ประเพณีท้องถิ่นล้านนา
ประเพณีขึ้นท้าวทั้ง 4
พิธีกรรมขึ้นท้าวทั้ง 4 ของผู้เฒ่าผู้แก่ชุมชนในภาคเหนือหรือท้องถิ่นล้าน เป็นความเชื่อทางด้านจิตใจที่ว่า หากบ้านใดทำพิธีขึ้นท้าวทั้ง 4 แล้ว เชื่อว่าท้าวจตุโลกบาล ซึ่งเป็นเทพรักษาทิศทั้ง 4 ทิศ จะลงมาปกปักรักษาให้เจ้าของบ้าน หรือเยาวชนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากเกรงว่าหากไม่ปฏิบัติในสิ่งไม่ดี จะส่งผลเสียต่อตนเอง
พิธีขึ้นท้าวทั้ง 4 นี้ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากบ้านใดจะประกอบพิธี เพื่อนบ้านก็จะมาช่วยจัดเตรียมเครื่องประกอบพิธี ที่มีทั้งอาหารคาคาวหวาน ผลไม้ ตุง ข้าวตอกดอกไม้ และอื่นๆ แต่ละชนิดต้องมีครบ 4 อย่าง
ประเพณีการขึ้นท้าวทั้ง 4 นั้น นับถือและนิยมกันมาแต่โบราณกาลแล้ว ผู้เขียนเห็นว่าเป็นประเพณีอันดีงามอย่างหนึ่งที่ควรอนุรักษ์ ซึ่งชาวเหนือเมื่อจะทำการมงคลใด ๆ ก็จะนิยมกันขึ้นท้าวทั้ง 4 เช่น ฉลองวัดวาอาราม กินแขก แต่งงาน ปลูกสร้างบ้านใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ บวชพระเป็กข์ตุและงานประเพณีต่าง ๆ งานสงกรานต์ เปิดร้านค้าใหม่ เป็นต้น ฯ ก็มักจะขึ้นท้าวทั้ง 4 เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ก็เพื่อป้องก้นอาเพศเหตุร้าย อันที่จะเกิดขึ้นในระหว่างงาน แล้วยังให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงดังปรารถนาฯ ท้าวทั้ง 4 จัดว่าเป็นเทวดาจำพวกหนึ่ง ที่อาราธนามาปกป้องสิ่งอันเลวร้ายทั้งหลายและอันตราย ที่จะเกิดแก่มนุษย์โลก คอบรักษาดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลกทั้ง 4 ทิศ
ท้าวทั้ง 4 หรือเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล เป็นเทวดาที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์ประกอบด้วย
ท้าวกุเวร หรือบางทีเรียกว่า ท้าวเวสสุวรรณมีหน้าที่รักษาอยู่ทางทิศอุดร (เหนือ) มีพวกยักษ์เป็นบริวาร
ท้าวธตะรัฐ มีหน้าที่รักษาอยู่ทิศบูรพา(ตะวันออก) มีพวกคนธรรพ์เป็นบริวาร
ท้าววิรุฬหก มีหน้าที่รักษาอยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้) มีพวกอสูรเป็รบริวาร
ท้าววิรุฬปักข์ มีหน้าที่รักษาอยู่ทางทิศประจิม (ตะวันออก) มีฝูงนาคเป็นบริวาร
ท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวทั้ง 4 นี้ มีพระยาอินทาธิราชเป็นประธาน ในการทำพิธีขึ้นท้าวทั้ง 4 มีธรรมเสียมว่า เมื่อจะทำการมงคลต่างๆ เป็นต้นว่า ขึ้นเรือนใหม่ แต่งงาน บวชนาค งานทำบุญปอย และงานประเพณีต่างๆ เช่น งานพิธีสักการบูชาเสาอินทขิล และในเทศกาลตรุษสงกรานต์ ก็มักจะมีการทำพิธีขึ้นท้าวทั้ง 4 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
เครื่องพลีกรรม มีขนม ของหวาน คาว บุหรี่ หมาก เมี่ยง กล้วย อ้อย ช่อตุง อย่างละ 4 ธูปเทียน บรรจุลงในสะตวง (กระทง) ที่ทำด้วยหยวกกล้วย ขนาดกว้างประมาณ 1 คืบ นำเอาสะตวงไปวางไว้บนเสาไม้ ซึ่งสมมุติว่าเป็นปราสาทของเทวดาทั้ง 4 ตน ส่วนอันกลางจะสูงกว่าสมมุติว่า เป็นพระยาอินทาธิราชองค์ประมุข สะตวงนี้ จะต้องเตรียมไว้ 5 อัน สำหรับเทวดาและกระทงเล็กอีกองค์หนึ่ง วางไว้ที่ตีนเสาปราสาท สมมุติว่า เป็นแม่ธรณีเจ้าที่ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในการมงคลที่จัดขึ้น การวางกระทง กระทงที่ปักช่อตุงสีแดงไว้ทางทิศตะวันออก ช่อตุงสีเหลืองไว้ทางทิศใต้ ช่อตุงสีขาวไว้ทางทิศตะวันตก ช่อสีดำไว้ทางทิศเหนือ ช่อปลายปราสาทของพยาอินทร์ ช่อตุงสีเขียว แล้วจุดธูปเทียน กล่าวคำเชิญเทวดา
เมื่อมีกิจกรรมต่างๆ บริวารในเทวดาทั้งสี่ เป็นผู้ดูแลสรรพสัตว์มนุษย์โลกทั้งหลาย แต่ละที่แต่ละแห่ง ในวันพระวันศีล มีการสำรวจตรวจสอบในการกระทำความดีของคนทั้งหลาย ที่ประพฤติปฏิบัติ จึงมีพิธีกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นมา ถ้าเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ท้าวจตุโลกบาลหรือท้าวทั้ง 4 ครั้งเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไปแสดงธรรมเทศนาที่ไหน ท้าวทั้ง 4 หรือท้าวจตุโลกบาลนี้ จะต้องไปเป็นผู้ดูแลรักษา ไปเปล่งรัศมีคือความแจ้งสว่าง ณ ที่นั้น แม้กระทั่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สำเร็จ เป็นสัพพัญญสัมมนาเจ้ามีพราหม์ถวายข้าวมัสธุปายาท ท้าวทั้งสี่ ก็จะได้มาถวายบาตรซึ่งเป็นแก้ว แต่ละองค์นำมาแต่ละทิศ ในเมื่อมาถึงแล้วพระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถรับได้ ต้องทำให้บาตรที่ได้รับจากท้าวทั้งสี่เป็นใบเดียว รับอาหารข้าวคือข้าวจตุผง ข้าวจตุก้อน จากพาณิชย์ นี่คือความเป็นไปเป็นมา
ในการทำพิธี จะมี อาจารย์ ประจำหมู่บ้านมาเป็นผู้ทำพิธี มีการอัญเชิญเทวดาก่อน แล้วกล่าวคำโอกาสเวทนานถวายแก่เทวดา ให้มารับของพลีกรรมนั้นๆ แล้วเป็นเสร็จพิธี
:: ดูหน้าต่อไป