การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้น
ชื่อผลงาน : การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย : นางสุจินต์ ชาวสวน
ครูโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ศึกษาคุณลักษณะบุคคลแห่งการเรียนรู้ของผู้เรียน วิชาอินเทอร์เน็ตและ การสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ (O-NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 และศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 41 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยมีดังนี้ แบบประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบประเมินคุณลักษณะการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ของผู้เรียน วิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนระดับสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ (O-NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS (Statistical Package for the Social Sciences for Windows) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (X-bar) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการวิจัยพบว่า
จาการดำเนินการตามวิธีกระบวนการวิจัย สามารถสรุปผลตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยได้ดังนี้
1. ผลการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีดังนี้ บทเรียน แสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ มีค่า E1 และ E2 เท่ากับ 86.74/90.20 แสดงว่า บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์โดยมีค่า E1 และ E2 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และผลการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมพบว่า มีการปฏิบัติหรือคุณภาพอยู่ในระดับมาก (X-bar =4.47, S.D.=0.13) ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
2. ผลการศึกษาคุณลักษณะบุคคลแห่งการเรียนรู้ของผู้เรียน วิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมพบว่า มีการปฏิบัติหรือคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar =4.50, S.D.=0.19) เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า นักเรียนสามารถจัดทำสื่อ นวัตกรรมจากการศึกษาค้นคว้าเพื่อการเผยแพร่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar=4.70, S.D.=0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียนมีความสามารถในการเลือกใช้วิธีการแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง (X-bar =4.60, S.D.=0.49) ส่วนนักเรียนสามารถนำเสนอผลงานจากการศึกษาค้นคว้าของตนเองต่อบุคคลอื่นได้ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X-bar=4.17, S.D.=0.66) อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
3. แสดงผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 พบว่าปีการศึกษา 2556 มีคะนนเฉลี่ยเท่ากับ 30.32 ปีการศึกษา 2557 มีคะนนเฉลี่ยเท่ากับ 45.02 คะแนนความก้าวหน้ามีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 14.71 คิดเป็นร้อยละ 29.41 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 มีค่าเฉลี่ย สูงกว่าปีการศึกษา 2556 ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ ปีการศึกษา 2556-2557 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ปีการศึกษา 2556 มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 77.75 ปีการศึกษา 2557 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 85.25 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ ปีการศึกษา 2557 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่า ปีการศึกษา 2556 ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
5. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ (O-NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 พบว่า ปีการศึกษา 2556 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 43.23 ปีการศึกษา 2557 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 44.58 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ (O-NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 มีค่าพัฒนา +1.35 มากกว่าปีการศึกษา 2556 ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
6. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บวิชาอินเทอร์เน็ตและการสร้างเว็บเพจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมพบว่า ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar =4.60, S.D.=0.16) เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า ครูทบทวนความรู้เดิม เพื่อเชื่อมโยงกับกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar =4.70, S.D.=0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงจากสื่อ เทคโนโลยีที่น่าสนใจ (X-bar =4.68, S.D.=0.47) ส่วนนักเรียนได้ทำงานและใช้กระบวนการกลุ่มมีโอกาสให้ความรู้แก่เพื่อนและได้รับความรู้จากเพื่อนเช่นเดียวกัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X-bar =4.51, S.D.=0.50) อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องตามสมมติฐาน
ข้อเสนอแนะในการวิจัย
1. ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้
1.1 ควรออกแบบบทเรียนแสวงรู้บนเว็บโดยมีสื่อประสมหลากหลายเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าสนใจ และคำนึงถึงความแตกต่างด้านความสามารถในการเรียนรู้
1.2 ควรทำวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บกับกลุ่มตัวอย่างที่มีสถานภาพต่างๆ กัน ซึ่งจะได้ทราบว่าบทเรียนแสวงรู้บนเว็บมีผลต่อสถานภาพดังกล่าวหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการปรับปรุงเทคนิควิธีในรายละเอียดต่างๆ ให้เหมาะสมต่อไป
1.3 ในพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนโดยใช้บทเรียนแสวงรู้บนเว็บควรมีการทดลองเปรียบเทียบระหว่างการเรียนในห้องเรียนปกติและการเรียนแบบบทเรียนแสวงรู้บนเว็บ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพทางด้านการเรียนการสอนต่อไป
1.4 ควรมีการทำวิจัยเชิงสำรวจ ศึกษาลักษณะของเนื้อหาวิชา และธรรมชาติของผู้เรียนต่อความพร้อมในการจัดการเรียนด้วยบทเรียนแสวงรู้บนเว็บ
2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนและการเสริมสร้างการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
2.2 ควรศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้สู่คุณภาพผู้เรียนและการเสริมสร้างการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ในลักษณะอื่น