• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:1e81c8329ac412fb62121b3739b6ba9b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><strong><a href=\"/node/89159\" title=\"HOME\"><img height=\"279\" width=\"600\" src=\"/files/u30458/bg2_2.gif\" border=\"0\" /></a> </strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><strong></strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><strong>จอมพล แฮร์มันน์ วิลเฮล์ม เกอริง </strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\">ผู้บัญชาการทหารอากาศของนาซีเยอรมัน ลูกน้องคนสำคัญของฮิตเลอร์ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><img height=\"300\" width=\"220\" src=\"/files/u30458/2978_Hermann_Wilhelm_Goering.jpg\" border=\"0\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><a href=\"http://www.preussen-chronik.de/bilder/2978_Hermann_Wilhelm_Goering.jpeg\">http://www.preussen-chronik.de/bilder/2978_Hermann_Wilhelm_Goering.jpeg</a></span>\n</p>\n<p><span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"></span><span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"></span></p>\n<p class=\"MsoNormal\" style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<b><span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\">ประวัติโดยย่อ</span></b><span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\"></span></p>\n<p><span lang=\"TH\">จอมพล แฮร์มันน์ วิลเฮล์ม เกอริง (</span><b>Hermann Wilhelm Goring <span lang=\"TH\">พ.ศ. </span>2436 - <span lang=\"TH\">พ.ศ. </span>2489</b>) <span lang=\"TH\">เป็นนายทหารและนักการเมืองคนสำคัญของพรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมันหรือพรรคนาซี เขามีบทบาทสำคัญในการขยายระบบเผด็จการของพรรคนาซีให้ครอบคลุมทั่วเยอรมนี รวมทั้งสร้างเสริมแสนยานุภาพทางทหารของเยอรมนีโดยเฉพาะกองทัพอากาศให้มีความแข็งแกร่ง เขาถูกศาลพิเศษพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแห่งนูเรมเบิร์ก ตัดสินประหารชีวิต แต่เขาก็จบชีวิตตนเองด้วยยาพิษก่อนหน้าการประหารชีวิตไม่กี่ชั่วโมง</span></p>\n<p>\n<b><span lang=\"TH\">ชีวิตและบทบาทในกองทัพนาซีเยอรมัน</span></b></p>\n<p><span lang=\"TH\">ในช่วงความวุ่นวายภายหลังจากความพ่ายแพ้ของเยอรมนี เขารู้สึกขัดเคืองใจต่อการที่นายทหารถูกปฏิบัติย่างเลวร้ายจากพลเรือน เขาจึงไปทำงานเป็นนักบินพานิชย์ในเดนมาร์กและสวีเดน ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินสวีเดน และมีโอกาศได้พบกับบารอนเนสคาริน ฟอน โรเชิน (</span>Baroness Carin von Rosen) <span lang=\"TH\">สตรีผู้สูงศักดิ์ชาวสวีเดนซึ่งอย่าขาดจากสามี เขาได้แต่งงานกับบารอนเนสคารินที่นครมิวนิกเมื่อวันที่ </span>3 <span lang=\"TH\">กุมภาพันธ์ พ.ศ. </span>2465 <span lang=\"TH\">ในปีเดียวกัน เขาได้ร่วมกับพรรคนาซี และเนื่องจากมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษในสงคราม <b>ฮิตเลอร์จึงมอบหมายให้เขาบังคับบัญชาหน่วยเอสเอ (</b></span><b>SA - Sturmabteilung <span lang=\"TH\">หรือ </span>Storm troopers) </b><span lang=\"TH\">ซึ่งเป็นกองกำลังของพรรคนาซี</span></p>\n<p><span lang=\"TH\">ในเดือน<b>พฤศจิกายน พ.ศ. </b></span><b>2466 <span lang=\"TH\">พวกนาซีได้ก่อการกบฏที่เรียกว่ากบฏมิวนิกหรือกบฏร้านเบียร์ (</span>Munich Putch; Beer Hall Putch) <span lang=\"TH\">ซึ่งฮิตเลอร์พยายามยึดอำนาจทั้งที่ยังไม่พร้อม การกบฏจึงล้มเหลว เขาจึงได้รับบาดเจ็บและถูกทางการสั่งจับ แต่เขาและภรรยาหนีไปออสเตรีย </span></b><span lang=\"TH\">เขาต้องใช้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผล เป็นผลให้เขากลายเป็นคนติดมอร์ฟีนอย่างรุนแรง จนต้องเข้ารับการบำบัดในช่วง พ.