• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8b97e5719cce7ba06b050f8c46400947' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"600\" src=\"/files/u20342/topic.jpg\" height=\"153\" style=\"width: 611px; height: 119px\" />\n</p>\n<p align=\"left\" style=\"text-align: center\">\n<a href=\"/node/47659\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/441.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 161px; height: 89px\" /></a><a href=\"/node/47841\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/11.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 159px; height: 87px\" /></a><a href=\"/node/47865\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/333_0.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 146px; height: 90px\" /></a><a href=\"/node/47874\"><img border=\"0\" align=\"top\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/21.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 148px; height: 84px\" /></a>\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"/node/47349\"><img border=\"0\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/1561.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 159px; height: 95px\" /></a><a href=\"/node/47361\"><img border=\"0\" align=\"top\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/199.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 157px; height: 87px\" /></a><a href=\"/node/43463\"><img border=\"0\" align=\"top\" width=\"283\" src=\"/files/u20342/1sss1.jpg\" height=\"139\" style=\"width: 158px; height: 86px\" /></a>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<br />\n<span style=\"color: #333333\"></span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"color: #333333\"></span>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"background-color: #800080\"> <span style=\"background-color: #ffffff\"> ประเพณีสารทเดือนสิบ </span> </span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong> <span style=\"color: #808080\">จังหวัด นครศรีธรรมราช</span></strong> \n</p>\n<p align=\"center\">\n    <img border=\"0\" width=\"200\" src=\"/files/u20342/sart1.jpg\" height=\"150\" />        \n</p>\n<p align=\"center\">\nภาพจาก : <a href=\"http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/448/8448/images/aaaaa.jpg\">http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/448/8448/images/aaaaa.jpg</a>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #ffffff; background-color: #008080\"><strong>ช่วงเวลา</strong></span> </p>\n<p><span style=\"color: #333333\">                    <span style=\"color: #333300\">ระยะเวลาของการประกอบพิธีสารทเดือนสิบมีขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำถึงแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ แต่วันที่ชาวนครศรีธรรมราช<br />\n               นิยมทำบุญคือวันแรม ๑๓-๑๕ ค่ำ</span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333333\"><span style=\"color: #333300\"></span><br />\n </span>\n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #ffffff; background-color: #008080\"><strong>ความสำคัญ<br />\n</strong></span><br />\n           <span style=\"color: #333300\">        </span><span style=\"color: #808080\"><span style=\"color: #333300\"> เป็นความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราช ที่เชื่อว่าบรรพบุรุษอันได้แก่ ปู่ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่<br />\n              ล่วงลับไปแล้ว หากทำความชั่วจะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศ<br />\n              ส่วนกุศลให้แต่ละปีมายังชีพ ดังนั้นในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบ คนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลก<br />\n              มนุษย์เพื่อมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง และจะกลับไปนรกในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ</span></span></p>\n<p>                    ในโอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ยังมีชีวิตอยู่จึงนำอาหารไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว <br />\n              เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #808080\"><span style=\"color: #333300\"><br />\n </span></span>\n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #ffffff; background-color: #008080\"><strong>พิธีกรรม</strong></span></p>\n<p>                 พิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบ มีดังนี้</p>\n<p><span style=\"color: #808000\">                   ๑. การจัดหฺมฺรับ</span></p>\n<p><span style=\"color: #999999\">                      เริ่มในวันแรม ๑๓ ค่ำ ชาวบ้านจะเตรียมซื้ออาหารแห้ง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน <br />\n                   และขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบ จัดเตรียมใส่หฺมฺรับ</span></p>\n<p>                      การจัดหฺมฺรับ คือ การบรรจุและประดับด้วยสิ่งของ อาหาร ขนมเดือนสิบลงในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น ถาด กาละมัง <br />\n                   เข่ง กระเชอ เป็นต้น ชั้นล่างสุดบรรจุอาหารแห้ง ชั้นสองเป็นพืชผักที่เก็บไว้นาน ชั้นสามเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน <br />\n                   ขั้นบนสุด ประดับขนมสัญลักษณ์เดือนสิบ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมแต่ละชนิดมีความหมายดังนี้</p>\n<p>                         ขนมลา เป็นเสมือนเสื้อผ้าที่ให้บรรพบุรุษใช้นุ่งห่ม<br />\n                         ขนมพอง เป็นเสมือนแพที่ให้บรรพบุรุษข้ามห้วงมหรรณพ<br />\n                         ขนมกง เป็นเสมือนเครื่องประดับ ใช้ตกแต่งร่างกาย<br />\n                         ขนมบ้า เป็นเสมือนเมล็ดสะบ้า ไว้เล่นในวันตรุษสงกรานต์<br />\n                         ขนมดีซำ เป็นเสมือนเงินตรา ไว้ให้ใช้สอย</p>\n<p>                   <span style=\"color: #808000\">๒. การยกหฺมฺรับ</span></p>\n<p>                     <span style=\"color: #999999\"> ในวันแรม ๑๔ หรือ ๑๕ ค่ำ ชาวบ้านจะยกหฺมฺรับที่จัดเตรียมไว้ไปวัด และนำภัตตาหารไปถวายพระด้วย โดยเลือก<br />\n                  ไปวัดที่อยู่ใกล้บ้านหรือวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยมไป</span></p>\n<p>                 <span style=\"color: #808000\">  ๓. การฉลองหฺมฺรับและบังสุกุล<br />\n</span><br />\n                     <span style=\"color: #999999\">  เมื่อนำหมฺรับไปวัดแล้ว จะมีการฉลองหฺมฺรับ และทำบุญเลี้ยงพระเสร็จแล้วจึงมีการบังสุกุล การทำบุญวันนี้เป็นการ<br />\n                   ส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องให้กลับไปยังเมืองนรก</span></p>\n<p>                  <span style=\"color: #808000\"> ๔. การตั้งเปรต<br />\n</span><br />\n                    <span style=\"color: #999999\">   เสร็จจากการฉลองหมฺรับและถวายภัตตาหารแล้ว ชาวบ้านจะนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณลานวัด ข้าง<br />\n                   กำแพงวัด โคนไม้ใหญ่ เรียกว่า ตั้งเปรต เพื่อแผ่ส่วนกุศลเป็นทานแก่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีญาติ หรือญาติไม่มาร่วมทำบุญให้ <br />\n                       การชิงเปรตจะทำตอนตั้งเปรตเสร็จแล้ว เพราะเชื่อว่าถ้าหากใครได้กินของเหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จะได้รับ<br />\n                   กุศลเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง<br />\n                       บางวัดนิยมสร้างหลาเปรต เพื่อสะดวกแก่การตั้งเปรต บางวัดสร้างหลาเปรตไว้บนเสาสูงเพียงเสาเดียว เกลาและ<br />\n                   ชะโลมน้ำมันเสาจนลื่น เมื่อเวลาชิงเปรตผู้ชนะคือผู้ที่สามารถปีนไปถึงหลาเปรตซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึง<br />\n                   สนุกสนานและตื่นเต้น</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #999999\"><br />\n </span>\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #ffffff; background-color: #008080\"><strong>สาระ<br />\n</strong></span><br />\n    <span style=\"color: #333300\">           </span><span style=\"color: #808080\"><span style=\"color: #333300\"> ประเพณีสารทเดือนสิบมีสาระสำคัญหลายประการ ดังนี้</span></span></p>\n<p>           ๑. เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ที่ได้อบรมเลี้ยงดูลูกหลาน เพื่อตอบแทนบุญคุณ ลูกหลาน<br />\n                จึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้<br />\n           ๒. เป็นโอกาสได้รวมญาติที่อยู่ห่างไกล ได้พบปะทำบุญร่วมกันสร้างความรักใคร่สนิทสนมในหมู่ญาติ<br />\n           ๓. เป็นการทำบุญในโอกาสที่ได้รับผลผลิตทางการเกษตรที่เริ่มออกผลเพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว<br />\n           ๔. ฤดูฝนในภาคใต้จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนสิบ พระภิกษุสงฆ์บิณฑบาตยากลำบาก ชาวบ้านจึงจัดเสบียงอาหารนำไปถวายพระ<br />\n                ในรูปของหฺมฺรับ ให้ทางวัดได้เก็บรักษาเป็นเสบียงสำหรับพระภิกษุสงฆ์ในฤดูฝน \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n', created = 1728361888, expire = 1728448288, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8b97e5719cce7ba06b050f8c46400947' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ประเพณีสารทเดือนสิบ


