• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:1d8ca53e62638e02392fa0617b1fb3a3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong>6. ภัยจากการใช้โปรแกรมประเภท Peer-to-Peer (P2P) และ Instant Messaging (IM)</strong></p>\n<p>จากความนิยมในการใช้โปรแกรม Download ภาพยนตร์และบทเพลงต่างๆ ในรูปแบบของไฟล์ DIVX หรือ MP3 ทำให้โปรแกรมประเภท P2P มีสถิติการใช้ Bandwidth ของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สูงมาก ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านล้วนนิยมใช้โปรแกรม P2P เช่น Bittorrent , eMule , Limewire , eDonkey หรือ Kazaa กันอย่างแพร่หลาย <strong>ปัญหาก็คือ โปรแกรม P2P เหล่านี้นอกจากจะใช้ Bandwidth ขององค์กรในการ Download ไฟล์ต่างๆ แล้ว (ในกรณีที่ผู้ใช้โปรแกรม P2P ในองค์กร) โปรแกรม P2P ยัง &quot;Share&quot; ไฟล์ต่างๆ ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของเราอีกด้วย</strong> หลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้ข้อมูลส่วนตัวในฮาร์ดดิสก์ถูกนำไป &quot;Share&quot; ให้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกที่ใช้โปรแกรม P2P ด้วยกันสามารถเข้ามา Download ไฟล์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ โปรแกรมไม่ประสงค์ดีหรือมัลแวร์ยังถูกปล่อยอยู่ตามเครือข่าย P2P โดยจะตั้งชื่อโปแกรมให้มีความน่าสนใจ เพื่อหลอกล่อให้ผู้อ่านโปรแกรม P2P ทำการ Download ไปใช้งาน โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าโปรแกรมเหล่านั้น ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการลักลอบดักข้อมูล (Keylogger) หรือเป็นเครื่องข่ายของ BOTNET ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้จากระยะไกลโดยเราไม่รู้ตัว ดังนั้น การใช้งานโปรแกรมประเภท P2P จำเป็นต้องมีการควบคุมไม่ให้ผู้ใช้ในองค์กรสามารถใช้งานได้ตามใจชอบ เพราะอาจส่งผลกระทบกับเครือข่ายขององค์กรจากการถูกโจมตีโดยไวรัสและแฮกเกอร์ในที่สุด องค์กรควรออกประกาศนโยบายด้านความปลอดภัยสารสนเทศและให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรลงนามในเอกสารหนังสือยินยอมการใช้งานระบบสารสนเทศขององค์กรอย่างปลอดภัยหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า เอกสาร Acceptable use Policy (AUP) ประกอบไปกับการจัดให้มีโปรแกรมฝึกอบรมให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตระหนักถึงภัยทางอินเทอร์เน็ตที่มากับโปแกรมประเภท P2P ดังกล่าว</p>\n<p>โปรแกรมประเภท Instant Messaging หรือ IM เช่น AIM , YIM และโปแกรมยอดฮิต MSN ก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับโปรแกรม P2P ซึ่งผู้ใช้งานโปรแกรม IM ก็มีโอกาสจะติดไวรัสที่ถูกส่งมาจากคู่สนทนาที่กำลัง &quot;Chat&quot; กันอยู่ เนื่องจากคู่สนทนาของเราติดไวรัสก่อน จึงทำให้เครื่องของคู่สนทนาทำการส่งไวรัสออกไปยังทุกคนที่กำลัง &quot;Online&quot; อยู่ในระบบ Instant Messaging ด้วยวิธีการนี้ ทำให้ไวรัสหรือวอร์มสามารถแพร่กระจายได้ด้วยความรวดเร็วเป็นทวีคูณจนสร้างความเสียหายให้กับเครือข่ายขององค์กรได้ในที่สุด ดังนั้น องค์กรจึงจำเป็นต้องควบคุมการใช้งานโปรแกรมประเภท IM โดยเฉพาะควบคุมการ Upload/Download ไฟล์ผ่านทางโปรแกรมดังกล่าว ก็จะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง\n</p>\n', created = 1725153297, expire = 1725239697, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:1d8ca53e62638e02392fa0617b1fb3a3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

