ชื่อเรื่อง          การพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยมโดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย            นางสาวจิตราพร   ใจห้าว

ปีการศึกษา     2561

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDLร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80  3) ทดลองใช้การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDLร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDLร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

 กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนนักเรียน 30 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 แผน เวลา 18 ชั่วโมง  2) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้น จำนวน 4 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ (%)  ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที ( )

ผลการวิจัยพบว่า

          1. นักเรียน และคุณครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องการให้มีการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ให้มีกิจกรรมหลากหลาย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มีภาพประกอบที่มีสีสันสวยงามและดึงดูดความสนใจ ควรฝึกจากง่ายไปหายาก และแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง คำนำ สารบัญ  คำชี้แจง คำแนะนำการใช้แบบฝึก  สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้  แบบทดสอบก่อนเรียน  เนื้อหาของแบบฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียน และแบบประเมินบันทึกผล  

        2. การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDLร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.81/86.33  ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

          3. ผลการใช้การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม  เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

          4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาทศนิยม โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชุด ลุงเท่งชวนเที่ยวเมืองคอน สอนโจทย์ปัญหาทศนิยม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า โดยภาพรวมความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด