• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a1b56d40e4c1a3cd316791c390152b74' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #ff6600; background-color: #ffff99\"><u>ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพร</u></span></strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"500\" src=\"/files/u19337/content2008-09-07134036.jpg\" height=\"375\" style=\"width: 442px; height: 316px\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://saenarakloapatjournal.com/images/content2008-09-07134036.jpg\">http://saenarakloapatjournal.com/images/content2008-09-07134036.jpg</a><br />\n<span style=\"color: #008000\"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19337/kapook_362_1.gif\" height=\"101\" style=\"width: 68px; height: 60px\" /><span style=\"color: #99cc00; background-color: #ccffff\">กลุ่มอาการ / โรคที่ไม่ควรใช้สมุนไพร</span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #800080\">เป็นโรคร้ายแรง โรคเรื้อรัง หรือโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ เช่น งูพิษกัด สุนัขบ้ากัด </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #800080\">บาดทะยัก กระดูกหัก มะเร็ง วัณโรค กามโรค ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเรือน ดีซ่าน หลอดลมอักเสบเรื้อรัง </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #800080\">ปอดบวม (ปอดอักเสบ) อาการบวม ไทยฟอยด์ โรคตาทุกชนิด</span><br />\n \n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #0000ff\"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19337/kapook_362_1.gif\" height=\"101\" style=\"width: 68px; height: 60px\" /><span style=\"color: #33cccc; background-color: #ffcc99\">ข้อแนะนำในการใช้สมุนไพร</span></span></strong><span style=\"background-color: #ffcc99\"> </span>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">1.  ใช้ให้ถูกต้น  สมุนไพรมีชื่อพ้องหรือซ้ำกันมาก และบางท้องถิ่นก็เรียกไม่เหมือนกัน จึงต้องรู้จักสมุนไพรและ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff00ff\">ใช้ให้ถูกต้น </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">2.  ใช้ให้ถูกส่วน  ต้นสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก เปลือก ผล เมล็ด จะมีฤทธิ์ไม่เท่ากัน บางทีผลแก่ ผลอ่อน </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff00ff\">มีฤทธิ์ต่างกันด้วย จะต้องรู้ว่าส่วนใดใช้เป็นยาได้ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">3.  ใช้ให้ถูกขนาด  สมุนไพรถ้าใช้น้อยไป ก็รักษาไม่ได้ผล แต่ถ้ามากไปก็อาจเป็นอันตราย หรือเกิดพิษต่อร่างกายได้ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">4.  ใช้ให้ถูกวิธี  สมุนไพรบางชนิดต้องใช้สด บางชนิดต้องปนกับเหล้า บางชนิดใช้ต้ม จะต้องรู้วิธีใช้ให้ถูกต้อง </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">5.   ใช้ให้ถูกกับโรค  เช่น ท้องผูก ต้องใช้ยาระบาย ถ้าใช้ยาที่มีฤทธิ์ฝาดสมานก็จะทำให้ท้องผูกยิ่งขึ้น </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff00ff\">    นอกจากนั้น ยังต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาดในการเก็บยา การเตรียมยา และเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำยา </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff00ff\">จะต้องสะอาดด้วย มิฉะนั้นอาจเกิดโรคอื่นติดตามมา</span><br />\n \n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #333399\"><img border=\"0\" width=\"100\" src=\"/files/u19337/kapook_362_1.gif\" height=\"101\" style=\"width: 68px; height: 60px\" /><span style=\"color: #ff6600; background-color: #ccffcc\">อาการแพ้ที่เกิดจากสมุนไพร</span></span></strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">สมุนไพร มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับยาทั่วไป คือมีทั้งคุณและโทษ บางคนใช้แล้วเกิดอาการแพ้ได้ แต่เกิดขึ้นได้น้อย </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"> เพราะสมุนไพรมิใช่สารเคมีชนิดเดียวเช่นยาแผนปัจจุบัน ฤทธิ์จึงไม่รุนแรง (ยกเว้นพวกพืชพิษบางชนิด) แต่ถ้าเกิด </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\">อาการแพ้ขึ้นควรหยุดยาเสียก่อน ถ้าหยุดแล้ว อาการหายไป อาจทดลองใช้ยาอีกครั้งโดยระมัดระวัง ถ้าอาการ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\">เช่นเดิมเกิดขึ้นอีก แสดงว่าเป็นพิษของยาสมุนไพรแน่ ควรหยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาอื่น หรือถ้าอาการแพ้รุนแรง </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\">ควรไปรับการรักษาที่ศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาล </span>\n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>อาการที่เกิดจากการแพ้สมุนไพร มีดังนี้</strong> </span>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">1.  ผื่นขึ้นตามผิวหนัง อาจเป็นตุ่มเล็กๆ ตุ่มโตๆ เป็นปื้นหรือเป็นเม็ดแบบคล้ายลมพิษ อาจบวมที่ตา (ตาปิด) หรือ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\">ริมฝีปาก (ปากเจ่อ) หรือมีเพียงดวงสีแดงที่ผิวหนัง </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">2.  เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน (หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง) ถ้ามีอยู่ก่อนกินยา อาจเป็นเพราะโรค </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">3.  หูอื้อ ตามัว ชาที่ลิ้น ชาที่ผิวหนัง </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">4.  ประสาทความรู้สึกทำงานไวเกินปกติ เช่น เพียงแต่แตะผิวหนังก็รู้สึกเจ็บ ลูบผมก็แสบหนังศีรษะ ฯลฯ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">5.  ใจสั่น ใจเต้น หรือรู้สึกวูบวาบคล้ายหัวใจจะหยุดเต้น และเป็นบ่อยๆ </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff0000\">6.  ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลือง เขย่าเกิดฟองสีเหลือง (เป็นอาการของดีซ่าน) อาการนี้แสดงถึงอันตราย </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\">ร้ายแรง ต้องรีบไปพบแพทย์</span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"/node/46313\" class=\"box\"><img border=\"0\" width=\"414\" src=\"/files/u19337/HOME_CARTOON.jpg\" height=\"314\" style=\"width: 72px; height: 56px\" /></a><span style=\"color: #ff00ff; background-color: #ffcc99\">กลับสู่หน้าหลัก</span>\n</p>\n<p align=\"right\">\n<br />\n<span style=\"color: #003300; background-color: #ffff99\">ที่มา</span> <a href=\"http://www.rspg.thaigov.net/index.htm\"><strong>http://www.rspg.thaigov.net/index.htm</strong></a>\n</p>\n<p></p>\n', created = 1715373819, expire = 1715460219, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a1b56d40e4c1a3cd316791c390152b74' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพร

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพร

http://saenarakloapatjournal.com/images/content2008-09-07134036.jpg
กลุ่มอาการ / โรคที่ไม่ควรใช้สมุนไพร


เป็นโรคร้ายแรง โรคเรื้อรัง หรือโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ เช่น งูพิษกัด สุนัขบ้ากัด

บาดทะยัก กระดูกหัก มะเร็ง วัณโรค กามโรค ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเรือน ดีซ่าน หลอดลมอักเสบเรื้อรัง

ปอดบวม (ปอดอักเสบ) อาการบวม ไทยฟอยด์ โรคตาทุกชนิด
 

ข้อแนะนำในการใช้สมุนไพร


1.  ใช้ให้ถูกต้น  สมุนไพรมีชื่อพ้องหรือซ้ำกันมาก และบางท้องถิ่นก็เรียกไม่เหมือนกัน จึงต้องรู้จักสมุนไพรและ

ใช้ให้ถูกต้น


2.  ใช้ให้ถูกส่วน  ต้นสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก เปลือก ผล เมล็ด จะมีฤทธิ์ไม่เท่ากัน บางทีผลแก่ ผลอ่อน

มีฤทธิ์ต่างกันด้วย จะต้องรู้ว่าส่วนใดใช้เป็นยาได้


3.  ใช้ให้ถูกขนาด  สมุนไพรถ้าใช้น้อยไป ก็รักษาไม่ได้ผล แต่ถ้ามากไปก็อาจเป็นอันตราย หรือเกิดพิษต่อร่างกายได้


4.  ใช้ให้ถูกวิธี  สมุนไพรบางชนิดต้องใช้สด บางชนิดต้องปนกับเหล้า บางชนิดใช้ต้ม จะต้องรู้วิธีใช้ให้ถูกต้อง


5.   ใช้ให้ถูกกับโรค  เช่น ท้องผูก ต้องใช้ยาระบาย ถ้าใช้ยาที่มีฤทธิ์ฝาดสมานก็จะทำให้ท้องผูกยิ่งขึ้น


    นอกจากนั้น ยังต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาดในการเก็บยา การเตรียมยา และเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำยา

จะต้องสะอาดด้วย มิฉะนั้นอาจเกิดโรคอื่นติดตามมา
 

อาการแพ้ที่เกิดจากสมุนไพร


สมุนไพร มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับยาทั่วไป คือมีทั้งคุณและโทษ บางคนใช้แล้วเกิดอาการแพ้ได้ แต่เกิดขึ้นได้น้อย

 เพราะสมุนไพรมิใช่สารเคมีชนิดเดียวเช่นยาแผนปัจจุบัน ฤทธิ์จึงไม่รุนแรง (ยกเว้นพวกพืชพิษบางชนิด) แต่ถ้าเกิด

อาการแพ้ขึ้นควรหยุดยาเสียก่อน ถ้าหยุดแล้ว อาการหายไป อาจทดลองใช้ยาอีกครั้งโดยระมัดระวัง ถ้าอาการ

เช่นเดิมเกิดขึ้นอีก แสดงว่าเป็นพิษของยาสมุนไพรแน่ ควรหยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาอื่น หรือถ้าอาการแพ้รุนแรง

ควรไปรับการรักษาที่ศูนย์บริการสาธารณสุขและโรงพยาบาล

อาการที่เกิดจากการแพ้สมุนไพร มีดังนี้


1.  ผื่นขึ้นตามผิวหนัง อาจเป็นตุ่มเล็กๆ ตุ่มโตๆ เป็นปื้นหรือเป็นเม็ดแบบคล้ายลมพิษ อาจบวมที่ตา (ตาปิด) หรือ

ริมฝีปาก (ปากเจ่อ) หรือมีเพียงดวงสีแดงที่ผิวหนัง


2.  เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน (หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง) ถ้ามีอยู่ก่อนกินยา อาจเป็นเพราะโรค


3.  หูอื้อ ตามัว ชาที่ลิ้น ชาที่ผิวหนัง


4.  ประสาทความรู้สึกทำงานไวเกินปกติ เช่น เพียงแต่แตะผิวหนังก็รู้สึกเจ็บ ลูบผมก็แสบหนังศีรษะ ฯลฯ


5.  ใจสั่น ใจเต้น หรือรู้สึกวูบวาบคล้ายหัวใจจะหยุดเต้น และเป็นบ่อยๆ


6.  ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลือง เขย่าเกิดฟองสีเหลือง (เป็นอาการของดีซ่าน) อาการนี้แสดงถึงอันตราย

ร้ายแรง ต้องรีบไปพบแพทย์

 

กลับสู่หน้าหลัก


ที่มา http://www.rspg.thaigov.net/index.htm

สร้างโดย: 
นางสาว นภัสวรรณ ยอดทอง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 344 คน กำลังออนไลน์