พระเอกในวรรณคดี
พระราม พระนารายณ์อวตาร
พระราม คือ พระนารายณ์อวตาร ลงมาเกิดในกรุงศรีอยุธยา(กรุงอโยธยา)เป็นโอรสองค์ใหญ่ของท้าวทศรถ และนางเกาสุริยา พระรามมี “รัศมีสีเขียวพรายพรรณคล้ายกันกับนิลมณี” และทรงมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง
“อันเชษฐาซึ่งชื่อราเมศ งามดั่งเขาเทเวศในสรวงสวรรค์
แม้นคู่กับสีดาวิลาวัณย์ ดั่งพระจันทร์เคียงควงสุริยา”
หรือ
“งามยิ่งฝูงเทพเทขวัญ ผิวพรรณนวลนิลทั้งอินทรีย์
ทรงศรสามเล่มเลิศลบ ขจรจบฟากฟ้าราศ”
ทศรถเชิญฤาษีไลโกฏิ ทำพิธีบูชาไฟเพื่อขอโอรส พระฤาษีเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลขอให้พระองค์เชิญพระนารายณ์อวตารไปปราบยักษ์ เพราะขณะนี้พวกยักษ์ได้สร้างความเดือดร้อนทั่วไป เกรงว่าต่อไปจะไม่มีผู้ใดปราบพวกยักษ์ได้พระอิศวรจึงเชิญพระนารายณ์ให้อวตาร พระนารายณ์ทูลว่า ให้ไปองค์เดียวคงจะปราบพวกยักษ์ได้ยาก จึงของให้พระลักษมี บัลลังก์นาค คทา จักร และสังข์ ซึ่งเป็นอาวุธของพระองค์ให้ไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อเป็นกำลังช่วยรบ พระอิศวรก็ประทานอนุญาตว่า
“เจ้าไปเถิดไปเกิดเป็นมนุษย์ สุริยวงศ์จักรพรรดิมหาศาล
ทรงนามพระรามอวตาร ในสถานกรุงศรีอยุธยา
จักรเป็นพรตยศยง ถัดองค์พระนารายณ์เชษฐา
ฝ่ายสังข์บัลลังก์นาคา เป็นพระลักษณ์อนุชาฤทธิรอน
อันซึ่งคทาวราวุธ เป็นพระสัตรุดชาญสมร
องค์พระลักษณ์มีบังอร ไปเกิดในนครลงกา
ชื่อว่าสีดานงลักษณ์ เป็นบุตรทศพักตร์ยักษา
จงไปมีสวัสดิ์วัฒนา อย่ามีโรคาเภทภัย”
ดังนั้นพระรามจึงมีน้องต่างมารดาอีกสามองค์ ได้แก่ จักรของพระนารายณ์เป็นพระพรต โอรสนางไกยเกษี บัลลังก์นาคและสังข์เป็นพระลักษณ์ และคทาเป็นพระสัตรุดโอรสนางสมุทรชา พระรามมีหน้าที่ปราอธรรมหรือยักษ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทศกัณฐ์ หนือนนทกมาเกิดใหม่มีสิบเศียรยี่สิบกรเหาะเหินเดินอากาศได้ ท้าวทศรถให้โอรสทั้งสี่เรียนศิลปะศาสตร์และหัดใช้ศร ขณะนั้นพระรามอายุได้สิบสองปีนางค่อมกุจจีซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของนางไกยเกษีก็มานั่งดูด้วย พระรามใช้ศรยิงหลังนางค่อมกุจจีให้หลังแอ่นออกและยิงกลับให้เป็นอย่างเดิมได้ทันที เป็นที่ขบขันของผู้คนเป็นเหตุให้นางค่อมกุจจีผูกใจเจ็บและหาทางแก้แค้นพระรามในเวลาต่อมา ท้าวทศรถส่งพระรามและน้องๆไปเรียนศิลปวิทยาการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะศรศิลป์กับฤาษีวิสิษฐ์และฤาษีวิสวามิตร