ศ.</span> 2468 - 2469 <span lang=\"TH\">ที่โรงพยาบาลจิตเวชในสวีเดน ในช่วงนี้เขาไม่มีการติดต่อที่ใกล้ชิดกับฮิตเลอร์</span></p>\n<p><b><span lang=\"TH\">ชีวิตทางการเมือง</span></b></p>\n<p><span lang=\"TH\">เมื่อได้รับอภัยโทษใน พ.ศ.</span> 2469 <span lang=\"TH\">เขาได้เดินทางกลับเยอรมนีใน <b>พ.ศ. </b></span><b>2470 <span lang=\"TH\">ฮิตเลอร์เสนอให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาไรค์ชตาก (</span>Reichstag)</b> <span lang=\"TH\">ในเขตที่พรรคนาซีมีฐานเสียงมั่นคง ทำให้เขาเป็น </span>1 <span lang=\"TH\">ในสมาชิกสภาไรค์ชตากจำนวน </span>12 <span lang=\"TH\">คนสังกัดพรรคนาซี เขาได้กระชับความสัมพันธ์กับนักอุตสาหกรรมและนักการเมืองอื่นๆ</span></p>\n<p><span lang=\"TH\">ใน พ.ศ. </span>2473 <b><span lang=\"TH\">เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง และเป็นผู้นำในสภาล่าง</span></b><span lang=\"TH\"> ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. </span>2475 <span lang=\"TH\">เมื่อพรรคนาซีชนะการเลือกตั้งถึง </span>230 <span lang=\"TH\">ที่นั่ง เขาได้รับเลือกเป็นประธานสภาไรค์ชตาก ความตั้งใจของเขาคือล้มล้างระบบประชาธิปไตย<b> เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมและตำแหน่งหน้าที่เอาชนะนายกรัฐมนตรี คูร์ท ฟอน ชไลเคอร์ (</b></span><b>Kurt von Schleicher) <span lang=\"TH\">และฟรันซ์ ฟอน พาเพิน (</span>Franz von Papen) <span lang=\"TH\">พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีเพาล์ ฟอน ฮินเดนบูร์ก เชิญฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ </span>30 <span lang=\"TH\">มกราคม พ.ศ. </span>2476 <span lang=\"TH\">เมื่อพรรคนาซีเถลิงอำนาจ</span></b><span lang=\"TH\"> เขาได้รับแต่งตั้งเป็นทั้งมุขมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของรัฐปรัสเซีย เป็นผู้นำอันดับสองของพรรคนาซี <b>และคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากฮิตเลอร์ </b>เขาทำงานหนักเพื่อผลักดันให้บทกฎหมายที่ให้อำนาจ (</span>Enabling Acts) <span lang=\"TH\">ผ่านการพิจารณาของสภาไรค์ชตาก<b> เขามุ่งสร้างเสริมอำนาจเผด็จการด้วยทำให้รัสเซียเป็นรัฐนาซีจัดตั้งตำรวจลับหรือเกสตาโป</b></span><b> (Gestapo - Geheimes Staatspolizei)</b> <span lang=\"TH\">และให้สร้างค่ายกักกันสำหรับคุมขังศัตรู นอกจากนี้ในปี พ.ศ. </span>2476 <span lang=\"TH\">เขายังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบิน ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่และเป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศ หน้าที่ของเขาคือสร้างเสริมกำลังทางอากาศซึ่งเป็นการขัดต่อสนธิสัญญาแวร์ซายส์ เขาได้สร้างเครื่องบินและฝึกนักบินอย่างลับๆ</span></p>\n<p>\n<b><span lang=\"TH\">บทบาทในกองทัพอากาศ</span></b></p>\n<p><span lang=\"TH\">ในปี พ.ศ. </span>2481 <span lang=\"TH\">เขาได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลแห่งกองทัพอากาศเยอรมนีและก่อนบุกโปแลนด์เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภาเศรษฐกิจสงคราม และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ </span>2 <span lang=\"TH\">เขาก้เป็นผู้อำนวยการนโยบายเศรษฐกิจสงครามของประเทศ</span></p>\n<p><span lang=\"TH\">กองทัพอากาศภายใต้การบังคับบัญชาของเขาก็ทำสงครามสายฟ้าแลบ ซึ่งสามารถทำลายการต่อต้านของโปแลนด์ และขยายการโจมตีไปยังประเทศต่างๆในยุโรป หลังจากชัยชนะในยุทธการที่ฝรั่งเศส ใน พ.