Les verbes impersonnels [รูปกริยาที่ไม่ได้ระบุถึงบุคคลหรือสิ่งของ]

Les verbes impersonnels

    กริยา impersonnel คือ รูปกริยาที่ผันกับสรรพนามประธาน "Il" เสมอ และสรรพนาม "Il" นี้ไม่ได้แทนบุคคลใด

        หรือสิ่งของใดทั้งสิ้น ถือว่า "เป็นกลาง (neutre)" เพื่อให้คำกริยาผันได้ :

        คำกริยาที่ใช้ในรูป impersonnel เท่านั้น :

            "Il fait ............", "Il y a ................" : บอกปรากฎการณ์ธรรมชาติ

              - Il fait beau, mauvais, bon, chaud, froid, jour, nuit ...(อากาศแจ่มใส, ไม่ดี, ดี, ร้อน, หนาว, สว่างแล้ว, พลบคํ่า)

              - Il fait 19 (degrés) (อุณหภูมิ 19 องศา)

              - Il y a du soleil, du vent, de la neige, des nuages, ... (มีแสงแดด, ลม, หิมะ, เมฆ,...)

            นอกจากนี้ยังมี : Il pleut (pleuvoir)(ฝนตก), Il neige (neiger)(หิมะตก), Il gèle (geler)(หนาวจัดจนนํ้าเป็นนํ้าแข็ง)

           "Il est ..............." : บอกเวลา

              - Il est sept heures du matin. (เจ็ดโมงเช้า)

              - Il est tôt. / Il est tard. (ยังเช้า [หัวคํ่า] อยู่ / สาย [ดึก] แล้ว)

            "Il y a ..........." : บอกว่ามีอะไรอยู่ที่ใด

              - Il y a plusieurs marchés flottants à Nakhonpathom (มีตลาดนํ้าหลายแห่งในจ.นครปฐม)

              - Il y a quelqu'un dans la maison ? (มีใครอยู่ในบ้านหรือเปล่า)

            "Il faut .............." : บอกความจำเป็น

              - Il faut finir ce travail avant demain ! (ต้องทำงานนี้ให้เสร็จก่อนวันพรุ่งนี้)

              - Il faut que tu apprennes le français d' abord ! (เธอต้องเรียนภาษาฝรั่งเศสก่อน)

              - Il faut beaucoup de temps pour les études. (ต้องใช้เวลามากในการศึกษาเล่าเรียน)

            "Il s' agit de ................" : บอกว่าเกี่ยวข้องกับใครหรืออะไร หรือบอกความจำเป็น

              - De quoi s' agit-il ?(มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร)  Il s' agit d' une affaire politique (มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง)

              - Pour ce genre de travail, il s' agit d' être souriant et patient. (สำหรับงานเช่นนี้จำเป็นต้องยิ้มแย้มและอดทน)

       คำกริยาบางคำใช้ได้ทั้งในรูป impersonnel และรูปที่มีความหมายถึงบุคคลหรือสิ่งของได้ :

           Rester : - Il reste toujours triste après la mort de sa femme. (เขายังคงเศร้าอยู่หลังการตายของของภรรยาเขา) 

                            - Il reste encore du pain ? (ยังมีขนมปังเหลือไหม)

          Être : - Il était une fois... (กาลครั้งหนึ่ง...) [บอกการเริ่มดำเนินเรื่องของนิทาน]

                             - Il s' appelle Jean. Il est français. (เขาชื่อชอง เขาเป็นชาวฝรั่งเศส)

          Être + adj + de/que ........... : บอกดุลพินิจ : Il est bon..., Il est important..., Il est possible...etc.

                             - Il est difficile de prévoir la situation ! (เป็นการยากที่จะคาดเดาสถานการณ์)

                             - Il est possible qu' il vienne demain. (เป็นไปได้ที่เขาจะมาพรุ่งนี้)

          Plaire : - S' il vous plaît. (ได้โปรด! / กรุณา!)

                        - Ce parfum me plaît beaucoup. (ฉันชอบนํ้าหอมนี้มาก)

           Sembler : - Il semble qu' il y ait une manifestation au centre ville. (ดูเหมือนว่าจะมีการชุมนุมกันที่ใจกลางเมือง)

                            - Elle semble très contente ! (หล่อนดูท่าทางดีใจมาก)

           Paraître : - Il paraît qu' ils se sont mariés le mois dernier. (ดูเหมือนว่าพวกเขาจะแต่งงานกันเมื่อเดือนที่แล้ว)

                                   - Elle paraît très fatiguée en ce moment. (หล่อนดูท่าทางเหนื่อยมากช่วงนี้)

          Valoir : - Il vaut mieux partir de bonne heure. (ออกเดินทางแต่เช้าดีกว่า)

                        - Cette voiture vaut très cher ! (รถคันนี้แพงมาก !)

           Suffir : - Il suffit de surfer sur l' internet pour trouver tous les renseignements.

                         (แค่เพียงเข้าไปเซิร์ฟในอินเทอร์เนทก็จะพบข้อมูลทุกอย่าง)

                       - Il suffit que tu lui demande pardon! (เธอแค่ขอโทษหล่อนก็เรียบร้อยแล้ว !)

                       - Cette somme ne suffit pas pour acheter une belle maison ! (เงินจำนวนเท่านี้ไม่พอซื้อบ้านสวยๆหรอก !)

          เรานิยมใช้ impersonnel ในรูป passif เมื่อไม่ต้องการระบุว่าใครเป็นผู้กระทำกริยา :  

           - Il est interdit de se baigner ici ! (ห้ามเล่นนํ้าบริเวณนี้ !)

           - Il est défendu de stationner ! (ห้ามจอดรถ !)

           - Il est permis d' amener un ou une amie. (อนุญาตให้พาเพื่อนมาได้หนึ่งคน)

           - Il a été décidé de créer un centre d' apprentissage du français à l' école Rachiniebourana.

             (มีมติให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสขึ้นที่โรงเรียนราชินีบูรณะ)

     ในภาษาพูด "C' est..." นิยมใช้มากกว่า "Il est..."

         - Il est difficile de comprendre les adolescents aujourd' hui ! (วัยรุ่นสมัยนี้เข้าใจยาก !)

         - C' est facile de faire cet exercice ! (แบบฝึกหัดนี้ทำง่าย !)

         - Il est évident qu' elle est satisfaite de son travail. (เห็นชัดว่าหล่อนพอใจกับผลงานของหล่อน)

         - C' est évident qu'on ne peut pas tout faire tout seul ! (แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ตามลำพังคนเดียว !)

 

 

คำแนะนำ: คลิกปุ่ม HOME เพื่อกลับสู่หน้าหลัก (สารบัญ)

คลิกปุ่ม BACK เพื่อถอยหลังกลับหน้าที่แล้ว

คลิกปุ่ม NEXT เพื่อไปยังหน้าต่อไป

ขอบคุณมากๆค่ะ แสดงความคิดเห็นกันด้วยนะคะ

สร้างโดย: 
ภัทรา พงศ์ภัทรถาวร

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 230 คน กำลังออนไลน์