เพชรกับไส้ดินสอ...ความเหมือนที่แตกต่าง ^^  *_*

      รู้หรือไม่ ไส้ดินสอนั้นจริงๆแล้วมันคือแกรไฟต์  ซึ่งเป็นธาตุคาร์บอน(c) เหมือนกับเพชร   อัญมณีล้ำค่าที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ  *แต่เอ...ดูยังไง้ยังไง   ไส้ดินสอดำปี๋กับเพชรที่ส่องประกายแวววาววิบวับ  ก็หน้าตาไม่เห็นเหมือนกันเลยซักนิด    โดยเฉพาะความแข็ง  ที่เป็นเช่นนี้เพราะไส้ดินสอกับเพชรมีโครงสร้างต่างกันนั่นเอง  ไส้ดินสอทำด้วยแกรไฟต์   ซึ่งเกิดจากอะตอมคาร์บอนรวมตัวกันเป็นชั้นๆ   จึงทำให้มีความเปราะ  อย่างเวลาเขียนหนังสือ  แค่เราออกแรงนิดเดียวก็หักซะแล้วแต่สำหรับเพชร อะตอมคาร์บอนจะรวมตัวกันเป็นโครงสร้างแบบผลึกจึงทำให้มีความแข็ง  ซึ่งไม่เพียงแข็งกว่าไส้ดินสอแต่ได้ชื่อว่าเป็นแร่ที่แข็งมากที่สุดในโลก      ไม่น่าเชื่อเลยว่า ถึงจะมาจากธาตุเดียวกัน   แต่หากรวมตัวไม่เหมือนกัน ก็ทำให้เกิดสสารที่แตกต่างกันขนาดนี้ได้ 

              โครงสร้างของเพชร                                      

      เพชรก็คือคาร์บอนในรูปแบบหนึ่งที่จัดเรียงตัวกันในรูปแบบที่แข็งแรงมาก
คาร์บอนถ้าจัดเรียงตัวอีกแบบก็จะกลายเป็นแกรไฟต์หรือไส้ดินสอนั่นเอง
เพชรนั้นมีความแข็งมาก หลายคนอาจคิดว่าเพชรนั้นแข็งมากจนไม่มีอะไรสามารถทำอะไรมันได้นั่นก็ถูกเพียงส่วนหนึ่ง  เพชรนั้นแข็งมากจนเรียกได้ว่าแข็งที่สุด ในระดับสเกลความแข็งเพชรอยู่ในระดับ 10 ในสเกลของโมส์ แต่ในความแข็งนั้นเอง มันก็เปราะบางด้วยไปในตัว

แกรไฟต์นั้นมีโครงสร้างเป็นชั้นๆ ไม่เป็นเครือข่ายติดกันไปหมดซะทีเดียวเหมือนกับเพชร ภาพโครงสร้างแกรไฟต์ที่เห็นนี้ ก็เป็นเพียงชั้นเดียวเท่านั้น

เพชร(diamond) เป็นแร่ที่เกิดจากการรวมตัวกันของคาร์บอนในที่ ๆ มีอุณหภูมิและความกดดันที่สูง ลึกลงไปภายใต้เปลือกโลก

สมบัติต่าง ๆ ของเพชร
        เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเช่นเดียวกับไส้ดินสอ แต่อันเนื่องจากการเรียงตัวระหว่างพันธะทางเคมีที่ต่างกันก่อให้เกิดลักษณะที่ต่างกัน

วันนี้นำความรู้เรื่องเพชรมาฝากค่ะ                                       
.......                               
o       เพชรทุกเม็ดเป็นวัตถุที่มีความเก่าแก่และถือกำเนิดก่อนไดโนเสาร ์ เพชรที่มีอายุน้อยที่สุดมีอายุถึง 900 ล้านปี o       เพชรเป็นวัตถุทางะรรมชาติที่มีความแข็งที่สุด เพชรแข็งกว่าแร่ธาตุที่มีความแข็งเป็นอันดับ 2 ถึง 58 เท่า o       เพชรมีองค์ประกอบทางเคมีเป็นคาร์บอน ถึงแม้ว่าในทางชีวเคมีเพชร ไม่ได้แตกต่างจากถ่านหินหรือถ่านไส้ดินสอที่ใช้เขียนหนังสือ แต่สิ่งที่แตกต่างคือเพชรได้ผ่านความร้อนและความกดดันสูง ที ่บีบอัดจนกลายเป็นอัญมณีที่มีค่าสุงที่สุดในโลก o       เพชรต้องเจียระไนด้วเพชรเท่านั้น o       เพชรที่ได้จากการขุดพบมีทุกสี และสีที่หายากที่สุดคือ สีแดง o       หากคุณรบมรวมจำนวนเพชรทั้งหมดที่ผ่านการเจียระไนตั้งแต่เล่มแรก แล้ว เพชรทั้งหมดจะมีปริมาณเท่ากับรสบัส 2 ชั้น 1 คันเท่านั้น o       คำว่า “diamond” มีรากศัพท์จากภาษากรีกว่า “adamas” ซึ่งหมายความถึงความเป็นหนึ่ง o       ประเพณีของการสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางซ้ายสืบทอดมาจากชาวอียิปต์โ บราณ ซึ่งมีความเชื่อว่าเลือดจะไหลเวียนจากเส้นโลหิตแห่งรัก (“vien of love”) ไปยังหัวใจ  

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะค่ะ

ยังไงก็แสดงความคิดเห็นมากันได้นะค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ

>_<

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

Hiranya  Moderator Group (http://www.weddingsquare.com)

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=hematite&month=01-10-2007&group=6&gblog=1 www.globalfashionreport.com/a347...5B8%259B www.oknation.net/blog/pinggyping.../entry-1 www.lks.ac.th/student/kroo_su/ch...rbon.htmwww.pattanakit.net/index.php%3Fl...pe%3D128www.se-ed.com/kiddybook/post/2010/02/.../SARACARTOON-45.aspx