  ประเพณีสารทเดือนสิบ  

 จังหวัด นครศรีธรรมราช 

            

ภาพจาก : http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/448/8448/images/aaaaa.jpg

 

           ช่วงเวลา

                    ระยะเวลาของการประกอบพิธีสารทเดือนสิบมีขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำถึงแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ แต่วันที่ชาวนครศรีธรรมราช
               นิยมทำบุญคือวันแรม ๑๓-๑๕ ค่ำ


 

           ความสำคัญ

                    เป็นความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราช ที่เชื่อว่าบรรพบุรุษอันได้แก่ ปู่ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่
              ล่วงลับไปแล้ว หากทำความชั่วจะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศ
              ส่วนกุศลให้แต่ละปีมายังชีพ ดังนั้นในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบ คนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลก
              มนุษย์เพื่อมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง และจะกลับไปนรกในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ

                    ในโอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ยังมีชีวิตอยู่จึงนำอาหารไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
              เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที


 

           พิธีกรรม

                 พิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบ มีดังนี้

                   ๑. การจัดหฺมฺรับ

                      เริ่มในวันแรม ๑๓ ค่ำ ชาวบ้านจะเตรียมซื้ออาหารแห้ง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
                   และขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบ จัดเตรียมใส่หฺมฺรับ

                      การจัดหฺมฺรับ คือ การบรรจุและประดับด้วยสิ่งของ อาหาร ขนมเดือนสิบลงในภาชนะที่เตรียมไว้ เช่น ถาด กาละมัง
                   เข่ง กระเชอ เป็นต้น ชั้นล่างสุดบรรจุอาหารแห้ง ชั้นสองเป็นพืชผักที่เก็บไว้นาน ชั้นสามเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน
                   ขั้นบนสุด ประดับขนมสัญลักษณ์เดือนสิบ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมแต่ละชนิดมีความหมายดังนี้

                         ขนมลา เป็นเสมือนเสื้อผ้าที่ให้บรรพบุรุษใช้นุ่งห่ม
                         ขนมพอง เป็นเสมือนแพที่ให้บรรพบุรุษข้ามห้วงมหรรณพ
                         ขนมกง เป็นเสมือนเครื่องประดับ ใช้ตกแต่งร่างกาย
                         ขนมบ้า เป็นเสมือนเมล็ดสะบ้า ไว้เล่นในวันตรุษสงกรานต์
                         ขนมดีซำ เป็นเสมือนเงินตรา ไว้ให้ใช้สอย

                   ๒. การยกหฺมฺรับ

                      ในวันแรม ๑๔ หรือ ๑๕ ค่ำ ชาวบ้านจะยกหฺมฺรับที่จัดเตรียมไว้ไปวัด และนำภัตตาหารไปถวายพระด้วย โดยเลือก
                  ไปวัดที่อยู่ใกล้บ้านหรือวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยมไป

                   ๓. การฉลองหฺมฺรับและบังสุกุล

                       เมื่อนำหมฺรับไปวัดแล้ว จะมีการฉลองหฺมฺรับ และทำบุญเลี้ยงพระเสร็จแล้วจึงมีการบังสุกุล การทำบุญวันนี้เป็นการ
                   ส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องให้กลับไปยังเมืองนรก

                   ๔. การตั้งเปรต

                       เสร็จจากการฉลองหมฺรับและถวายภัตตาหารแล้ว ชาวบ้านจะนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณลานวัด ข้าง
                   กำแพงวัด โคนไม้ใหญ่ เรียกว่า ตั้งเปรต เพื่อแผ่ส่วนกุศลเป็นทานแก่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีญาติ หรือญาติไม่มาร่วมทำบุญให้
                       การชิงเปรตจะทำตอนตั้งเปรตเสร็จแล้ว เพราะเชื่อว่าถ้าหากใครได้กินของเหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จะได้รับ
                   กุศลเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
                       บางวัดนิยมสร้างหลาเปรต เพื่อสะดวกแก่การตั้งเปรต บางวัดสร้างหลาเปรตไว้บนเสาสูงเพียงเสาเดียว เกลาและ
                   ชะโลมน้ำมันเสาจนลื่น เมื่อเวลาชิงเปรตผู้ชนะคือผู้ที่สามารถปีนไปถึงหลาเปรตซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึง
                   สนุกสนานและตื่นเต้น


 

          สาระ

                ประเพณีสารทเดือนสิบมีสาระสำคัญหลายประการ ดังนี้

           ๑. เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ที่ได้อบรมเลี้ยงดูลูกหลาน เพื่อตอบแทนบุญคุณ ลูกหลาน
                จึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
           ๒. เป็นโอกาสได้รวมญาติที่อยู่ห่างไกล ได้พบปะทำบุญร่วมกันสร้างความรักใคร่สนิทสนมในหมู่ญาติ
           ๓. เป็นการทำบุญในโอกาสที่ได้รับผลผลิตทางการเกษตรที่เริ่มออกผลเพราะเชื่อว่าเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
           ๔. ฤดูฝนในภาคใต้จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนสิบ พระภิกษุสงฆ์บิณฑบาตยากลำบาก ชาวบ้านจึงจัดเสบียงอาหารนำไปถวายพระ
                ในรูปของหฺมฺรับ ให้ทางวัดได้เก็บรักษาเป็นเสบียงสำหรับพระภิกษุสงฆ์ในฤดูฝน

 

 

 


 

สร้างโดย: 
นาย ชาญชัย เปี่ยมชาคร และ นางสาว วรวีณ มะสำอินทร์ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพฯ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 349 คน กำลังออนไลน์