รายงานโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศ
ชื่อรายงาน รายงานโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศโดยผู้บริหาร
โรงเรียนบ้านบน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี
เขต 3
ผู้รายงาน นายอาหมัด สันขะหรี
ปีการศึกษา 2553
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
การรายงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาสมรรถภาพด้านความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน (2) เพื่อนำผลการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนไปใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูที่ทำวิจัยในชั้นเรียนที่มีต่อการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน (4) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน
โดยใช้ประชากรเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านบน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 12 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านบน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี
เขต 3 ปีการศึกษา 2553จำนวน 167
คน
เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย
เครื่องมือที่ใช้กับครู มีจำนวน 3 ฉบับ
ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบทดสอบความรู้ ความเข้าใจของครูเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน จำนวน
20 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .91
ฉบับที่ 2 แบบประเมินความสามารถในการทำการวิจัยในชั้นเรียนของครู จำแนกเป็น แบบประเมินการเขียนโครงการวิจัยในชั้นเรียน
จำนวน 12 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .95 และแบบประเมินการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 35 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น
เท่ากับ .93 และฉบับที่ 3 แบบสอบถามความคิดเห็นของครูที่ทำวิจัยในชั้นเรียนที่มีต่อการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 7 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .94 ส่วนเครื่องมือที่ใช้กับนักเรียน มีจำนวน 2
ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 10 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น
เท่ากับ .92 และฉบับที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 ข้อ ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .94 โดยสาเหตุที่ต้องสร้างเครื่องมือที่ใช้กับนักเรียน จำนวน 2
ฉบับ ดังกล่าวข้างต้น
เพราะต้องการให้เครื่องมือมีความสอดคล้องกับระดับวุฒิภาวะของนักเรียนที่แตกต่างกัน
เพื่อให้ผลการศึกษาสามารถสะท้อนความคิดเห็นที่เป็นจริงได้มากที่สุด และเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ
ได้แก่ แผนการนิเทศโดยผู้บริหาร และแบบสังเกตและบันทึกการสังเกตการสอน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล
คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () และ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ()
ผลที่ได้จากการศึกษา
1. สมรรถภาพด้านความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า (1) ครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนทั้งหมดมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนดีขึ้น
โดยในภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนการนิเทศโดยผู้บริหาร ครูได้คะแนนรวม 99 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.25
ภายหลังการนิเทศโดยผู้บริหาร ครูได้คะแนนรวม 195 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.25 รวมได้คะแนนพัฒนาเพิ่มขึ้น
96 คะแนน คิดเป็นคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.00 (2) ครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนมีความสามารถในการเขียนโครงการวิจัยในชั้นเรียนในภาพรวมเพิ่มมากขึ้น โดยก่อนการนิเทศโดยผู้บริหารได้ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ
1.50 ซึ่งอยู่ในระดับปรับปรุง แต่หลังการนิเทศโดยผู้บริหารได้ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ
2.44 ซึ่งอยู่ในระดับพอใช้ เปรียบเทียบการพัฒนาในทุกประเด็น ได้ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ
0.94 และ (3) ครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนมีความสามารถในการเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนหลังได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนได้ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ
2.47 ซึ่งอยู่ในระดับพอใช้
2. นำผลการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนไปใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เป็นผลจากการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนโดยรวมในปีการศึกษา
2553 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 62.79 จากปีการศึกษา 2552
ที่มีระดับคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 60.11 โดยมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นเท่ากับ
2.68
3.
ศึกษาความคิดเห็นของครูที่ทำวิจัยในชั้นเรียนที่มีต่อการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า ครูสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องการวิจัยในชั้นเรียนแก่เพื่อนครูได้ในระดับหนึ่ง
และคิดว่าการวิจัยในชั้นเรียนช่วยแก้ปัญหาด้านการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นได้
ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับการนิเทศการสอนโดยผู้บริหาร ครูมีความคิดเห็นว่า สามารถช่วยให้ครูดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนจนประสบความสำเร็จได้
และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศการสอนโดยผู้บริหาร ด้านปัญหาและอุปสรรคของการวิจัยในชั้นเรียนและการนิเทศโดยผู้บริหาร
คือ ระยะเวลาในการดำเนินการน้อยเกินไป ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการดำเนินการนิเทศและการทำวิจัยในชั้นเรียน
แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ควรขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปให้เหมาะสม
4. ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียน พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1-3 มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
( =
4.50) ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยผู้บริหารตามโครงการพัฒนาการวิจัยในชั้นเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
( =
4.52)