• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:443a17528dad1b5b9cd389f85ef808ff' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong>รีดภาษีสถานบันเทิง 367 แห่ง [6 มี.ค. 52 - 05:48]</strong><br />\n <br />\n<span style=\"font-size: 10pt; font-family: \'Microsoft Sans Serif\'\" lang=\"TH\"><strong><img border=\"1\" align=\"left\" width=\"220\" src=\"http://www.thairath.co.th/2552/economic/Mar/library/06/eco1.jpg\" height=\"168\" /></strong></span>นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กำลังเร่งปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่  เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยมีการปรับปรุงให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ที่สินค้าเปลี่ยนรูปแบบไป ทันสมัยมากขึ้น หรือสินค้าบางประเภทเสื่อมความนิยมไป และมีสินค้าบางประเภทที่ได้รับความนิยมขึ้นมาทดแทน ทำให้สินค้าบางรายการในปัจจุบันไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือจัดเก็บในอัตราที่ต่ำมาก อีกทั้งยังพบด้วยว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วงที่ผ่านมา ไปเน้นการจัดเก็บด้วยคนเป็นหลัก และมีการเปิดโอกาสให้ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สูงทำให้มีหลายมาตรฐานในการจัดเก็บภาษี มีหลายอัตราซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจ่ายภาษีของสินค้าหรือบริการที่ทำธุรกิจหรือขายสินค้าเดียวกัน\n</p>\n<p>\nดังนั้น เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการที่ดีและสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ลดส่วนที่เป็นพื้นที่สีเทาและลดการใช้ดุลพินิจให้น้อยลง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษา และเสนอแนะแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตขึ้นมา เพื่อที่จะพิจารณาปรับโครงสร้างหลักการการจัดเก็บและอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยหลักการคือ สินค้าที่หมิ่นเหม่ทางศีลธรรมภาษีบาป สถานบริการ สถานบันเทิงจะมีการพิจารณาความเหมาะสมของภาษีในปัจจุบันเป็นพิเศษ นอกจากนั้นสินค้าใดที่ได้กำไรสูงมากแต่ไม่เคยเสียภาษีก็ควรนำเข้าสู่ในระบบ\n</p>\n<p>\n“กรณีของสถานบริการเห็นได้ชัดว่าตัวสินค้าได้มีการพัฒนาไปมากจากเดิมที่เป็นดิสโก้เธคหรือไนต์คลับเวลานี้เปลี่ยนไปเป็นผับ ซึ่งไม่มีฟลอร์เต้นรำ แต่กฎหมายไม่เปลี่ยนทำให้เกิดช่องโหว่ในการใช้ ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ จุดนี้คงต้องมีการดำเนินการแก้ไข โดยจากการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจสถานบริการและสถานบันเทิงทั่วประเทศ ไม่นับในส่วนที่เสียภาษีถูกต้องอยู่แล้ว 28 แห่ง ในช่วง 21.00 - 02.00 น. พบว่า จาก 1,000 แห่ง มีสถานบริการ และสถานบันเทิงที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิต 367 แห่งซึ่งต้องเร่งจัดเก็บ” <br />\n <br />\nไล่เบี้ยเก็บภาษีผับกลางกรุง\n</p>\n<p>\n รมช.คลัง กล่าวว่า สถานบันเทิง 367 แห่ง ซึ่งกรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษี ส่วนใหญ่อยู่ใน กรุงเทพฯ ย่านทองหล่อ เอกมัย รัชดาภิเษก สุขุมวิท อาร์ซีเอ ขณะที่ต่างจังหวัดมีเพียงส่วนน้อย ซึ่งทางกรมฯชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่ได้จัดเก็บเนื่องจากไม่เคยเข้าไปตรวจสอบ เพราะสถานบริการและบันเทิงเหล่านี้ไม่มีใบอนุญาต ที่ผ่านมาตรวจสอบตามใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งได้ให้นโยบายไปแล้วว่า จะทำเช่นนั้นต่อไปไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบและจัดเก็บเข้มข้นขึ้นคาดว่าในส่วนนี้จะได้ภาษีเข้ารัฐเพิ่มประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี\n</p>\n<p>\nต่อจากนั้น จะเน้นไปที่ภาษีบาป เหล้า บุหรี่ เบียร์ ซึ่งรวมทั้งไลท์เบียร์ วิสกี้และบรั่นดีด้วย ที่ควรจัดเก็บเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าเหล่านี้มีอันตรายต่อสุขภาพและสังคม ซึ่งหากมีการปรับปรุงอัตราการจัดเก็บภาษีคาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มอีกเป็นหมื่นล้าน ส่วนสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการฯคือสินค้าที่ยังไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเลยแต่เห็นว่าควรที่จะนำมาจัดเก็บ ซึ่งมีหลายรายการที่ยังไม่เคยอยู่ในรายการภาษีสรรพสามิต แต่รายได้ดีมากในปัจจุบัน เช่นการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น การส่งข้อความ การส่งข้อความเสียง หรือภาพ การให้บริการดาวน์โหลดคลิปวีดิโอ ซึ่งบางประเภทเป็นคลิปที่ล่อแหลมรวมทั้งการให้บริการข้อมูลผ่านระบบ 1900 1900...