รัชกาลที่ ๕
ภาพจาก http://www.prdnorth.in.th/The_King/picture/ram5.jpg
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งประสูติแต่พระนางเธอพระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระศิรินทรา พระบรมราชินี) เสด็จพระราชสมภพเมื่อปีฉลู แรม 3 ค่ำ
เดือน 10 ตรงกับ วันอังคารที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2396 ในพระบรมมหาราชวัง มีพระนามเดิมว่า
สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์บดินทรเทพมหามงกุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์วรุตมพงศบริพัตรสิริวัฒนราชกุมาร ในปีพุทธศักราช 2404
เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถปนาเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ และต่อมาปีพุทธศักราช 2410 ทรงได้รับเลื่อน
พระอิสริยยศเป็น กรมขุนพินิจประชานารถ ทรงได้รับตำแหน่งในการกำกับราชการกรมมหาดเล็ก
กรมพระคลังมหาสมบัติ และว่าการกรมทหารบกวังหน้าตามลำดับ
ทรงได้รับการศึกษาอย่างดีทั้งด้านอักษรศาสตร์ โบราณราชประเพณี วิชาการสงคราม และการปกครอง
พร้อมกันนั้นก็ทรงได้รับการอบรมศึกษาสรรพวิชาทั้งปวงจากบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และจากสมเด็จพระราชบิดาของพระองค์เอง
โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ติดตามใกล้ชิดในเวลาที่ทรงออกว่าราชการ นอกจากนี้ในเวลาที่พระราชบิดา
ทรงมีพระราชวินิจฉัยให้ข้อราชการก็มกมีรับสั่งให้สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เข้าเฝ้าเพื่อรับฟังพระบรมราโชวาทและพระบรมราชาธิบาย
ในข้อราชการรวมไปถึงราชประเพณีต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมพระองค์พระราชโอรสให้พร้อม
ที่จะปกครองบ้านเมืองต่อไปในภายหน้า
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรคตแล้ว บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ และเหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิจประชานาถเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อจาก
สมเด็จพระราชบิดา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2411 ทรงพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฎว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา
จุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฎ บุรุษรัตนราชรวีวงศ์ วรุฒมพงษ์บริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันต บรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ
อุภโตสุชาตสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ อดิศวรราชรามวรังกูร สุภาธิการรังสฤษฏ์ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์
มหาชโนตมางคประณตบาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภ ผลอุดมบรมสุขุมมาลย์ ทิพยเทพาตารไพศาลเกียรติคุณอดุลยวิเศษ
สรรพเทเวศรานุรักษ์ วิสิษฐศักดิ์สมญาพินิตประชานาถ เปรมกระมล ขัติยราชประยูรมูลมุขราชดิลก มหาปริวาร
นายกอนันต์มหันตวรฤทธิ์เดช สรรวิเศษสิรินมทร อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิวรยศ มโหดมบรมราชสมบัติ นภดลเศวตฉัตราดิฉัตร
สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกาภิสิต สรรพทศทิศวิชิตไชย สกลมไหสวริยมหาสวมินทร์
มเหศวรมหินทรามหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติ อาชาวศรัย พุทธาธิไตย รัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิ์อรรคนเรศราธิบดี
เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปมัยบุญการสกลไพศาล มหารัษฎาธิบดินทร์ ปรมินทรธรรมิกหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ในขณะที่เสด็จขึ้นครองราชย์ทรงมีพระชนมายุได้เพียง 15 พรรษา ที่ประชุมจึงเห็นควรให้สมเด็จเจ้า
พระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปก่อนจนกว่าจะทรงบรรลุนิติภาวะ และเข้าพระราชพิธีบรม
ราชาภิเษกขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปีพุทธศักราช 2416 และนับแต่นั้นมาจึงทรงมีพระราชอำนาจสิทธิขาด
ในการปกครองและบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ด้วยพระองค์เองสืบต่อไป
พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ตราประจำรัชกาลที่ ๕