• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:08f6d8254b4733fe4359206e745a2f21' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #ff0000; background-color: #ff99cc\"><u>สมุนไพรเพื่อความงาม</u></span></strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #ff9900\">หากพูดถึง “ความงาม” แล้ว คุณผู้หญิงหรือท่านผู้ชายก็คงจะไม่ปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมีความสำคัญไม่ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff9900\">ยิ่งหย่อนไปกว่าปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต แต่ถ้าเราจะมองกันไปแล้ว “ความงาม” นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตัวของเรามี </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff9900\">สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน โดยปกติสุขภาพจะดีมาก-น้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff9900\">แวดล้อม การรับประทานอาหาร และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อร่างกายกินได้ ถ่ายคล่อง ผิวพรรณดี และสุขภาพ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff9900\">แจ่มใส ” ความงาม” ก็จะบังเกิดขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff\"><strong><span style=\"background-color: #ffff99\">สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff\"></span>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"280\" src=\"/files/u19337/26045_002.jpg\" height=\"420\" style=\"width: 187px; height: 259px\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<br />\n<a href=\"http://women.sanook.com/story_picture/b/26045_002.jpg\">http://women.sanook.com/story_picture/b/26045_002.jpg</a>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">ใบหน้า คือ ด่านแรกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจของผู้พบเห็น แต่หลายๆคนกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบสวย เพราะ </span></p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">เม็ดสิวและรอยแห้งกร้านด้วยจุดด่างดำของกระและฝ้า จนต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม ห </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">รือหาซื้อยามารักษา จึงอยากแนะนำให้ใช้สมุนไพรพืชผักและผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีคุณประโยชน์มากมายทั้งวิตามิน </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800000\">แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นผ่องใสอ่อนไวอยู่เสมอ</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong><span style=\"background-color: #ccffcc\">1. ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)</span></strong> </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #008000\"><img border=\"0\" width=\"550\" src=\"/files/u19337/wanhangj.jpg\" height=\"367\" style=\"width: 422px; height: 248px\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><a href=\"http://www.igetweb.com/www/iteen/private_folder/inworld/wan1.jpg\">http://www.igetweb.com/www/iteen/private_folder/inworld/wan1.jpg</a></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><br />\n<span style=\"color: #008000\">คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า </span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป </span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong>เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลาย</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">พิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้ เพื่อบำรุงผิวพรรณ </span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่า ว่านหางจระเข้มีส่วนช่วย ให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น </span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong>มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">การใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใส ที่อยู่ภายใน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้ </span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong>ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไ</strong><strong>ป </strong></span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong>ให้หัวสิวแห้งเร็ว</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมัน ก็จะช่วยให้ลด</span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008000\"><strong>ความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008080; background-color: #ccffff\">2. งา (Sesamum indicum Linn. S. orientle. L)</span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"300\" src=\"/files/u19337/nga.jpg\" height=\"225\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://www.siamphoenix.com/2008/htdocs/uploads/newbb/1365_4a6b6b3fb9a13.jpg\"><strong>http://www.siamphoenix.com/2008/htdocs/uploads/newbb/1365_4a6b6b3fb9a13.jpg</strong></a>\n</p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #008080\"><strong>เป็นพืชล้มลุก ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% น้ำมันงา</strong></span>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008080\">มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้ โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนัง เพื่อ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #008080\"><strong>บำรุงผิวพรรณ ให้ผุดผ่อง ช่วนประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #3366ff; background-color: #ffcc99\">3. แตงกวา (Cucumis sativas Linn.)</span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"385\" src=\"/files/u19337/tanggwa.jpg\" height=\"444\" style=\"width: 273px; height: 324px\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://www.udclick.com/home1/images/stories/Content2/woman/beautiful_trip/zwoman2009020713.jpg\"><strong>http://www.udclick.com/home1/images/stories/Content2/woman/beautiful_trip/zwoman2009020713.jpg</strong></a>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #3366ff\">จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #3366ff\">ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #3366ff\">แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช้วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #3366ff\"><strong>ช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล</strong> </span>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\"><span style=\"background-color: #ccffcc\">4. มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)</span></span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\"><span style=\"background-color: #ccffcc\"></span><br />\n </span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่า</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">เชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ลงบนผิวหน้าก็ได้</span></strong>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #993366; background-color: #99ccff\">5. ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.)</span></strong>\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"320\" src=\"/files/u19337/kaminch.jpg\" height=\"400\" style=\"width: 260px; height: 255px\" />\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #009f4f\"><a href=\"http://www.moph.go.th/ops/iprg/news_pic/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%991.jpg\"><strong>http://www.moph.go.th/ops/iprg/news_pic/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%991.jpg</strong></a></span><a href=\"http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/pic/spicepic/kaminchan01.jpg\"></a>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #993366\">ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993366\">และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993366\">เกิดโรคผิวหนังบางชนิด ได้อีกด้วย</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #0000ff; background-color: #ccffff\">6. น้ำผึ้ง (Apis dorsata)</span></strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"400\" src=\"/files/u19337/honey.jpg\" height=\"304\" style=\"width: 231px; height: 227px\" />\n</div>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://www.moac-info.net/modules/news/images/86_1_85515_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg\">http://www.moac-info.net/modules/news/images/86_1_85515_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg</a>\n</p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #0000ff\">ได้จากผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวน</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">เล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบ ของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมี</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">คุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้ง เป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์สูง และหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\">ผม ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #808000; background-color: #ff99cc\">7. มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn)</span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"150\" src=\"/files/u19337/makhamp.jpg\" height=\"146\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://images.thaiza.com/26/26_20070625235134..jpg\"><strong>http://images.thaiza.com/26/26_20070625235134..jpg</strong></a>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #808000\">มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัด</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #808000\">สิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #808000\">ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิว</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #808000\">หนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #ff00ff; background-color: #ffcc99\">สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย</span></strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p>\n<br />\n<span style=\"color: #ff6600\">ผิวกาย จะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลัง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff6600\">กาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff6600\">จึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน</span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #ff00ff; background-color: #808000\"><span style=\"background-color: #ffcc99\">สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับเส้นผม</span></span></strong>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff; background-color: #808000\"><span style=\"background-color: #ffcc99\"></span></span></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<strong><img border=\"0\" width=\"250\" src=\"/files/u19337/hair_loss_2_0.jpg\" height=\"241\" style=\"width: 207px; height: 175px\" /></strong>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-size: 11pt; line-height: 115%; font-family: \'Calibri\',\'sans-serif\'\"></span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<strong><span style=\"color: #ff00ff; background-color: #808000\"></span></strong>\n</div>\n<p>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ทรงผม หรือเส้นผม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ สิ่งที่ควรคำนึงในหารดูแลเส้นผม ได้แก่ อาหาร</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">จำพวกโปรตีนที่ได้จากเนื้อ นม ไข่ ฯลฯ และวิตามิน A,C,E,B5 ที่ได้จากผลไม้ต่างๆและธัญพืช จำพวกถั่ว งา ข้าวกล้อง </span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ</span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/46313\" class=\"box\"><img border=\"0\" width=\"414\" src=\"/files/u19337/HOME_CARTOON.jpg\" height=\"314\" style=\"width: 72px; height: 70px\" /></a><strong><span style=\"color: #008000; background-color: #99ccff\">กลับสู่หน้าหลัก</span></strong> \n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"right\">\n<br />\n<span style=\"color: #808000; background-color: #ccffcc\">ที่มา</span>  <a href=\"http://www.samunpri.com/beaty\"><strong>http://www.samunpri.com/beaty</strong></a>\n</p>\n<p align=\"right\">\n<a href=\"http://1.bp.blogspot.com/_Vfx6CT94jcM/SjLTBD9A-3I/AAAAAAAAAYY/VoUx_LN-15M/s320/hair_loss_2.jpg\">http://1.bp.blogspot.com/_Vfx6CT94jcM/SjLTBD9A-3I/AAAAAAAAAYY/VoUx_LN-15M/s320/hair_loss_2.jpg</a> \n</p>\n<p></p>\n', created = 1715354433, expire = 1715440833, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:08f6d8254b4733fe4359206e745a2f21' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