เป็นต้น และต่อจากนี้คงจะต้องมีการพิจารณารายการสินค้าใหม่ๆที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ว่าสินค้าใดควรจะจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนไป <br />\n <br />\nน้ำอัดลม “พี่บิ๊ก” เตรียมจ่าย\n</p>\n<p>\nนพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ต่อจากนั้นจะไปถึงสินค้าอื่น ใน 21 รายการ ที่จะมีการปรับปรุง เช่น น้ำอัดลม ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการบรรจุ เช่น กรณีใหญ่พิเศษ หรือพี่บิ๊กแต่ยังเสียภาษีในอัตราที่ต่ำมากหรือบางกรณีเช่นไพ่ป๊อกซึ่งสำรับหนึ่งขายแพงมาก 400-500 บาททั้งที่ต้นทุนจริงๆต่ำมาก แต่มีการแจกแจงว่าค่าการตลาดสูงถึง 200 บาท ซึ่งราคาที่แพงมากทำให้ คนไทยส่วนใหญ่หันไปซื้อของเถื่อนที่ราคาถูก ทำให้จัดเก็บภาษีสรรพ-สามิตในส่วนนี้ได้น้อยมาก\n</p>\n<p>\n“ในส่วนของสินค้าหนีภาษีสินค้าเถื่อนสินค้าปลอมแปลงอากรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องเข้าไปดูแลให้มีการปราบปรามเพราะทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหล้าปลอม บุหรี่ปลอม ฝาจีบ ตั๋วหนังมีปลอมแปลงทั้งนั้น เพราะคนนิยมของถูกมากตามภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องมีการปราบปรามและจัดงานเพื่อรณรงค์ให้คนมาซื้อสินค้าที่เสียภาษีถูกต้องมากขึ้น”\n</p>\n<p>\nนอกจากนั้น มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีสินค้าที่อยู่ในขอบข่ายการเสียภาษีสรรพสามิตทั้งที่ยังไม่มีการจัดเก็บและจัดเก็บไม่เต็มเพดาน โดยเน้นไปที่สินค้าที่ทำลายสุขภาพ เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ หากจะจัดเก็บก็สามารถออกเป็นกฎกระทรวงได้ทันที ทั้งนี้ วิธีการจัดเก็บนั้น จะคำนวณจากจำนวนคาเฟอีนที่เป็นส่วนผสม และจะจัดเก็บเฉพาะเครื่องที่บรรจุในขวดหรือกระป๋องเท่านั้น\n</p>\n<p>\nนำระบบไอทียกระดับเก็บภาษี\n</p>\n<p>\nรมช.คลัง กล่าวด้วยว่าในช่วงต่อไปจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาเน้นการใช้กำลังคนและมีปัญหาคนขาดคนไม่พอในการเข้าไปตรวจสอบ และจัดเก็บเสมอทำให้คิดว่าการนำระบบคอมพิวเตอร์และการออนไลน์มิเตอร์น้ำมันหรือสินค้าอื่นๆสู่ระบบโดยตรง อาจจะทำให้ประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้ดีขึ้นและถูกต้องมากขึ้น\n</p>\n<p>\n“แม้ว่าไม่ต้องตั้งเวลาให้คณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะฯ อย่างเป็นทางการว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสินเมื่อไร แต่ได้กำชับไปแล้วว่าต้องติดเทอร์โบในการทำงาน และการปรับเปลี่ยนโครงการการจัดเก็บและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ที่ต้องเน้นคือเมื่อจัดเก็บแล้วผู้ประกอบการสินค้าจะต้องไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการผลักภาระหรือขึ้นราคาสินค้าซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่จะดูแลให้ผู้ประกอบการรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้ไว้ในผลประกอบการของบริษัทเอง\n</p>\n<p>\nทั้งนี้ เมื่อการปรับโครงสร้างการจัดเก็บและปรับอัตราภาษีสรรพสามิตทั้ง 21 รายการนี้แล้วคาดว่ารัฐจะได้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง และยังช่วยปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของคนเสียภาษีสรรพสามิตทุกรายมากขึ้นด้วย\n</p>\n<p>\nส่วนซานติก้าผับ จะเข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิตหรือไม่  ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อ เท็จจริงของคณะกรรมการ ซึ่งตนได้เพิ่มระยะเวลาในการตรวจสอบอีก 1 เดือน พร้อมกับเพิ่มจำนวนคณะกรรมการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหนึ่งคน.  <br />\n <br />\nที่มา <a href=\"http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&amp;content=126448\">http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&amp;content=126448</a>\n</p>\n', created = 1715181953, expire = 1715268353, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:443a17528dad1b5b9cd389f85ef808ff' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

