การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านกา
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลบ้านกาหยี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ชื่อผู้วิจัย นางจีรนันท์ อนรรฆธนะกุล
ครูชำนาญการพิเศษ
ระดับชั้น ชั้นอนุบาลปีที่ 3
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลบ้านกาหยี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ปีการศึกษา 2554
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง ทดสอบประสิทธิภาพ และเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ 6 ขั้น ดังนี้
ระยะที่ 1 การสร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ขั้นที่ 1 สังเคราะห์รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ประกอบด้วยขั้นการจัดประสบการณ์ 4 ขั้น คือ ขั้นสร้างความสนใจ (Interest : I) ขั้นร่วมอภิปราย (Discussion : D) ขั้นให้ประสบการณ์ (Experience : E) และขั้นสรุป (Abstract : A) ขั้นที่ 2 ประเมินรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ทำแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ผลการสร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 4.80 ขั้นที่ 3 สร้างเครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA คือ แผนการจัดประสบการณ์ แบบสังเกตทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ นิทานคณิต และแบบประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และขั้นที่ 4 ทดลองนำร่องรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA โดยทดลองนำร่องครั้งที่ 1 ทดลองสอนกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 28 คน ใช้ 2 หน่วยการเรียนรู้ และทดลองนำร่องครั้งที่ 2 ทดลองสอนกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 27 คน ใช้ 2 หน่วยการเรียนรู้
ระยะที่ 2 การทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ขั้นที่ 5 ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA เป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยกำหนดแบบแผนการทดลองเป็นแบบ Randomized Control-Group Pretest-Posttest Design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านกาหยี อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling)
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ t-test for dependent samples ผลการทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทั้งรายด้าน 12 ด้าน และโดยรวม
ระยะที่ 3 การเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ขั้นที่ 6 เผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA โดยครูอนุบาลที่ปฏิบัติงานสอนอยู่ในชั้นเรียนอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 6 คน ชั้นเรียนละ 1 คน โรงเรียนในกลุ่มเทศบาลตำบล ตะลุบัน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ที่สมัครใจนำรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ไปทดลองใช้ จำนวน 2 หน่วยการเรียนรู้ เมื่อสิ้นสุดการสอนครูอนุบาลทุกคนตอบแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ผลการเผยแพร่รูปแบบการจัดประสบการณ์แบบ IDEA ตามความคิดเห็นของครูอนุบาลที่ปฏิบัติงานสอนอยู่ในชั้นเรียนอนุบาลปีที่ 3 มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 4.80