สมุนไพรกับความงาม......

สมุนไพรเพื่อความงาม


หากพูดถึง “ความงาม” แล้ว คุณผู้หญิงหรือท่านผู้ชายก็คงจะไม่ปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมีความสำคัญไม่

ยิ่งหย่อนไปกว่าปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต แต่ถ้าเราจะมองกันไปแล้ว “ความงาม” นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตัวของเรามี

สุขภาพจิตและสุขภาพกายดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน โดยปกติสุขภาพจะดีมาก-น้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะ

แวดล้อม การรับประทานอาหาร และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อร่างกายกินได้ ถ่ายคล่อง ผิวพรรณดี และสุขภาพ

แจ่มใส ” ความงาม” ก็จะบังเกิดขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า

ใบหน้า คือ ด่านแรกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจของผู้พบเห็น แต่หลายๆคนกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบสวย เพราะ

เม็ดสิวและรอยแห้งกร้านด้วยจุดด่างดำของกระและฝ้า จนต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม ห

รือหาซื้อยามารักษา จึงอยากแนะนำให้ใช้สมุนไพรพืชผักและผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีคุณประโยชน์มากมายทั้งวิตามิน

แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นผ่องใสอ่อนไวอยู่เสมอ

1. ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)

http://www.igetweb.com/www/iteen/private_folder/inworld/wan1.jpg


คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า

มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป

เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลาย

พิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้ เพื่อบำรุงผิวพรรณ

ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่า ว่านหางจระเข้มีส่วนช่วย ให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น

มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย

การใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใส ที่อยู่ภายใน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้

เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้

ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไ

ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำ

ให้หัวสิวแห้งเร็ว

นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมัน ก็จะช่วยให้ลด

ความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้

2. งา (Sesamum indicum Linn. S. orientle. L)

http://www.siamphoenix.com/2008/htdocs/uploads/newbb/1365_4a6b6b3fb9a13.jpg


เป็นพืชล้มลุก ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% น้ำมันงา

มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้ โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนัง เพื่อ

บำรุงผิวพรรณ ให้ผุดผ่อง ช่วนประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน

3. แตงกวา (Cucumis sativas Linn.)

http://www.udclick.com/home1/images/stories/Content2/woman/beautiful_trip/zwoman2009020713.jpg


จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน

ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด

แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช้วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และ

ช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล

4. มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)


 

ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่า

เชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะ

ลงบนผิวหน้าก็ได้

 

5. ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.)

http://www.moph.go.th/ops/iprg/news_pic/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%991.jpg


ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้

เกิดโรคผิวหนังบางชนิด ได้อีกด้วย

 

6. น้ำผึ้ง (Apis dorsata)

http://www.moac-info.net/modules/news/images/86_1_85515_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg


ได้จากผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวน

เล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบ ของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมี

คุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้ง เป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์สูง และหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุง

ผม ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม

 

7. มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn)

http://images.thaiza.com/26/26_20070625235134..jpg


มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัด

สิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณ

ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิว

หนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย


ผิวกาย จะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลัง

กาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี

จึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับเส้นผม

ทรงผม หรือเส้นผม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ สิ่งที่ควรคำนึงในหารดูแลเส้นผม ได้แก่ อาหาร

จำพวกโปรตีนที่ได้จากเนื้อ นม ไข่ ฯลฯ และวิตามิน A,C,E,B5 ที่ได้จากผลไม้ต่างๆและธัญพืช จำพวกถั่ว งา ข้าวกล้อง

ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ

กลับสู่หน้าหลัก 


ที่มา  http://www.samunpri.com/beaty

http://1.bp.blogspot.com/_Vfx6CT94jcM/SjLTBD9A-3I/AAAAAAAAAYY/VoUx_LN-15M/s320/hair_loss_2.jpg 

สร้างโดย: 
นางสาว นภัสวรรณ ยอดทอง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 204 คน กำลังออนไลน์