• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:77f160b1b9d97b26b4397d19e399fc59' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong>แบ่งเค้กงบแก้ว่างงานไม่ลงตัว “ไพฑูรย์” เดินหน้าชนสภาพัฒน์เมิน “กอร์ปศักดิ์” [10 ก.พ. 52 - 05:20]</strong><br />\n <br />\n<img border=\"0\" align=\"left\" width=\"150\" src=\"http://www.thairath.co.th/2552/economic/Feb/library/10/economic.jpg\" height=\"144\" />ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม. วันที่ 10 ก.พ.นี้ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน จะเสนอให้ ครม.พิจารณาการแก้ไขการเลิกจ้างและว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย รมว.คลังและ รมว.แรงงาน เป็นรองประธานกรรมการและมี รมว.กระทรวงอื่น ๆ หัวหน้าส่วนราชการ, ตัวแทนจากภาคเอกชน สถาบันการศึกษาเป็นกรรมการ โดยมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นกรรมการและเลขานุการ   \n</p>\n<p>\nพร้อมกับเสนอให้กำหนดการแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงานจากวิกฤติเศรษฐกิจเป็นวาระแห่งชาติและประกาศให้ทราบทั่วกันเพื่อให้ เกิดความร่วมมือกันทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง แม้จะมีความเห็นขัดแย้งจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดเป็นวาระแห่งชาติอีก เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้และกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนแล้ว และควรใช้คณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและชุมชน ที่ ครม.เศรษฐกิจมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายก รัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว\n</p>\n<p>\nทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า ได้ทบทวนข้อคิดเห็นของ สศช.แล้ว แต่ที่ยังเสนอให้ ครม. พิจารณา เพราะเห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจได้ลุกลามไปทั่วโลก และยังไม่มีสัญญาณว่าจะแก้ไขได้ในระยะสั้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพิงการส่งออกสูง โรงงานหลายแห่งลดจำนวนคนงาน เลิกจ้างหรือปิดกิจการ ทำให้คนงานจำนวนมากไม่มีงานทำ ขาดรายได้เลี้ยงดูครอบครัว เป็นผลลบต่อสังคมไทย โดยตัวเลขการว่างงานล่าสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินไว้ที่ 1.1-1.4 ล้านคนในปี 52 หรือคิดเป็นอัตราว่างงาน 2.9-3.7% ภายใต้เงื่อนไขว่าหากเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่เติบโตอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 3.7% หรือหากเศรษฐกิจขยายตัวได้ 2% อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 2.9% ดังนั้น จำนวนผู้ว่างงานปี 52 อาจเพิ่มขึ้นเป็น 600,000-900,000 คน จากผู้ว่างงานที่มีอยู่แล้ว 500,000 คน ในปี 51 \n</p>\n<p>\nดังนั้น การกำหนดให้การแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงาน เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงาน และร่วมมือกันป้องกันและบรรเทาปัญหาอย่างเป็นระบบ ให้เกิดผลในการช่วยเหลือผู้ เดือดร้อนอย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อ 1.2 การรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชน\n</p>\n<p>\nอีกทั้งคณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ มีอำนาจหน้าที่แตกต่างจากคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานฯ เนื่องจากคณะกรรมการบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ประกอบด้วยรัฐมนตรีจากหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อน จะมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมในส่วนการป้องกันและบรรเทาปัญหาการเลิกจ้างและว่างงานอย่างครบวงจร ทั้งด้านการชะลอการเลิกจ้าง, การจัดหางานให้ใหม่, การบรรเทาปัญหาผู้ถูกเลิกจ้างและว่างงาน, การดูแลสิทธิประโยชน์ การส่งเสริมอาชีพ การจัดทำมาตรการรองรับแรงงานคืนถิ่น ตลอดจนส่งเสริมให้สถานประกอบการสามารถอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้แรงงานยังคงอยู่ในระบบการจ้างงานต่อไป \n</p>\n<p>\nโดยในส่วนของกระทรวงแรงงานมุ่งเน้นไปในการฝึกอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ถูกเลิกจ้างและว่างงาน กลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ในสาขาอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์เป้าหมายและผู้ถูกชะลอการเลิกจ้าง กำหนดเป้าหมายการฝึกอาชีพ 150,000 คน โดยจะขอรับการสนับสนุนงบจากงบประมาณเพิ่มเติมกลางปี พ.ศ.52 ที่จัดสรรเพื่อแก้ปัญหาแรงงาน 6,900 ล้านบาท  \n</p>\n<p>\nส่วนคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานฯ จะมุ่งเน้นไปที่นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกเพียงข้อเดียวคือ ข้อ 1.2.2 ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้า โดยจัดโครงการฝึกอบรมแรงงานที่ว่างงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ จึงยังไม่ครอบคลุมในนโยบายด้านอื่นดังกล่าว. <br />\n \n</p>\n<p>\nที่มา <a href=\"http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&amp;content=122877\">http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&amp;content=122877</a><br />\n \n</p>\n', created = 1715197827, expire = 1715284227, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:77f160b1b9d97b26b4397d19e399fc59' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