ศ. </span>2483 <span lang=\"TH\">ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นจอมพลแห่งจักรวรรดิไรค์ และเป็นผู้สืบตำแหน่งของฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ</span></p>\n<p><b><span lang=\"TH\">ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ </span>2 <span lang=\"TH\">เมื่อสถานการณ์ของฝ่ายเยอรมันอยู่ในขั้นวิกฤติ ในเดือนเมษายน </span>2488 <span lang=\"TH\">เกอริงซึ่งอยู่ในออสเตรียพยายามรวบอำนาจขึ้นเป็นผู้นำเยอรมัน เพราะเขาเชื่อว่าฮิตเลอร์ถูกปิดล้อมอยู่ที่กรุงเบอร์ลินและหมดหนทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เขาเสนอให้มีการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายพันธมิตร แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ฮิตเลอร์ออกคำสั่งจับเขาในฐานะผู้ทรยศ</span></b>(<span lang=\"TH\">จุด</span> Climax <span lang=\"TH\">เลยของประวัติศาสตร์เลยละ) ขี้ขลาดและยอมแพ้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามเมื่อวันที่ </span>7 <span lang=\"TH\">พฤษภาคม พ.ศ. </span>2488 <span lang=\"TH\">เขาก็ยอมจำนนต่อกองทัพที่ </span>7 <span lang=\"TH\">ของสหรัฐอเมริกาในอีก </span>2 <span lang=\"TH\">วันต่อมา</span><br />\n\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\"><img height=\"335\" width=\"531\" src=\"/files/u30458/Sanke535Goring.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 401px; height: 304px\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\"><span style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 7pt\">http://www.druhasvetovavalka.nazory.cz/images/Sanke535Goring.jpg</span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\"></span><span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 9pt\"><br />\n<b><span lang=\"TH\">การจบชีวิต</span></b></span></p>\n<p><span lang=\"TH\">ในการไต่สวนคดีอาชญากรสงครามของศาลพิเศษพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแห่งนูเนมเบิร์ก เขาได้รับการบำบัดการติดยาเสพติดและสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนพัวพันใดๆ กับการกระทำที่เหี้ยมโหดของระบอบนาซี โดยอ้างว่าเป็นงานลับของฮิมม์เลอร์ อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่</span> 15 <span lang=\"TH\">ตุลาคม พ.ศ. </span>2489 <b><span lang=\"TH\">แต่เขาก็กินยาพิษตายในห้องขังไม่กี่ชั่วโมงก่อนกำหนดการประหาร เกอริงถึงแก่กรรมขณะอายุ </span>53 <span lang=\"TH\">ปี</span></b><o:p></o:p> </p>\n<p align=\"center\">\n<span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><img height=\"345\" width=\"477\" src=\"/files/u30458/Goering_Testifying.jpg\" border=\"0\" /></span>\n</p>\n<p><span lang=\"TH\" style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 9pt\"><span style=\"font-family: Tahoma; color: #000000; font-size: 7pt\"></span></span></p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 7pt\"><a href=\"http://www.druhasvetovavalka.nazory.cz/images/Goering_Testifying.jpg\">http://www.druhasvetovavalka.nazory.cz/images/Goering_Testifying.jpg</a></span>\n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 7pt\"></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 7pt\"></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: Tahoma; font-size: 7pt\"><a href=\"/node/89167\" title=\"BLACK\"><img height=\"100\" width=\"100\" src=\"/files/u30458/ii.jpg\" border=\"0\" /></a></span>\n</p>\n<p></p>\n', created = 1716268428, expire = 1716354828, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:1e81c8329ac412fb62121b3739b6ba9b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

