คนที่ 12 นายสัญญา ธรรมศักดิ์
นายกรัฐมนตรีคนที่ 12
นายสัญญา ธรรมศักดิ์
ภาพจาก : http://www.thai-school.net/images/Activities_pic0050035.jpg
ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง
สมัยที่ 1 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 33 : 14 ตุลาคม 2516 - 22 พฤษภาคม 2517
สมัยที่ 2 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 34 : 27 พฤษภาคม 2517 - 15 กุมภาพันธ์ 2518
ประวัติ
นายสัญญา ธรรมศักดิ์
เป็นบุตรของมหาอํามาตย์พระยาธรรมสาร เวทย์วิเศษภักดี ( ทองดี ธรรมศักดิ์ ) กับคุณหญิงชื่น ธรรมศักดิ์
เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2450
ที่บ้านข้างวัดอรุณราชวราราม บางกอกใหญ่ ธรบุรี
สมรสกับท่านผู้หญิงพงา ธรรมศักดิ์
การศึกษา
นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
โรงเรียนประทุมคงคา พ.ศ. 2471
จากนั้นท่านก็เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมายกระทรวงยุติธรรม
จนสําเร็จการศึกษาสอบไล่ได้เนติบัณฑิตไทยเมื่อปี พ.ศ. 2471
และได้ทุนการเล่าเรียนของพีระมูลนิธิไปศึกษาวิชากฎหมายต่อที่สํานัก middle temple ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 3 ปี
จนกระทั้งสําเร็จวิชากฎหมายได้เป็นเนติบัณฑิตอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2476
การรับราชการ
หลังจากสําเร็จการศึกษาแล้ว ท่านเริ่มชีวิตราชการในตําแหน่งผู้พิพากษาฝึกหัดกระทรวงยุติธรรม
และมีความเจริญก้าวหน้าในตําแหน่งหน้าที่ตามลําดับ
ได้เป็นผู้พิพากษาศาลอุธรณ์ข้าหลวงยุติธรรมภาค 4
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่
ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ผู้พิพากษาศาลฎีกา
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุธรณ์ และประธานศาลฎีกาตามลําดับ
ในช่วงที่ท่านปฎิบัติหน้าที่ผู้พิพากษานั้น
ได้รับคํายกย่องว่ามีความรู้ความสามารถเป็นอย่างมาก
ท่านเขียนคําพิพากษาได้อย่างแจ่มแจ้งกระจ่างชัดคู่ความไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ
จะไม่รู้สึกเคลือบแคลงในคําพิพากษานั้นเลย นอกจากนั้นท่านยังยึดถือความเที่ยงธรรมเป็นที่ตั้ง
นอกจากนี้ ท่านยังมีความสามารถในด้านต่างๆ นอกเหนือไปจากตําแหน่งตุลาการ
ท่านมักจะได้รับเชิญให้เป็นประธานในองค์กรต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่เสมอมา
เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมาย
ในด้านการศึกษา ท่านเป็นอาจารย์สอนที่มหาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในยุคแรกๆ
ซึ่งท่านสอนติดต่อกันนานถึง 15 ปี
ส่วนใหญ่วิชาที่สอนคือ กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและธรรมนูญศาลยุติธรรม
ลูกศิษย์ของท่านต่อมาได้เป็นนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงมากมาย
การเข้าดํารงตําแหน่งองคมนตรี
หลังจากที่ท่านเกษียณ์อายุราชการในปีพ.ศ. 2511 แล้วท่านก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ
ให้ดํารงตําแหน่งองคมนตรีและในปีเดียวกันนี้ท่านก็ได้เป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกแห่งหนึ่งด้วย
ต่อมายังได้รับตําแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์