รีดภาษีสถานบันเทิง 367 แห่ง [6 มี.ค. 52 - 05:48]

รูปภาพของ ssspoonsak

รีดภาษีสถานบันเทิง 367 แห่ง [6 มี.ค. 52 - 05:48]
 
นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กำลังเร่งปรับปรุงโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่  เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยมีการปรับปรุงให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ที่สินค้าเปลี่ยนรูปแบบไป ทันสมัยมากขึ้น หรือสินค้าบางประเภทเสื่อมความนิยมไป และมีสินค้าบางประเภทที่ได้รับความนิยมขึ้นมาทดแทน ทำให้สินค้าบางรายการในปัจจุบันไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือจัดเก็บในอัตราที่ต่ำมาก อีกทั้งยังพบด้วยว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วงที่ผ่านมา ไปเน้นการจัดเก็บด้วยคนเป็นหลัก และมีการเปิดโอกาสให้ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สูงทำให้มีหลายมาตรฐานในการจัดเก็บภาษี มีหลายอัตราซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจ่ายภาษีของสินค้าหรือบริการที่ทำธุรกิจหรือขายสินค้าเดียวกัน

ดังนั้น เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการที่ดีและสร้างมาตรฐานในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ลดส่วนที่เป็นพื้นที่สีเทาและลดการใช้ดุลพินิจให้น้อยลง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษา และเสนอแนะแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตขึ้นมา เพื่อที่จะพิจารณาปรับโครงสร้างหลักการการจัดเก็บและอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยหลักการคือ สินค้าที่หมิ่นเหม่ทางศีลธรรมภาษีบาป สถานบริการ สถานบันเทิงจะมีการพิจารณาความเหมาะสมของภาษีในปัจจุบันเป็นพิเศษ นอกจากนั้นสินค้าใดที่ได้กำไรสูงมากแต่ไม่เคยเสียภาษีก็ควรนำเข้าสู่ในระบบ

“กรณีของสถานบริการเห็นได้ชัดว่าตัวสินค้าได้มีการพัฒนาไปมากจากเดิมที่เป็นดิสโก้เธคหรือไนต์คลับเวลานี้เปลี่ยนไปเป็นผับ ซึ่งไม่มีฟลอร์เต้นรำ แต่กฎหมายไม่เปลี่ยนทำให้เกิดช่องโหว่ในการใช้ ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ จุดนี้คงต้องมีการดำเนินการแก้ไข โดยจากการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจสถานบริการและสถานบันเทิงทั่วประเทศ ไม่นับในส่วนที่เสียภาษีถูกต้องอยู่แล้ว 28 แห่ง ในช่วง 21.00 - 02.00 น. พบว่า จาก 1,000 แห่ง มีสถานบริการ และสถานบันเทิงที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิต 367 แห่งซึ่งต้องเร่งจัดเก็บ”
 
ไล่เบี้ยเก็บภาษีผับกลางกรุง

 รมช.คลัง กล่าวว่า สถานบันเทิง 367 แห่ง ซึ่งกรมสรรพสามิตไม่เคยจัดเก็บภาษี ส่วนใหญ่อยู่ใน กรุงเทพฯ ย่านทองหล่อ เอกมัย รัชดาภิเษก สุขุมวิท อาร์ซีเอ ขณะที่ต่างจังหวัดมีเพียงส่วนน้อย ซึ่งทางกรมฯชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่ได้จัดเก็บเนื่องจากไม่เคยเข้าไปตรวจสอบ เพราะสถานบริการและบันเทิงเหล่านี้ไม่มีใบอนุญาต ที่ผ่านมาตรวจสอบตามใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งได้ให้นโยบายไปแล้วว่า จะทำเช่นนั้นต่อไปไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบและจัดเก็บเข้มข้นขึ้นคาดว่าในส่วนนี้จะได้ภาษีเข้ารัฐเพิ่มประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี

ต่อจากนั้น จะเน้นไปที่ภาษีบาป เหล้า บุหรี่ เบียร์ ซึ่งรวมทั้งไลท์เบียร์ วิสกี้และบรั่นดีด้วย ที่ควรจัดเก็บเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าเหล่านี้มีอันตรายต่อสุขภาพและสังคม ซึ่งหากมีการปรับปรุงอัตราการจัดเก็บภาษีคาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มอีกเป็นหมื่นล้าน ส่วนสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการฯคือสินค้าที่ยังไม่เคยมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเลยแต่เห็นว่าควรที่จะนำมาจัดเก็บ ซึ่งมีหลายรายการที่ยังไม่เคยอยู่ในรายการภาษีสรรพสามิต แต่รายได้ดีมากในปัจจุบัน เช่นการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น การส่งข้อความ การส่งข้อความเสียง หรือภาพ การให้บริการดาวน์โหลดคลิปวีดิโอ ซึ่งบางประเภทเป็นคลิปที่ล่อแหลมรวมทั้งการให้บริการข้อมูลผ่านระบบ 1900 1900...เป็นต้น และต่อจากนี้คงจะต้องมีการพิจารณารายการสินค้าใหม่ๆที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ว่าสินค้าใดควรจะจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนไป
 
น้ำอัดลม “พี่บิ๊ก” เตรียมจ่าย

นพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อไปว่า ต่อจากนั้นจะไปถึงสินค้าอื่น ใน 21 รายการ ที่จะมีการปรับปรุง เช่น น้ำอัดลม ซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการบรรจุ เช่น กรณีใหญ่พิเศษ หรือพี่บิ๊กแต่ยังเสียภาษีในอัตราที่ต่ำมากหรือบางกรณีเช่นไพ่ป๊อกซึ่งสำรับหนึ่งขายแพงมาก 400-500 บาททั้งที่ต้นทุนจริงๆต่ำมาก แต่มีการแจกแจงว่าค่าการตลาดสูงถึง 200 บาท ซึ่งราคาที่แพงมากทำให้ คนไทยส่วนใหญ่หันไปซื้อของเถื่อนที่ราคาถูก ทำให้จัดเก็บภาษีสรรพ-สามิตในส่วนนี้ได้น้อยมาก

“ในส่วนของสินค้าหนีภาษีสินค้าเถื่อนสินค้าปลอมแปลงอากรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องเข้าไปดูแลให้มีการปราบปรามเพราะทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหล้าปลอม บุหรี่ปลอม ฝาจีบ ตั๋วหนังมีปลอมแปลงทั้งนั้น เพราะคนนิยมของถูกมากตามภาวะเศรษฐกิจ จึงต้องมีการปราบปรามและจัดงานเพื่อรณรงค์ให้คนมาซื้อสินค้าที่เสียภาษีถูกต้องมากขึ้น”

นอกจากนั้น มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีสินค้าที่อยู่ในขอบข่ายการเสียภาษีสรรพสามิตทั้งที่ยังไม่มีการจัดเก็บและจัดเก็บไม่เต็มเพดาน โดยเน้นไปที่สินค้าที่ทำลายสุขภาพ เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ หากจะจัดเก็บก็สามารถออกเป็นกฎกระทรวงได้ทันที ทั้งนี้ วิธีการจัดเก็บนั้น จะคำนวณจากจำนวนคาเฟอีนที่เป็นส่วนผสม และจะจัดเก็บเฉพาะเครื่องที่บรรจุในขวดหรือกระป๋องเท่านั้น

นำระบบไอทียกระดับเก็บภาษี

รมช.คลัง กล่าวด้วยว่าในช่วงต่อไปจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาเน้นการใช้กำลังคนและมีปัญหาคนขาดคนไม่พอในการเข้าไปตรวจสอบ และจัดเก็บเสมอทำให้คิดว่าการนำระบบคอมพิวเตอร์และการออนไลน์มิเตอร์น้ำมันหรือสินค้าอื่นๆสู่ระบบโดยตรง อาจจะทำให้ประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้ดีขึ้นและถูกต้องมากขึ้น

“แม้ว่าไม่ต้องตั้งเวลาให้คณะกรรมการศึกษาและเสนอแนะฯ อย่างเป็นทางการว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสินเมื่อไร แต่ได้กำชับไปแล้วว่าต้องติดเทอร์โบในการทำงาน และการปรับเปลี่ยนโครงการการจัดเก็บและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ที่ต้องเน้นคือเมื่อจัดเก็บแล้วผู้ประกอบการสินค้าจะต้องไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการผลักภาระหรือขึ้นราคาสินค้าซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่จะดูแลให้ผู้ประกอบการรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้ไว้ในผลประกอบการของบริษัทเอง

ทั้งนี้ เมื่อการปรับโครงสร้างการจัดเก็บและปรับอัตราภาษีสรรพสามิตทั้ง 21 รายการนี้แล้วคาดว่ารัฐจะได้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง และยังช่วยปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของคนเสียภาษีสรรพสามิตทุกรายมากขึ้นด้วย

ส่วนซานติก้าผับ จะเข้าข่ายต้องเสียภาษีสรรพสามิตหรือไม่  ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อ เท็จจริงของคณะกรรมการ ซึ่งตนได้เพิ่มระยะเวลาในการตรวจสอบอีก 1 เดือน พร้อมกับเพิ่มจำนวนคณะกรรมการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหนึ่งคน. 
 
ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=126448

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 384 คน กำลังออนไลน์