10 อันดับภัยอินเทอร์เน็ตล่าสุดประจำปี พ.ศ. 2551

รูปภาพของ ssspoonsak

6. ภัยจากการใช้โปรแกรมประเภท Peer-to-Peer (P2P) และ Instant Messaging (IM)

จากความนิยมในการใช้โปรแกรม Download ภาพยนตร์และบทเพลงต่างๆ ในรูปแบบของไฟล์ DIVX หรือ MP3 ทำให้โปรแกรมประเภท P2P มีสถิติการใช้ Bandwidth ของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สูงมาก ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านล้วนนิยมใช้โปรแกรม P2P เช่น Bittorrent , eMule , Limewire , eDonkey หรือ Kazaa กันอย่างแพร่หลาย ปัญหาก็คือ โปรแกรม P2P เหล่านี้นอกจากจะใช้ Bandwidth ขององค์กรในการ Download ไฟล์ต่างๆ แล้ว (ในกรณีที่ผู้ใช้โปรแกรม P2P ในองค์กร) โปรแกรม P2P ยัง "Share" ไฟล์ต่างๆ ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ของเราอีกด้วย หลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้ข้อมูลส่วนตัวในฮาร์ดดิสก์ถูกนำไป "Share" ให้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกที่ใช้โปรแกรม P2P ด้วยกันสามารถเข้ามา Download ไฟล์ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ โปรแกรมไม่ประสงค์ดีหรือมัลแวร์ยังถูกปล่อยอยู่ตามเครือข่าย P2P โดยจะตั้งชื่อโปแกรมให้มีความน่าสนใจ เพื่อหลอกล่อให้ผู้อ่านโปรแกรม P2P ทำการ Download ไปใช้งาน โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าโปรแกรมเหล่านั้น ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการลักลอบดักข้อมูล (Keylogger) หรือเป็นเครื่องข่ายของ BOTNET ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้จากระยะไกลโดยเราไม่รู้ตัว ดังนั้น การใช้งานโปรแกรมประเภท P2P จำเป็นต้องมีการควบคุมไม่ให้ผู้ใช้ในองค์กรสามารถใช้งานได้ตามใจชอบ เพราะอาจส่งผลกระทบกับเครือข่ายขององค์กรจากการถูกโจมตีโดยไวรัสและแฮกเกอร์ในที่สุด องค์กรควรออกประกาศนโยบายด้านความปลอดภัยสารสนเทศและให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรลงนามในเอกสารหนังสือยินยอมการใช้งานระบบสารสนเทศขององค์กรอย่างปลอดภัยหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า เอกสาร Acceptable use Policy (AUP) ประกอบไปกับการจัดให้มีโปรแกรมฝึกอบรมให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตระหนักถึงภัยทางอินเทอร์เน็ตที่มากับโปแกรมประเภท P2P ดังกล่าว

โปรแกรมประเภท Instant Messaging หรือ IM เช่น AIM , YIM และโปแกรมยอดฮิต MSN ก็จัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับโปรแกรม P2P ซึ่งผู้ใช้งานโปรแกรม IM ก็มีโอกาสจะติดไวรัสที่ถูกส่งมาจากคู่สนทนาที่กำลัง "Chat" กันอยู่ เนื่องจากคู่สนทนาของเราติดไวรัสก่อน จึงทำให้เครื่องของคู่สนทนาทำการส่งไวรัสออกไปยังทุกคนที่กำลัง "Online" อยู่ในระบบ Instant Messaging ด้วยวิธีการนี้ ทำให้ไวรัสหรือวอร์มสามารถแพร่กระจายได้ด้วยความรวดเร็วเป็นทวีคูณจนสร้างความเสียหายให้กับเครือข่ายขององค์กรได้ในที่สุด ดังนั้น องค์กรจึงจำเป็นต้องควบคุมการใช้งานโปรแกรมประเภท IM โดยเฉพาะควบคุมการ Upload/Download ไฟล์ผ่านทางโปรแกรมดังกล่าว ก็จะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง

สร้างโดย: 
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร10120

เป็นประโยชน์มากขอบคุณ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 739 คน กำลังออนไลน์