๆครั้งอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและอิเล็กโตรไลท์ที่สำคัญ
การรักษา ผู้ป่วยโรคบูลิเมีย นอกจากอาการทางกายแล้วยังมีอาการทางจิต ในการรักษาต้องให้ผู้ป่วยสมัครใจการรักษาจึงจะได้ผล ดังนี้
1. สังเกตอาการแล้วปรึกษาแพทย์ การรักษาต้องรักษา 2 ทาง คือ อาการทางด้านร่างกาย และการปรึกษาจิตแพทย์ควบคู่กัน
2. เปลี่ยนค่านิยมเรื่องรูปร่างที่ว่า ผู้ที่ร่างกาย ผอม บอบบางนั้นกำลังจะเป็นค่านิยมที่ล้าสมัย ในหลายประเทศกำลังรณณรงค์เรื่องการบริโภคอาหารถูกหลักโภชนาการ และการออกกำลังกายเพื่อมีรูปร่างที่เหมาะสม คือ ต้องมีลักษณะที่บ่งชี้ว่าเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง