• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:57b7ba6f04480265f3aab484b89149bd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span style=\"font-size: 11pt; color: black; font-family: \'Arial\',\'sans-serif\'\"></span></p>\n<p align=\"center\">\n<b><span style=\"font-size: x-large; color: #00ff00\"><span style=\"font-size: 12pt\">ประวัติวันมาฆะบูชา</span></span></b>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">  <span style=\"color: #ff00ff\"> </span><span style=\"font-size: large; color: #ff00ff\"><span style=\"font-size: 12pt\">หากย้อนไปในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ในสมัยพุทธกาล วันนี้เป็นวันที่มีการประชุมครั้งใหญ่ หรือ จาตุรงคสันนิบาต อันมีความมหัศจรรย์ 4 ประการ ในครั้งพุทธกาล กล่าวคือ ภิกษุจำนวน 1,250 องค์   มาจาก ที่ต่าง ๆ กัน    เพื่อสักการะ <br />\nพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เวฬุวันวิหาร ในกรุงราชคฤห์ เมืองมคธ แต่ละองค์ก็เดินทาง มาเอง โดยมิได้มีการนัดหมายกันล่วงหน้าแต่ประการใด พระภิกษุทั้งหมด ล้วนแต่เป็นผู้ได้บรรลุพระอรหันต ์แล้วทุกๆองค์</span></span></span></span><span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\"><span style=\"color: #00ff00\"> </span></span></span></p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">     <span style=\"color: #ff99cc\">  พระภิกษุเหล่านั้น ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งสิ้น พระจันทร์กำลังเสวยมาฆะฤกษ์ เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือนสาม ซึ่งเป็นคืนวันเพ็ญ ที่ถือเป็นเวลาดีที่สุด ท่านเรียกว่า โอกาสโลกเป็นใจ คือ กลางคืน อากาศไม่ร้อน ทั้งดวงจันทร์ก็สว่างนวล ไม่มีเมฆหมอกบัง ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งในการฟังธรรม</span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">        <span style=\"color: #00ffff\"> องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริว่า เป็นกาลเวลาอันเหมาะสมที่จะได้กระทำพิธี สันนิบาตสาวก เพื่อวางรากฐานสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลก ประกาศอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่ามกลางพระอรหันต<br />\nสาวกทั้ง 1,250 รูป เพื่อเป็นหลักในการดำเนิน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกื้อกูลประโยชน์สูงสุดแก่ชาวโลก การประชุมครั้งนี้จึงถือว่า เป็นการประชุมครั้งยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีพระบรม<br />\nศาสดาเป็นประธาน ท่ามกลางมหาสันนิบาตแห่งสาวก พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรม โอวาทปาฏิโมกข์ อันเปรียบเสมือนธรรมนูญแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธทั้งหลายได้ยึดถือเป็นแม่บท สำหรับ การประพฤติปฏิบัติ เพื่อความพ้น<br />\nทุกข์ของตนเอง และเป็นแม่บทสำหรับการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา มาตราบเท่าทุกวันนี้<br />\n</span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #00ffff\"><span style=\"font-size: 12pt\">       สำหรับโอวาทปาฏิโมกข์นี้ เป็นคนละอย่างกับพระปาฏิโมกข์ ที่พระภิกษุต้องลงโบสถ์ฟังทุกวันพระ กึ่งเดือน พระปาฏิ<br />\nโมกข์ หมายถึง ศีล 227 ข้อ ซี่งเป็นพระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ แต่ โอวาทปาฏิโมกข์ ที่ พระบรมศาสดาทรง<br />\nแสดงในครั้งนั้นเป็นโอวาทที่เป็นหลักประธาน ในการประกาศ พระศาสนา</span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">     <span style=\"color: #339966\">   โอวาทปาฏิโมกข์นั้น มีใจความสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา หลักคำสอนที่สำคัญหรือหัวใจ<br />\nของพระพุทธศาสนา และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา </span></span></span></p>\n<p><span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\"><b>อุดมการณ์ของชาวพุทธ<br />\n</b></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">        <span style=\"color: #993366\">อุดมการณ์ของชาวพุทธ คือเป้าหมายอันดีงามสูงสุดของชาวพุทธ หรือเป้าหมายชีวิตของชาวพุทธ อันได้แก่พุทธ<br />\nบริษัท 4 ยิ่งถ้าบวชแล้วก็ต้องยิ่งตั้งเป้าหมายให้เด่นชัด และยังทำให้เกิดความกระตือรือร้น ที่จะปรับปรุงตัวตาม เป้าหมาย <br />\nตามคำสอนของพระบรมศาสดา ให้เป็นเนื้อนาบุญชองชาวโลก คือเป็นประโยชน์ เป็นที่พึ่งทั้งต่อตนเองและชาวโลกอีกด้วย<br />\nเพราะฉะนั้น พวกเราต้องมาพิจารณาอุดมการณ์ ของชาวพุทธ ซึงมี 3 ประการ ดังนี้<br />\n        1. ขนตี ปรมํ ตโป ตีติกขา ความอดทน คือความทนทาน เป็นตบะอย่างยิ่ง (ต้องมีควาามอดทนและเข้มแข็ง อดกลั้น<br />\nต่ออำนาจฝ่ายต่ำของกิเลสที่คอยชักจูงให้กระทำผิด)<br />\n        2. นิพพานํ ปรมํ วทนติ พุทธา ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ย่อมกล่าวพระนิพพานว่าเป็นเยี่ยม (ต้องมุ่งความดับทุกข์ โดยมีขันติ<br />\nเป็นเครื่องกำจัดกิเลสให้หมดไปตามลำดับ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือพระนิพพาน)<br />\n        3. นหิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํวิเหฐยนฺโต บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ เลย <br />\n(ผู้รักความสงบ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดขีวิต ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน)<br />\n</span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #993366\"><span style=\"font-size: 12pt\">        หัวใจของพระพุทธศาสนาคือหลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เมื่อเรามีอุดมการณ์มั่นคงอยู่ในใจแล้ว ควรจะดำเนินชีวิต<br />\nต่อไปอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานหลักการการดำเนินชีวิตไว้ 3 ประการ ซึ่งชาวพุทธถือว่าเป็นหัวใจ ของ<br />\nพระพุทธศาสนา<br />\n        1. สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง (ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา หรือใจ)<br />\n        2. กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม (ความดีหรือบุญนั้น แม้เพียงเล็กน้อย ก็อย่าไปดูถูก ว่าจะไม่ให้ ผล<br />\nเพราะขึ้นชื่อว่าบุญ ไม่ว่ามากหรือน้อย ย่อมให้ผลเป็นความสุขทั้งนั้น)<br />\n      3. สจิตฺต ปริโยทปนํ การกลั่นจิตใจของตนให้ผ่องใส (คิด พูด ทำแต่ในสิ่งที่ดี หมั่นเจริญภาวนาให้มาก มีโยนิโสมนสิการ<br />\nคือการจับแง่คิดในทางที่ถูกต้อง จะทำให้ใจไม่ฟุ้งซ่าน ผ่องใสอยู่เสมอ)<br />\n      วิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือวิธีการปรับปรุงตัวเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบ วิธีการปรับปรุงตัว เองให้เหมาะ<br />\nสมที่จะเป็นกัลยาณมิตรให้แก่ตนเอง และชาวโลกไปพร้อม ๆ กัน อยู่ 6 ประการ ซึ่งเป็นวิธีที่ล้ำลึก ซึ่งหากใครทำตามได้<br />\nนอกจากตัวเอง จะได้เป็นต้นแบบที่ดีแล้ว การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลสำเร็จอย่าง<br />\nงดงาม แน่นอนอีกด้วย<br />\n      1. อนูปวาโท การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน (ระวังคำพูดไม่ให้เป็นการกล่าวว่าร้ายใคร หรือพูดโจมตีใคร)<br />\n      2. อนูปฆาโต การไม่เข้าไปทำร้ายกัน (ระวังมือระวังเท้าไม่ให้ทำชั่ว ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่หรือบังคับ)<br />\n      3. ปาฏิโมกฺเข จ สงฺวโร ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ (สำรวมการประพฤติปฏิบัติให้อยู่ใน วินัยและศีลธรรม อันดี<br />\nตลอดเวลา)<br />\n      4. มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ เป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร (รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร จะทำให้สุขภาพดี ส่งผลให้<br />\nการปฏิบัติธรรมมีความเจริญก้าวหน้า)<br />\n     5. ปนฺตญฺจ สยนาสนํ ที่นอนที่นั่งอันสงัด (มุ่งเจริญสมณธรรมความเงียบสงัดจะทำให้จิตใจสงบ ใจรวมเป็นหนึ่งได้เร็ว)<br />\n     6. อธิจิตฺเต จ อาโยโค ประกอบความเพียรในอธิจิต (หมั่นทำสมาธิภาวนาโดยไม่ทอดธุระ) <br />\n       <br />\n     เมื่อถึงวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 คราใด ชาวพุทธทั้งหลายต่างขวนขวายประกอบการ บุญ กุศล และ<br />\nกระทำพิธีสักการะบูชาเป็นพิเศษ ด้วยการเวียนเทียนทักษิณาวรรต โดยรอบพระพุทธเจดีย์ พระอุโบสถ หรือจุดโคมประทีป<br />\nบูชา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระคุณของพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ที่ได้<br />\nสืบทอดเจตนารมย์ อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา สืบต่อมาอย่างแน่วแน่ ตราบจนทุกวันนี้<br />\n          ในขณะเดียวกัน เนื่องในโอกาส อันเป็นมงคลนี้ พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว ก็จะทรงเสด็จไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ ต่อมา ก็จะทรงนำ เหล่าพสกนิกรประกอบพิธีเวียนเทียน จัดขึ้นภายในวัด พระแก้วนี้ด้วย พิธีเวียนเทียน นี้จะประกอบในเวลาใด ก็ได้ แล้วแต่ ความสะดวกของ ประชาชน อาจจะเป็น ตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ <br />\n         </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #993366\"><span style=\"font-size: 12pt\">            แต่ในปัจจุบันมักจะนิยมจัดพิธีเวียนเทียน ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว โดยขบวนเวียนเทียนนี้ ก็จะมีพระสงฆ์เป็นผู้นำ </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large; color: #000000\"><span style=\"font-size: 12pt\">ที่มา : <a href=\"http://www.inspect8.moe.go.th/\"><u><span style=\"color: #0000ff\">http://www.inspect8.moe.go.th/</span></u></a> </span></span>\n</p>\n<p></p>\n', created = 1719644648, expire = 1719731048, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:57b7ba6f04480265f3aab484b89149bd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:326563fd22408a43bd4bd4548051d56d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<a href=\"/node/58408\">http://www.thaigoodview.com/node/58408</a>\n</p>\n<p>\nส่งงานครั้งที่ 4\n</p>\n<p>\nนางสาวอำไพ  จินะสุข  ม. 4/2 เลขที่ 38\n</p>\n', created = 1719644648, expire = 1719731048, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:326563fd22408a43bd4bd4548051d56d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

วันมาฆบูชา

รูปภาพของ skk6612

ประวัติวันมาฆะบูชา

   หากย้อนไปในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ในสมัยพุทธกาล วันนี้เป็นวันที่มีการประชุมครั้งใหญ่ หรือ จาตุรงคสันนิบาต อันมีความมหัศจรรย์ 4 ประการ ในครั้งพุทธกาล กล่าวคือ ภิกษุจำนวน 1,250 องค์   มาจาก ที่ต่าง ๆ กัน    เพื่อสักการะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เวฬุวันวิหาร ในกรุงราชคฤห์ เมืองมคธ แต่ละองค์ก็เดินทาง มาเอง โดยมิได้มีการนัดหมายกันล่วงหน้าแต่ประการใด พระภิกษุทั้งหมด ล้วนแต่เป็นผู้ได้บรรลุพระอรหันต ์แล้วทุกๆองค์

       พระภิกษุเหล่านั้น ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งสิ้น พระจันทร์กำลังเสวยมาฆะฤกษ์ เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือนสาม ซึ่งเป็นคืนวันเพ็ญ ที่ถือเป็นเวลาดีที่สุด ท่านเรียกว่า โอกาสโลกเป็นใจ คือ กลางคืน อากาศไม่ร้อน ทั้งดวงจันทร์ก็สว่างนวล ไม่มีเมฆหมอกบัง ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งในการฟังธรรม

         องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริว่า เป็นกาลเวลาอันเหมาะสมที่จะได้กระทำพิธี สันนิบาตสาวก เพื่อวางรากฐานสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่โลก ประกาศอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่ามกลางพระอรหันต
สาวกทั้ง 1,250 รูป เพื่อเป็นหลักในการดำเนิน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกื้อกูลประโยชน์สูงสุดแก่ชาวโลก การประชุมครั้งนี้จึงถือว่า เป็นการประชุมครั้งยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีพระบรม
ศาสดาเป็นประธาน ท่ามกลางมหาสันนิบาตแห่งสาวก พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรม โอวาทปาฏิโมกข์ อันเปรียบเสมือนธรรมนูญแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธทั้งหลายได้ยึดถือเป็นแม่บท สำหรับ การประพฤติปฏิบัติ เพื่อความพ้น
ทุกข์ของตนเอง และเป็นแม่บทสำหรับการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา มาตราบเท่าทุกวันนี้

       สำหรับโอวาทปาฏิโมกข์นี้ เป็นคนละอย่างกับพระปาฏิโมกข์ ที่พระภิกษุต้องลงโบสถ์ฟังทุกวันพระ กึ่งเดือน พระปาฏิ
โมกข์ หมายถึง ศีล 227 ข้อ ซี่งเป็นพระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ แต่ โอวาทปาฏิโมกข์ ที่ พระบรมศาสดาทรง
แสดงในครั้งนั้นเป็นโอวาทที่เป็นหลักประธาน ในการประกาศ พระศาสนา

        โอวาทปาฏิโมกข์นั้น มีใจความสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา หลักคำสอนที่สำคัญหรือหัวใจ
ของพระพุทธศาสนา และวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

อุดมการณ์ของชาวพุทธ

        อุดมการณ์ของชาวพุทธ คือเป้าหมายอันดีงามสูงสุดของชาวพุทธ หรือเป้าหมายชีวิตของชาวพุทธ อันได้แก่พุทธ
บริษัท 4 ยิ่งถ้าบวชแล้วก็ต้องยิ่งตั้งเป้าหมายให้เด่นชัด และยังทำให้เกิดความกระตือรือร้น ที่จะปรับปรุงตัวตาม เป้าหมาย
ตามคำสอนของพระบรมศาสดา ให้เป็นเนื้อนาบุญชองชาวโลก คือเป็นประโยชน์ เป็นที่พึ่งทั้งต่อตนเองและชาวโลกอีกด้วย
เพราะฉะนั้น พวกเราต้องมาพิจารณาอุดมการณ์ ของชาวพุทธ ซึงมี 3 ประการ ดังนี้
        1. ขนตี ปรมํ ตโป ตีติกขา ความอดทน คือความทนทาน เป็นตบะอย่างยิ่ง (ต้องมีควาามอดทนและเข้มแข็ง อดกลั้น
ต่ออำนาจฝ่ายต่ำของกิเลสที่คอยชักจูงให้กระทำผิด)
        2. นิพพานํ ปรมํ วทนติ พุทธา ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ย่อมกล่าวพระนิพพานว่าเป็นเยี่ยม (ต้องมุ่งความดับทุกข์ โดยมีขันติ
เป็นเครื่องกำจัดกิเลสให้หมดไปตามลำดับ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือพระนิพพาน)
        3. นหิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํวิเหฐยนฺโต บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น เบียดเบียนสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ เลย
(ผู้รักความสงบ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดขีวิต ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน)

        หัวใจของพระพุทธศาสนาคือหลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เมื่อเรามีอุดมการณ์มั่นคงอยู่ในใจแล้ว ควรจะดำเนินชีวิต
ต่อไปอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานหลักการการดำเนินชีวิตไว้ 3 ประการ ซึ่งชาวพุทธถือว่าเป็นหัวใจ ของ
พระพุทธศาสนา
        1. สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง (ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา หรือใจ)
        2. กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม (ความดีหรือบุญนั้น แม้เพียงเล็กน้อย ก็อย่าไปดูถูก ว่าจะไม่ให้ ผล
เพราะขึ้นชื่อว่าบุญ ไม่ว่ามากหรือน้อย ย่อมให้ผลเป็นความสุขทั้งนั้น)
      3. สจิตฺต ปริโยทปนํ การกลั่นจิตใจของตนให้ผ่องใส (คิด พูด ทำแต่ในสิ่งที่ดี หมั่นเจริญภาวนาให้มาก มีโยนิโสมนสิการ
คือการจับแง่คิดในทางที่ถูกต้อง จะทำให้ใจไม่ฟุ้งซ่าน ผ่องใสอยู่เสมอ)
      วิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือวิธีการปรับปรุงตัวเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบ วิธีการปรับปรุงตัว เองให้เหมาะ
สมที่จะเป็นกัลยาณมิตรให้แก่ตนเอง และชาวโลกไปพร้อม ๆ กัน อยู่ 6 ประการ ซึ่งเป็นวิธีที่ล้ำลึก ซึ่งหากใครทำตามได้
นอกจากตัวเอง จะได้เป็นต้นแบบที่ดีแล้ว การเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลสำเร็จอย่าง
งดงาม แน่นอนอีกด้วย
      1. อนูปวาโท การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน (ระวังคำพูดไม่ให้เป็นการกล่าวว่าร้ายใคร หรือพูดโจมตีใคร)
      2. อนูปฆาโต การไม่เข้าไปทำร้ายกัน (ระวังมือระวังเท้าไม่ให้ทำชั่ว ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่หรือบังคับ)
      3. ปาฏิโมกฺเข จ สงฺวโร ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ (สำรวมการประพฤติปฏิบัติให้อยู่ใน วินัยและศีลธรรม อันดี
ตลอดเวลา)
      4. มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ เป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร (รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร จะทำให้สุขภาพดี ส่งผลให้
การปฏิบัติธรรมมีความเจริญก้าวหน้า)
     5. ปนฺตญฺจ สยนาสนํ ที่นอนที่นั่งอันสงัด (มุ่งเจริญสมณธรรมความเงียบสงัดจะทำให้จิตใจสงบ ใจรวมเป็นหนึ่งได้เร็ว)
     6. อธิจิตฺเต จ อาโยโค ประกอบความเพียรในอธิจิต (หมั่นทำสมาธิภาวนาโดยไม่ทอดธุระ)
       
     เมื่อถึงวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 คราใด ชาวพุทธทั้งหลายต่างขวนขวายประกอบการ บุญ กุศล และ
กระทำพิธีสักการะบูชาเป็นพิเศษ ด้วยการเวียนเทียนทักษิณาวรรต โดยรอบพระพุทธเจดีย์ พระอุโบสถ หรือจุดโคมประทีป
บูชา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระคุณของพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ที่ได้
สืบทอดเจตนารมย์ อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา สืบต่อมาอย่างแน่วแน่ ตราบจนทุกวันนี้
          ในขณะเดียวกัน เนื่องในโอกาส อันเป็นมงคลนี้ พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว ก็จะทรงเสด็จไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ ต่อมา ก็จะทรงนำ เหล่าพสกนิกรประกอบพิธีเวียนเทียน จัดขึ้นภายในวัด พระแก้วนี้ด้วย พิธีเวียนเทียน นี้จะประกอบในเวลาใด ก็ได้ แล้วแต่ ความสะดวกของ ประชาชน อาจจะเป็น ตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ 
        

            แต่ในปัจจุบันมักจะนิยมจัดพิธีเวียนเทียน ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว โดยขบวนเวียนเทียนนี้ ก็จะมีพระสงฆ์เป็นผู้นำ

ที่มา : http://www.inspect8.moe.go.th/

รูปภาพของ skk6612

http://www.thaigoodview.com/node/58408

ส่งงานครั้งที่ 4

นางสาวอำไพ  จินะสุข  ม. 4/2 เลขที่ 38

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 266 คน กำลังออนไลน์