บทละครเรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒
อิเหนา
อิเหนาเป็นนิทานอิงพงศาวดารของประเทศชวา เหตุที่เกิดนิทานเรื่องนี้ก็เนื่องมาจากพวกชาวชวานับถือกันว่า อิเหนาเป็นกษัตริย์ที่ทรงอานุภาพมาก ถึงกับนำไปเล่าสู่กันฟัง ต่อมาเมื่อเรื่องอิเหนาแพร่มาถึงมลายู พวกมลายูก็นำเอาเรื่องอิเหนามาเล่นเป็นละครแขก
หรือหนังแขก นิทานเรื่องอิเหนาจึง เป็นนิทานที่แพร่หลายที่สุด เรื่องอิเหนาในชวามีหลายสำนวน ต้นฉบับเก่าเป็นหนังสือชวา ชื่อ"ปันหยี สะมิหลัง" ในไทยเรียกนามปันหยีว่าเป็นนามปลอมของพระเอก คือ อิเหนา ซึ่งต้นฉบับในชวาไม่นิยมเรียกว่า อิเหนา แต่จะเรียกว่า ปันหยี ตลอดเรื่อง ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเรื่องอิเหนาแม้ในชวาเองแต่ละสำนวนมีเรื่องแตกต่างกันไป มีเค้าที่จะลงรอยกับอิเหนาฉบับไทย ก็แต่ในกระบวนการชื่อเมือง ชื่อคนและวงศ์วานบ้างเท่านั้น
นิทานอิเหนาเข้ามาเมืองไทยตามที่สันนิษฐานกันว่าคงจะเป็นหญิงเชลยแห่งปัตตานี ซึ่งเป็นข้าหลวงรับใช้เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ พระราชธิดาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และคงได้เล่าเรื่องอิเหนาให้เจ้าหญิงทั้งสองฟัง เจ้าหญิงทั้งสองทรงเป็น ผู้ฝึกหัดละครอยู่แล้ว คงจะได้นำเรื่องอิเหนามาแต่งเป็นบทละคร เกิดเป็นอิเหนาใหญ่(ดาหลัง)และอิเหนาเล็กขึ้น
หนังสืออิเหนาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่๒ กล่าวอ้างไว้เป็นเพลงยาว สำหรับผู้แต่งเรื่องอิเหนานั้น สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ประธานอธิบายว่าด้วยบทละครอิเหนาฉบับหอสมุดวชิรญาณ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๔ สำหรับทำนิงแต่งเรื่องอิเหนานั้น แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกลอนบทละคร คือ ขึ้นต้นด้วย เมื่อนั้น บัดนั้น บางบทมีคำบอกหน้าบทสำหรับร้อง นอกจากนี้ยังบอกชื่อเพลงหน้าพากย์ไว้ท้ายบทด้วย สำหรับภาษาที่ใช้ในหนังสืออิเหนา มีภาษาชวาปน มีภาษาบาลีสันสกฤต ภาษามลายูและคำไทยโบราณด้วยเป็นประโยชน์สำหรับผู้ต้องการศึกษาภาษาที่เข้ามาปนภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
บทพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของพระบาทสมเด็จพระะพุทธเลิศหล้านภาลัย มีความดีเด่นครบทั้งองค์๕ของละคร คือ ตัวละครงาม รำงาม ร้องไพเราะ พิณพากย์ไพเราะและกลอนไพเราะงดงาม นอกจากนี้ยังให้ความรู้ในเรื่องโบราณราชประเพณีของไทย เช่น พิธีการ พระเมรุ พิธีสมโภชลูกหลวง พิธีโสกัณฑ์(โกนจุก)และพิธีรับแขกเมือง เป็นต้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว วรรณคดีสโมสร ซึ่งตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๖ ได้ตัดสินเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ ให้บทละครเรื่องอิเหนาเป็น "ยอดของกลอนบทละคร"
เรื่องอิเหนาแบ่งเป็นตอน ๆ รวม ๑๗ ตอน คือ
ตอนที่ ๑ อิเหนาโอรสของท้าวกุเรปันได้หมั้นหมายกับบุษบาธิดาของท้าวดาหา แต่ทั้งสององค์ไม่เคยพบกันเลย
ตอนที่ ๒ อิเหนาไปช่วยงานพระศพพระอัยกีที่เมืองหมันหยา ได้พบจินตะหราและรักใคร่ชอบพอกัน อิเหนาจึงทำอุบายไปเที่ยวป่าเพื่อหนีพิธีสยุมพร
ตอนที่ ๓ อิเหนากลับมาจากหมันหยา วิยะดาประสูติ ท้าวดาหาขอหมั้นวิยะดาให้สียะตราน้องบุษบา
ตอนที่ ๔ อิเหนาปลอมตัวเป็นชาวป่าชื่อมิสาระปันหยี ได้นางมาหยารัศมีและสการะวาตีเป็นบรรณาการ ได้สังคามาระตาเป็นน้อง
ตอนที่ ๕ อิเหนาออกปากอนุญาตให้บุษบาเลือกชายอื่นอภิเษกได้ ท้าวดาหาจึงประกาศบุษบาให้ใครก็ได้ที่มาสู่ขอ
ตอนที่ ๖ ระตูจรกาต้องการมีมเหสีที่รูปงาม จึงให้ช่างไปวาดรูปหญิงสาวตามเมืองต่าง ๆ มาให้เลือก ช่างวาดรูปบุษบาได้ ๒ รูป จรกาเห็นรูปบุษบาก็หลงรักและให้ท้าวล่าสำผู้เชษฐาไปสู่ขอ
ตอนที่ ๗ วิหยาสะกำ โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงได้รูปบุษบาที่ช่างวาดของจรกาทำหาย จึงให้บิดาไปสู่ขอ ท้าวดาหาปฏิเสธ ท้าวกะหมังกุหนิงจึงยกทัพมาตีดาหา
ตอนที่ ๘ อิเหนาเข้าเฝ้าท้าวดาหาได้พบนางบุษบาก็หลงรักและเสียดายนาง อิเหนาหาอุบายจะลักพาบุษบา
ตอนที่ ๙ อิเหนาปลอมเป็นชาวเมืองกะหมังกุหนิงแอบไปลักพาบุษบาไปไว้ในถ้ำ
ตอนที่ ๑๐อิเหนาปลอมเป็นชาวป่าชื่อปันหยีและปลอมวิยะดาเป็นเกนหลงหนึ่งหรัด ออกติดตามบุษบาทั่วเกาะชวาก็ไม่พบจึงไปบวชเป็นอายัน (ฤาษี)
ตอนที่ ๑๑ ปะตาระกาหลาแปลงตัวให้เป็นชายชื่ออุณากรรณ ขออนุญาตบิดาบุญธรรมออกท่องเที่ยวหาสตรีที่พอใจ โดยเจตนาจะตามหาอิเหนา ระหว่างการเดินทางได้นางกุสุมาเป็นคู่หมั้นของสังคามาระตาเป็นมเหสี
ตอนที่ ๑๒ อุณากรรณยกทัพเมืองประมอตันไปพบปันหยี ปันหยีสงสัยว่าอุณากรรณคือบุษบา จึงลาผนวชติดตามเข้าเมืองกาหลังด้วย ระหว่างนั้นกาหลังเกิดศึก ปันหยีและอุณากรรณช่วยรบจนชนะ
ตอนที่ ๑๓ สังคามาระตาเชื่อว่าอุณากรรณคือบุษบา และหลังรักนางกุสุมาคู่หมั้นของตนเอง อุณากรรณลาปันหยีแล้วยกทัพออกจากเมือง และปลีกตัวจากกองทัพไปบวชชี (แอหนัง) พร้อมกับพี่เลี้ยง
ตอนที่ ๑๔ สียะตราออกติดตามหาอิเหนา บุษบาและวิยะดา โดยปลอมเป็นชาวป่าชื่อย่าหรัน
ตอนที่ ๑๕ ระตูมะงาดาให้คนมาลักตัวปันหยีเพื่อจะได้สู่ขอนางสกาหนึ่งรัด ธิดาท้าวกาหลังไปให้อนุชาของตน แต่ลักผิดตัวได้ย่าหรันไปขังไว้
ตอนที่ ๑๖ สังคามาระตาทำอุบายเชิดหนังเป็นเรื่องราวระหว่างอิเหนากับบุษบาตั้งแต่ต้นแอหนังบุษบาเศร้าโศกมาก อิเหนาจึงลักนางบุษบาไปอยู่ร่วมกันในเมืองกาหลัง
ตอนที่ ๑๗ ตอนสุดท้ายสังคามาระตาไปช่วยท้าวประมอตันรบกับระตูล่าสำ และได้ระเด่นกุสุมาซึ่งไปกับกองทัพของอุณากรรณนั้น สียะตราลอบส่งข่าวไปถึงท้าวกุเรปันและท้าวดาหา กษัตริย์ทั้งสองเดินทางมาเมืองกาหลัง และจัดพิธีอภิเษกสมรสระเด่นที่หมั้นกันแล้วทุกคู่ รวมทั้งเชิญจินตะหรามาร่วมพิธีด้วย