และพระฤาษีทั้งสองก็ทำพิธีชุบศรศักดิ์พระอิศวรประทานลงมาให้องค์ละสามเล่มพร้อมทั้งจารึกชื่อไว้ด้วย หลังจากนั้นพระพรตและพระสัตรุดไปอยู่กับพระราชบิดาของนางไกยเกษีที่เมืองไกรเกษ พระชนกฤาษีแห่งเมืองมิถิลา วึ่งได้นำนางสีดามาเลี้ยงไว้ เมื่อนางเจริญวัย จึงโปรดฯให้มีพิธียกศรเป็นการสยุมพร พระรามยกศรได้ จึงได้อภิเษกกับนางสีดา แล้วพานางสีดาเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา ท้าวทศรถเตรียมจัดพิธีราชาภิเษกพระราม นางไกยเกษีทูลขอราชสมบัติให้พระพรตด้วยแรงยุของนางค่อมกุจจีและให้เนรเทศพระรามไปอยู่ป่าเป็นเวลา 14 ปี ท้าวทศรถจำพระทัยให้ตามที่นางทูลขอ พระรามจึงเสด็จออกป่า พระลักษณ์และนางสีดาขอติดตามไปด้วย ท้าวทศรถเสียพระทัยจนสิ้นพระชนม์ เมื่อพระพรตและพระสัตรุดทราบข่าวก็รีบกลับกรุงศรีอยุธยา แล้วติดตามไปทูลเชิญพระรามกลับมาครองเมือง แต่พระรามขอเดินป่า 14 ปีจึงจะกลับ แสดงให้เห็นลักษณะนิสัยของพระราม คือ เป็นลูกที่ดีเชื่อฟังบิดามารดาโดยไม่โต้แย้ง มีความรักความกตัญญูไม่ต้องการให้บิดาเสียสัตย์ที่ให้ไว้แก่นางไกยเกษี ทั้งทรงมีความรักน้อง เต็มใจที่จะยกบัลลังก์ให้แก่พระพรต และมีความมุ่งมั่นที่จะปราบอธรรมตลอดจนวงศ์วานที่ชั่วร้ายให้หมดสิ้น สาเหตุของการเกิดสงครามครั้งใหญ่กับกรุงลงกา เหตุจากนางสำมนักขาออกมาเที่ยวป่าพบพระรามพระลักษณ์ มีความพอใจพระรามจึงแปลงกายมายั่วยวน แต่ไม่มีใครสนใจนางสำมนักขาจึงเข้าทำรายนางสีดา คิดว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พระรามไม่สนใจตน พระลักษณ์จึงตัดตีน ตัดมือ ตัดจมูกและหู นางสำมนักขาไปฟ้องพี่ต่างออกมารบกับพระรามแต่ก็เสียชีวิตหมดนางสำมนักขาจึงไปฟ้องทศกัณฐ์โดยบิดเบือนความจริง และยุยงให้ทศกัณฐ์ลักพาตัวนางสีดาไปกรุงลงกาได้ในที่สุด พระราม พระลักษณ์ ออกติดตามได้พลลิงจากเมืองขีดหินและเมืองชมพู เป็นทหารยกทัพไปรบกับทศกัณฐ์เพื่อชิงเอานางสีดาคืน และต่อมาก็ได้พิเภกซึ่งเป็นน้องของทศกัณฐ์มาเป็นกำลังสำคัญในการรบครั้งนี้ด้วย ทศกัณฐ์ออกอุบายให้พระรามยกทัพกลับหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จพระรามให้พลลิงสร้างถนนข้ามมหาสมุทรแล้วยกทัพไปประชิดกรุงลงกาได้สำเร็จ ทศกัณฐ์ให้พระญาติพระวงศ์ช่วยรบแต่ถูกฆ่าตายจนหมด กระทั่งไปทูลเชิญท้าวมาลีวราช พระอัยกาผู้มีวาจาสิทธิ์มาตัดสินคดีชิงนางสีดา แต่ท้าวมาลีวราชทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมขอให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดาให้กับพระราม