ผลการเรียนรู้รายวิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ของนักเรียนชั้นม.3
ชื่อเรื่อง : ผลการเรียนรู้รายวิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น โดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดแหลมทราย) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ผู้วิจัย : นายพินิจ บุญช่วย
สถานที่ทำงาน : โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดแหลมทราย) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ปีการศึกษา : 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ( Quasi experimental design ) ชนิด One group pretest-posttest design เพื่อพัฒนาและศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ ([บ้านแหลมทราย) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ก่อนและหลังการสอนโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (บ้านแหลมทราย) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2557 จำนวน 35 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ที่พัฒนาขึ้นผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น 3)แบบประเมินทักษะการแสดงคุณค่างานทัศนศิลป์ และ 4)แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ดำเนินการวิจัยโดยใช้ชุดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน 14 ครั้ง ๆ ละ 50 นาที โดยทำการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบทดสอบชุดเดียวกัน รวมทั้งประเมินทักษะการแสดงคุณค่างานทัศนศิลป์และความพึงพอใจในการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติทดสอบค่าที (Dependent t-test) เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยกำหนดระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงานที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่วางไว้ โดยคะแนนเฉลี่ยภายหลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้
3. ทักษะการแสดงคุณค่างานทัศนศิลป์ภายหลังการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง คุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน อยู่ในระดับ ดี 4. ความพึงพอใจในการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องคุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นโดยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงานภายหลังการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับ มากที่สุด
ข้อเสนอแนะ : ควรศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ในการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ และศิลปศึกษาอื่น ๆ
คำสำคัญ : การเรียนรู้แบบโครงงาน คุณค่างานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในท้องถิ่น