แบ่งเค้กงบแก้ว่างงานไม่ลงตัว “ไพฑูรย์” เดินหน้าชนสภาพัฒน์เมิน “กอร์ปศักดิ์” [10 ก.พ. 52 - 05:20]

รูปภาพของ ssspoonsak

แบ่งเค้กงบแก้ว่างงานไม่ลงตัว “ไพฑูรย์” เดินหน้าชนสภาพัฒน์เมิน “กอร์ปศักดิ์” [10 ก.พ. 52 - 05:20]
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม. วันที่ 10 ก.พ.นี้ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน จะเสนอให้ ครม.พิจารณาการแก้ไขการเลิกจ้างและว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย รมว.คลังและ รมว.แรงงาน เป็นรองประธานกรรมการและมี รมว.กระทรวงอื่น ๆ หัวหน้าส่วนราชการ, ตัวแทนจากภาคเอกชน สถาบันการศึกษาเป็นกรรมการ โดยมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นกรรมการและเลขานุการ   

พร้อมกับเสนอให้กำหนดการแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงานจากวิกฤติเศรษฐกิจเป็นวาระแห่งชาติและประกาศให้ทราบทั่วกันเพื่อให้ เกิดความร่วมมือกันทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง แม้จะมีความเห็นขัดแย้งจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดเป็นวาระแห่งชาติอีก เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้และกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนแล้ว และควรใช้คณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและชุมชน ที่ ครม.เศรษฐกิจมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายก รัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า ได้ทบทวนข้อคิดเห็นของ สศช.แล้ว แต่ที่ยังเสนอให้ ครม. พิจารณา เพราะเห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจได้ลุกลามไปทั่วโลก และยังไม่มีสัญญาณว่าจะแก้ไขได้ในระยะสั้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพิงการส่งออกสูง โรงงานหลายแห่งลดจำนวนคนงาน เลิกจ้างหรือปิดกิจการ ทำให้คนงานจำนวนมากไม่มีงานทำ ขาดรายได้เลี้ยงดูครอบครัว เป็นผลลบต่อสังคมไทย โดยตัวเลขการว่างงานล่าสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินไว้ที่ 1.1-1.4 ล้านคนในปี 52 หรือคิดเป็นอัตราว่างงาน 2.9-3.7% ภายใต้เงื่อนไขว่าหากเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่เติบโตอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 3.7% หรือหากเศรษฐกิจขยายตัวได้ 2% อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 2.9% ดังนั้น จำนวนผู้ว่างงานปี 52 อาจเพิ่มขึ้นเป็น 600,000-900,000 คน จากผู้ว่างงานที่มีอยู่แล้ว 500,000 คน ในปี 51 

ดังนั้น การกำหนดให้การแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงาน เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างและว่างงาน และร่วมมือกันป้องกันและบรรเทาปัญหาอย่างเป็นระบบ ให้เกิดผลในการช่วยเหลือผู้ เดือดร้อนอย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อ 1.2 การรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชน

อีกทั้งคณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ มีอำนาจหน้าที่แตกต่างจากคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานฯ เนื่องจากคณะกรรมการบรรเทาปัญหาการว่างงานจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ประกอบด้วยรัฐมนตรีจากหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อน จะมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมในส่วนการป้องกันและบรรเทาปัญหาการเลิกจ้างและว่างงานอย่างครบวงจร ทั้งด้านการชะลอการเลิกจ้าง, การจัดหางานให้ใหม่, การบรรเทาปัญหาผู้ถูกเลิกจ้างและว่างงาน, การดูแลสิทธิประโยชน์ การส่งเสริมอาชีพ การจัดทำมาตรการรองรับแรงงานคืนถิ่น ตลอดจนส่งเสริมให้สถานประกอบการสามารถอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้แรงงานยังคงอยู่ในระบบการจ้างงานต่อไป 

โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานมุ่งเน้นไปในการฝึกอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ถูกเลิกจ้างและว่างงาน กลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ในสาขาอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์เป้าหมายและผู้ถูกชะลอการเลิกจ้าง กำหนดเป้าหมายการฝึกอาชีพ 150,000 คน โดยจะขอรับการสนับสนุนงบจากงบประมาณเพิ่มเติมกลางปี พ.ศ.52 ที่จัดสรรเพื่อแก้ปัญหาแรงงาน 6,900 ล้านบาท  

ส่วนคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานฯ จะมุ่งเน้นไปที่นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกเพียงข้อเดียวคือ ข้อ 1.2.2 ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้า โดยจัดโครงการฝึกอบรมแรงงานที่ว่างงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ จึงยังไม่ครอบคลุมในนโยบายด้านอื่นดังกล่าว.
 

ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=122877
 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 480 คน กำลังออนไลน์