จอมพล แฮร์มันน์ วิลเฮล์ม เกอริง

จอมพล แฮร์มันน์ วิลเฮล์ม เกอริง

ผู้บัญชาการทหารอากาศของนาซีเยอรมัน ลูกน้องคนสำคัญของฮิตเลอร์

http://www.preussen-chronik.de/bilder/2978_Hermann_Wilhelm_Goering.jpeg

ประวัติโดยย่อ

จอมพล แฮร์มันน์ วิลเฮล์ม เกอริง (Hermann Wilhelm Goring พ.ศ. 2436 - พ.ศ. 2489) เป็นนายทหารและนักการเมืองคนสำคัญของพรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมันหรือพรรคนาซี เขามีบทบาทสำคัญในการขยายระบบเผด็จการของพรรคนาซีให้ครอบคลุมทั่วเยอรมนี รวมทั้งสร้างเสริมแสนยานุภาพทางทหารของเยอรมนีโดยเฉพาะกองทัพอากาศให้มีความแข็งแกร่ง เขาถูกศาลพิเศษพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแห่งนูเรมเบิร์ก ตัดสินประหารชีวิต แต่เขาก็จบชีวิตตนเองด้วยยาพิษก่อนหน้าการประหารชีวิตไม่กี่ชั่วโมง

ชีวิตและบทบาทในกองทัพนาซีเยอรมัน

ในช่วงความวุ่นวายภายหลังจากความพ่ายแพ้ของเยอรมนี เขารู้สึกขัดเคืองใจต่อการที่นายทหารถูกปฏิบัติย่างเลวร้ายจากพลเรือน เขาจึงไปทำงานเป็นนักบินพานิชย์ในเดนมาร์กและสวีเดน ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินสวีเดน และมีโอกาศได้พบกับบารอนเนสคาริน ฟอน โรเชิน (Baroness Carin von Rosen) สตรีผู้สูงศักดิ์ชาวสวีเดนซึ่งอย่าขาดจากสามี เขาได้แต่งงานกับบารอนเนสคารินที่นครมิวนิกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2465 ในปีเดียวกัน เขาได้ร่วมกับพรรคนาซี และเนื่องจากมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษในสงคราม ฮิตเลอร์จึงมอบหมายให้เขาบังคับบัญชาหน่วยเอสเอ (SA - Sturmabteilung หรือ Storm troopers) ซึ่งเป็นกองกำลังของพรรคนาซี

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2466 พวกนาซีได้ก่อการกบฏที่เรียกว่ากบฏมิวนิกหรือกบฏร้านเบียร์ (Munich Putch; Beer Hall Putch) ซึ่งฮิตเลอร์พยายามยึดอำนาจทั้งที่ยังไม่พร้อม การกบฏจึงล้มเหลว เขาจึงได้รับบาดเจ็บและถูกทางการสั่งจับ แต่เขาและภรรยาหนีไปออสเตรีย เขาต้องใช้มอร์ฟีนเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผล เป็นผลให้เขากลายเป็นคนติดมอร์ฟีนอย่างรุนแรง จนต้องเข้ารับการบำบัดในช่วง พ.ศ. 2468 - 2469 ที่โรงพยาบาลจิตเวชในสวีเดน ในช่วงนี้เขาไม่มีการติดต่อที่ใกล้ชิดกับฮิตเลอร์

ชีวิตทางการเมือง

เมื่อได้รับอภัยโทษใน พ.ศ. 2469 เขาได้เดินทางกลับเยอรมนีใน พ.ศ. 2470 ฮิตเลอร์เสนอให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาไรค์ชตาก (Reichstag) ในเขตที่พรรคนาซีมีฐานเสียงมั่นคง ทำให้เขาเป็น 1 ในสมาชิกสภาไรค์ชตากจำนวน 12 คนสังกัดพรรคนาซี เขาได้กระชับความสัมพันธ์กับนักอุตสาหกรรมและนักการเมืองอื่นๆ

ใน พ.ศ. 2473 เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง และเป็นผู้นำในสภาล่าง ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2475 เมื่อพรรคนาซีชนะการเลือกตั้งถึง 230 ที่นั่ง เขาได้รับเลือกเป็นประธานสภาไรค์ชตาก ความตั้งใจของเขาคือล้มล้างระบบประชาธิปไตย เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมและตำแหน่งหน้าที่เอาชนะนายกรัฐมนตรี คูร์ท ฟอน ชไลเคอร์ (Kurt von Schleicher) และฟรันซ์ ฟอน พาเพิน (Franz von Papen) พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีเพาล์ ฟอน ฮินเดนบูร์ก เชิญฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2476 เมื่อพรรคนาซีเถลิงอำนาจ เขาได้รับแต่งตั้งเป็นทั้งมุขมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของรัฐปรัสเซีย เป็นผู้นำอันดับสองของพรรคนาซี และคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากฮิตเลอร์ เขาทำงานหนักเพื่อผลักดันให้บทกฎหมายที่ให้อำนาจ (Enabling Acts) ผ่านการพิจารณาของสภาไรค์ชตาก เขามุ่งสร้างเสริมอำนาจเผด็จการด้วยทำให้รัสเซียเป็นรัฐนาซีจัดตั้งตำรวจลับหรือเกสตาโป (Gestapo - Geheimes Staatspolizei) และให้สร้างค่ายกักกันสำหรับคุมขังศัตรู นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2476 เขายังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบิน ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่และเป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศ หน้าที่ของเขาคือสร้างเสริมกำลังทางอากาศซึ่งเป็นการขัดต่อสนธิสัญญาแวร์ซายส์ เขาได้สร้างเครื่องบินและฝึกนักบินอย่างลับๆ

บทบาทในกองทัพอากาศ

ในปี พ.ศ. 2481 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลแห่งกองทัพอากาศเยอรมนีและก่อนบุกโปแลนด์เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภาเศรษฐกิจสงคราม และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก้เป็นผู้อำนวยการนโยบายเศรษฐกิจสงครามของประเทศ

กองทัพอากาศภายใต้การบังคับบัญชาของเขาก็ทำสงครามสายฟ้าแลบ ซึ่งสามารถทำลายการต่อต้านของโปแลนด์ และขยายการโจมตีไปยังประเทศต่างๆในยุโรป หลังจากชัยชนะในยุทธการที่ฝรั่งเศส ใน พ.ศ. 2483 ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นจอมพลแห่งจักรวรรดิไรค์ และเป็นผู้สืบตำแหน่งของฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ

ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสถานการณ์ของฝ่ายเยอรมันอยู่ในขั้นวิกฤติ ในเดือนเมษายน 2488 เกอริงซึ่งอยู่ในออสเตรียพยายามรวบอำนาจขึ้นเป็นผู้นำเยอรมัน เพราะเขาเชื่อว่าฮิตเลอร์ถูกปิดล้อมอยู่ที่กรุงเบอร์ลินและหมดหนทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เขาเสนอให้มีการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายพันธมิตร แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ฮิตเลอร์ออกคำสั่งจับเขาในฐานะผู้ทรยศ(จุด Climax เลยของประวัติศาสตร์เลยละ) ขี้ขลาดและยอมแพ้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 เขาก็ยอมจำนนต่อกองทัพที่ 7 ของสหรัฐอเมริกาในอีก 2 วันต่อมา

http://www.druhasvetovavalka.nazory.cz/images/Sanke535Goring.jpg


การจบชีวิต

ในการไต่สวนคดีอาชญากรสงครามของศาลพิเศษพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแห่งนูเนมเบิร์ก เขาได้รับการบำบัดการติดยาเสพติดและสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนพัวพันใดๆ กับการกระทำที่เหี้ยมโหดของระบอบนาซี โดยอ้างว่าเป็นงานลับของฮิมม์เลอร์ อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2489 แต่เขาก็กินยาพิษตายในห้องขังไม่กี่ชั่วโมงก่อนกำหนดการประหาร เกอริงถึงแก่กรรมขณะอายุ 53 ปี


http://www.druhasvetovavalka.nazory.cz/images/Goering_Testifying.jpg

สร้างโดย: 
นาฏธิดา เจียมจิตรวนิช

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 394 คน กำลังออนไลน์