รีดภาษีสถานบันเทิง 367 แห่ง [6 มี.ค. 52 - 05:48]
รีดภาษีสถานบันเทิง 367 แห่ง [6 มี.ค. 52 - 05:48]
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กำลังเร่งปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยมีการปรับปรุงให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ที่สินค้าเปลี่ยนรูปแบบไป ทันสมัยมากขึ้น หรือสินค้าบางประเภทเสื่อมความนิยมไป และมีสินค้าบางประเภทที่ได้รับความนิยมขึ้นมาทดแทน ทำให้สินค้าบางรายการในปัจจุบันไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือจัดเก็บในอัตราที่ต่ำมาก อีกทั้งยังพบด้วยว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วงที่ผ่านมา ไปเน้นการจัดเก็บด้วยคนเป็นหลัก และมีการเปิดโอกาสให้ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สูงทำให้มีหลายมาตรฐานในการจัดเก็บภาษี มีหลายอัตราซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจ่ายภาษีของสินค้าหรือบริการที่ทำธุรกิจหรือขายสินค้าเดียวกัน
ดังนั้น เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการที่ดีและสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ลดส่วนที่เป็นพื้นที่สีเทาและลดการใช้ดุลพินิจให้น้อยลง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษา และเสนอแนะแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตขึ้นมา เพื่อที่จะพิจารณาปรับโครงสร้างหลักการการจัดเก็บและอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยหลักการคือ สินค้าที่หมิ่นเหม่ทางศีลธรรมภาษีบาป สถานบริการ สถานบันเทิงจะมีการพิจารณาความเหมาะสมของภาษีในปัจจุบันเป็นพิเศษ นอกจากนั้นสินค้าใดที่ได้กำไรสูงมากแต่ไม่เคยเสียภาษีก็ควรนำเข้าสู่ในระบบ
“กรณีของสถานบริการเห็นได้ชัดว่าตัวสินค้าได้มีการพัฒนาไปมากจากเดิมที่เป็นดิสโก้เธคหรือไนต์คลับเวลานี้เปลี่ยนไปเป็นผับ ซึ่งไม่มีฟลอร์เต้นรำ แต่กฎหมายไม่เปลี่ยนทำให้เกิดช่องโหว่ในการใช้ ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ จุดนี้คงต้องมีการดำเนินการแก้ไข โดยจากการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจสถานบริการและสถานบันเทิงทั่วประเทศ ไม่นับในส่วนที่เสียภาษีถูกต้องอยู่แล้ว 28 แห่ง ในช่วง 21.00 - 02.00 น. พบว่า จาก 1,000 แห่ง มีสถานบริการ และสถานบันเทิงที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิต 367 แห่งซึ่งต้องเร่งจัดเก็บ”
ไล่เบี้ยเก็บภาษีผับกลางกรุง
รมช.คลัง กล่าวว่า สถานบันเทิง 367 แห่ง ซึ่งกรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษี ส่วนใหญ่อยู่ใน กรุงเทพฯ ย่านทองหล่อ เอกมัย รัชดาภิเษก สุขุมวิท อาร์ซีเอ ขณะที่ต่างจังหวัดมีเพียงส่วนน้อย ซึ่งทางกรมฯชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่ได้จัดเก็บเนื่องจากไม่เคยเข้าไปตรวจสอบ เพราะสถานบริการและบันเทิงเหล่านี้ไม่มีใบอนุญาต ที่ผ่านมาตรวจสอบตามใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งได้ให้นโยบายไปแล้วว่า จะทำเช่นนั้นต่อไปไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบและจัดเก็บเข้มข้นขึ้นคาดว่าในส่วนนี้จะได้ภาษีเข้ารัฐเพิ่มประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี
ต่อจากนั้น จะเน้นไปที่ภาษีบาป เหล้า บุหรี่ เบียร์ ซึ่งรวมทั้งไลท์เบียร์ วิสกี้และบรั่นดีด้วย ที่ควรจัดเก็บเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าเหล่านี้มีอันตรายต่อสุขภาพและสังคม ซึ่งหากมีการปรับปรุงอัตราการจัดเก็บภาษีคาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มอีกเป็นหมื่นล้าน ส่วนสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการฯคือสินค้าที่ยังไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเลยแต่เห็นว่าควรที่จะนำมาจัดเก็บ ซึ่งมีหลายรายการที่ยังไม่เคยอยู่ในรายการภาษีสรรพสามิต แต่รายได้ดีมากในปัจจุบัน เช่นการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น การส่งข้อความ การส่งข้อความเสียง หรือภาพ การให้บริการดาวน์โหลดคลิปวีดิโอ ซึ่งบางประเภทเป็นคลิปที่ล่อแหลมรวมทั้งการให้บริการข้อมูลผ่านระบบ 1900 1900...เป็นต้น และต่อจากนี้คงจะต้องมีการพิจารณารายการสินค้าใหม่ๆที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ว่าสินค้าใดควรจะจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนไป
น้ำอัดลม “พี่บิ๊ก” เตรียมจ่าย
นพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ต่อจากนั้นจะไปถึงสินค้าอื่น ใน 21 รายการ ที่จะมีการปรับปรุง เช่น น้ำอัดลม ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการบรรจุ เช่น กรณีใหญ่พิเศษ หรือพี่บิ๊กแต่ยังเสียภาษีในอัตราที่ต่ำมากหรือบางกรณีเช่นไพ่ป๊อกซึ่งสำรับหนึ่งขายแพงมาก 400-500 บาททั้งที่ต้นทุนจริงๆต่ำมาก แต่มีการแจกแจงว่าค่าการตลาดสูงถึง 200 บาท ซึ่งราคาที่แพงมากทำให้ คนไทยส่วนใหญ่หันไปซื้อของเถื่อนที่ราคาถูก ทำให้จัดเก็บภาษีสรรพ-สามิตในส่วนนี้ได้น้อยมาก
“ในส่วนของสินค้าหนีภาษีสินค้าเถื่อนสินค้าปลอมแปลงอากรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องเข้าไปดูแลให้มีการปราบปรามเพราะทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหล้าปลอม บุหรี่ปลอม ฝาจีบ ตั๋วหนังมีปลอมแปลงทั้งนั้น เพราะคนนิยมของถูกมากตามภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องมีการปราบปรามและจัดงานเพื่อรณรงค์ให้คนมาซื้อสินค้าที่เสียภาษีถูกต้องมากขึ้น”
นอกจากนั้น มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีสินค้าที่อยู่ในขอบข่ายการเสียภาษีสรรพสามิตทั้งที่ยังไม่มีการจัดเก็บและจัดเก็บไม่เต็มเพดาน โดยเน้นไปที่สินค้าที่ทำลายสุขภาพ เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ หากจะจัดเก็บก็สามารถออกเป็นกฎกระทรวงได้ทันที ทั้งนี้ วิธีการจัดเก็บนั้น จะคำนวณจากจำนวนคาเฟอีนที่เป็นส่วนผสม และจะจัดเก็บเฉพาะเครื่องที่บรรจุในขวดหรือกระป๋องเท่านั้น
นำระบบไอทียกระดับเก็บภาษี
รมช.คลัง กล่าวด้วยว่าในช่วงต่อไปจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาเน้นการใช้กำลังคนและมีปัญหาคนขาดคนไม่พอในการเข้าไปตรวจสอบ และจัดเก็บเสมอทำให้คิดว่าการนำระบบคอมพิวเตอร์และการออนไลน์มิเตอร์น้ำมันหรือสินค้าอื่นๆสู่ระบบโดยตรง อาจจะทำให้ประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้ดีขึ้นและถูกต้องมากขึ้น
“แม้ว่าไม่ต้องตั้งเวลาให้คณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะฯ อย่างเป็นทางการว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสินเมื่อไร แต่ได้กำชับไปแล้วว่าต้องติดเทอร์โบในการทำงาน และการปรับเปลี่ยนโครงการการจัดเก็บและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ที่ต้องเน้นคือเมื่อจัดเก็บแล้วผู้ประกอบการสินค้าจะต้องไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการผลักภาระหรือขึ้นราคาสินค้าซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่จะดูแลให้ผู้ประกอบการรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้ไว้ในผลประกอบการของบริษัทเอง
ทั้งนี้ เมื่อการปรับโครงสร้างการจัดเก็บและปรับอัตราภาษีสรรพสามิตทั้ง 21 รายการนี้แล้วคาดว่ารัฐจะได้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง และยังช่วยปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของคนเสียภาษีสรรพสามิตทุกรายมากขึ้นด้วย
ส่วนซานติก้าผับ จะเข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิตหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อ เท็จจริงของคณะกรรมการ ซึ่งตนได้เพิ่มระยะเวลาในการตรวจสอบอีก 1 เดือน พร้อมกับเพิ่มจำนวนคณะกรรมการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหนึ่งคน.
ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=126448