ทศกัณฐ์ไม่ยอม ท้าวมาลีวราชจึงแช่งให้ทศกัณฐ์ตายด้วยศรของพระรามทศกัณฐ์ออกรบหลายครั้ง แต่พระรามไม่สามรถฆ่าได้ เพราะทศกัณฐ์ถอดดวงใจฝากไว้กับพระฤาษีโคบุตร หนุมานอาไปเอากล่องดวงใจทศกัณฐ์มาได้ พระรามจึงฆ่าทศกัณฐ์และให้พิเภกครองกรุงลงกาแทน พระรามได้นางสีดากลับคืนมา นางสีดาลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พระรามเสด็จกลับมาครองกรุงศรีอยุธยา ปูนบำเหน็จรางวัลแก่แม่ทัพนายกรองพร้อมหน้า พร้องสร้างเมืองนนบุรีให้หนุมานครอง พระรามและนางสีดาครองกรุงศรีอยุธยามาด้วยความสงบสุข โดยมีพระลักษณ์เป็นอุปราช จนกระทั่งนางสีดาถูกนางอดูลปีศาจลวงให้เขียนภาพทศกัณฐ์ พระรามมาเห็นก็กริ้วให้พระลักษณ์นำนางสีดาไปประหาร พระลักษณ์ปล่อยนางสีดาไปอยู่กับฤาษีวัชมฤค จนประสูติพระโอรสชื่อ พระมงกุฎ พระฤาษีชุบพระลบให้เป็นเพื่อน และชุบศรให้เป็นกุมารทั้งสอง พระกุมารทั้งสองต่อสู้กันจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พระรามได้ยินเสียงก็รู้ว่าจะต้องมีผู้มีบุญเก่งกล้าสามารถเกิดขึ้น จึงทำพิธีปล่อยม้าอุปการ พระมงกุฎจับม้าอุปการไปขี่เล่น หนุมานเข้ารบก็แพ้ พระพรตต้องแผลงศรจับพระมงกุฎได้ แต่พระลบมาช่วยหนีไป พระรามเสด็จออกรบเอง แต่พ่อลูกฆ่ากันไม่ได้ในที่สุดพระรามก็ทราบว่าเป็นโอรส นางสีดายอมให้ลูกไปกับพระรามแต่นางไม่ยอมกลับพระรามจึงทำอุบายสิ้นพระชนม์ นางสีดาตกพระทัยจึงกลับเมือง ครั้งทราบว่าเป็นอุบายของพระราม นางจึงแทรกแผ่นดินไปอาศัยวิรุณนาคที่เมืองบาดาล
พระรามเชิญพิเภกเข้าเฝ้า พิเภกให้พระรามเดินดงเพื่อสะเดาะห์เคราะห์อีก 1 ปี ระหว่างนั้นพระรามก็ปราบยักษ์อีก จนครบ 1 ปี พระอิศวรจึงรับสั่งให้พระรามและนางสีดามาเฝ้าและทรงไกล่เกลี่ยให้คืนดีกัน และทรงจัดพิธีอภิเษกให้ใหม่ในสวรรค์ แล้วพระรามพานางสีดากลับมาครองกรุงอยุธยาด้วยความผาสุกตลอดมา พระรามเป็นพระเอกที่มาความสมบูรณ์พร้อม ทั้งด้านบุคลิกภาพ ความเก่งกล้าสามารถ และทรงคุณธรรม อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำ ไม่เผด็จการ ฟังความคิดเห็นของบริวาร เช่นตอนที่พิเภกมาสวามิภักดิ์ก็ถามความคิดของเหล่าวานร นอกจากนี้ยังเป็ผู้รู้จักใช้บริวาร แบ่งการงานให้เหมาะสมตามความสามารถ มีความรอบคอบ คิดไตร่ตรองเหตุผล รู้จักให้อภัยตามสมควรแก่กรณี เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิดพลาด นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพระรามที่ผูกใจบริวารให้มีความจงรักภักดีด้วยความจริงใจ
ยาวจังค่ะ