สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดสุโขทัย
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดสุโขทัย
ศาลพระแม่ย่า
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192467578.jpg
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192467607.jpg
อยู่หน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ซึ่งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม มีถนนนิกรเกษมเป็นถนนเลียบฝั่ง เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ ชาวเมืองสุโขทัยและชาวไทยในถิ่นอื่นให้ความเคารพสักการะบูชามาช้านาน
พระแม่ย่า คือเทวรูปสลักหินชนวนที่ชาวสุโขทัยเคารพนับถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง เดิมประดิษฐานอยู่ที่ถ้ำแม่ย่า ในเขตเทือกเขาหลวง บริเวณหมู่บ้านโว้งบ่อ อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ถ้ำแม่ย่าเป็นเพิงชะโงกเงื้อมออกมาทางใต้ ลึก 3 เมตร องค์พระแม่ย่าหันไปทางทิศใต้ ตามเงื้อมเขาที่ยื่นล้ำออกมา หลังเงื้อมผามีถ้ำตื้นๆ องค์พระแม่ย่าสลักด้วยหินชนวนเป็นรูปสตรี มีเครื่องประดับอย่างสตรีโบราณสูงศักดิ์ ประทับยืนตรง แขนทั้งสิงข้างแนบกาย ทรงภูษาปล่อยชายไสวเป็นเชิงชั้นทั้งสิงข้าง ไม่สวมเสื้อหรือสไบ ใส่กำไลต้นแขน กำไลข้อมือและกำไลข้อเท้าทั้งสองข้าง สวมฉลองพระบาทปลายงอน พระพักตร์ยาว พระหนุเสี้ยม ส วมมงกุฎเป็นชฎาทรงสูง ยอดศิลาส่วนเหนือมงกุฎแตกบิ่นหายไปเล็กน้อย ขนาดของพระรูปรวมแท่นหินจำหลักอยู่ในแผ่นหินเดียวกันมีความสูง 52 นิ้ว
ประวัติของพระแม่ย่านั้น ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าเป็นใคร แต่ชาวสุโขทัยส่วนใหญ่เข้าใจว่า คือ นางเสือง พระราชชนนีของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ในสมัยนั้นกษัตริย์เปรียบเสมือนพ่อของคนทั้งเมือง ไพร่ฟ้าประชาชนเปรียบประดุจลูก จึงเรียกมารดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชว่า "ย่า" การเรียกชื่อถ้ำแม่ย่า เขาแม่ย่า ชาวสุโขทัยจึงเรียกตามความเชื่อดังกล่าว
ในปี พ.ศ. 2457 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือ ทรงรับสั่งให้พระยารามราชภักดี เจ้าเมืองสุโขทัยสมัยนั้น อัญเชิญพระแม่ย่ามาไว้บนศาลากลาง (หลังเดิมปัจจุบันถูกรื้อทิ้งไปแล้ว) นอกจากนี้ยังมีการอัญเชิญย้ายไปประดิษฐาน ณ ศาลากลางอำเภอสวรรคโลกระยะหนึ่ง เพราะในช่วงเวลานั้นทางราชการได้ตั้งเมืองสวรรคโลกเป็นจังหวัดสุโขทัยแทน ต่อมาเมื่อเปลี่ยนสุโขทัยเป็นจังหวัด จึงอัญเชิญพระแม่ย่ากลับมาไว้ที่เมืองสุโขทัยตามเดิม
ในปี พ.ศ. 2496 นายเชื่อม ศิริสนธิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยในสมัยนั้นได้ดำริให้สร้างศาลพระแม่ย่า เพื่อประดิษฐานองค์พระแม่ย่าอย่างถาวร โดยเลือกทำเลที่ตั้งบริเวณฝั่งแม่น้ำยมฝั่งตะวันออก บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เรียกว่า ศาลพระแม่ย่า ต่อมามีการจำลององค์พระแม่ย่าให้ประชาชนได้สักการะและปิดทองแทนองค์จริง เพื่ออนุรักษ์องค์จริงไว้ไม่ให้ชำรุด
ศาลพระแม่ย่าได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง และได้รับการจัดสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2537 สมัยที่นายเกียรติพันธ์ น้อยมณี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระดำเนินมาวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2537 และดำเนินการก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2541 สมัยที่นายประพันธ์ ชลวีระวงศ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มีการทำพิธีอัญเชิญพระแม่ย่าเข้าประดิษฐาน ณ ศาลพระแม่ย่าแห่งใหม่เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2541
พระพุทธอุทยานสุโขทัย
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192468017.jpg
ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ลักษณะอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบปรางค์ห้ายอด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย (จำลอง) ขนาดเล็กกว่าองค์จริงที่มีพุทธลักษณะงดงามจำนวน 9 องค์ โดยเป็นความคิดริเริ่มของนายนรินทร์ พานิชกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยในขณะนั้น เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบหกรอบ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยมีพิธีเททองหล่อองค์พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย (จำลอง) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 ในงานประเพณีลอยกระทง พระพุทธรูป 9 องค์ นี้แต่เดิมเคยประดิษฐานอยู่ที่วัดต่างๆ ในจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดพิษณุโลก และต่อมาได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดต่างๆในกรุงเทพ และจังหวัดนครปฐม จึงเรียกพระพุทธรูปจำลองทั้ง 9 องค์นี้ว่า "9 พระพุทธสุดแผ่นดิน"
บ้านทุ่งหลวง
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192469796.jpg
เป็นหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอคีรีมาศ เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาประเภทโอ่งและหม้อน้ำมาตั้งแต่สมัยโบราณ เครื่องปั้นดินเผาที่บ้านทุ่งหลวงเป็นดินเผาแบบไม่เคลือบ เมื่อเผาแล้วจะมีสีแดง ต่อมามีการพัฒนารูปแบบขึ้น เช่น โคมไฟฉลุ หม้อฉลุ หม้อลายพญานาค รูปปั้นพระอภัยมณี คุณยายตี๋ เฮงสกุล เป็นผู้ที่ทำให้เครื่องปั้นดินเผาบ้านทุ่งหลวง เป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลาย ผลงานของคุณยายตี๋เป็นงานที่แปลกจากรูปแบบเดิม โดยปั้นรูปสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น นก ไก่ และปั้นจากจินตนาการสร้างสรรค์ เช่น กินรี เป็นต้น ผลงานเครื่องปั้นดินเผาของคุณยายตี๋ได้รับรางวัลดีเด่นจากงานประกวดเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติครั้งที่ 4 เมื่อปีพ.ศ. 2528 และรางวัลอื่นๆ อีก หลายครั้ง
คุณยายตี๋ เฮงสกุล ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2542 แต่ผลงานของคุณยายตี๋ก็คงเป็นที่นิยมเสาะหาสะสมกันในหมู่ผู้รักงานเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้าน
วัดทุ่งเสลี่ยม
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192470111.jpg
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192470136.jpg
เป็นวัดที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อศิลา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินทราย ปางนาคปรก ที่งดงามองค์หนึ่ง ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเสลี่ยม หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2461 ได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2482
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่ทางวัดทุ่งเสลี่ยมจัดงานสักการะหลวงพ่อศิลา ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพุทธศาสนิกชน จากอำเภอทุ่งเสลี่ยม และจากอำเภอต่างๆ ทั่วทุกจังหวัดมาร่วมงานสักการะหลวงพ่อศิลาเป็นจำนวนมาก ในงานจะมีขบวนแห่ครัวทาน ขบวนพานพุ่มที่สวยงาม
วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192470585.jpg
อยู่ติดกับแม่น้ำยม ตำบลเมืองสวรรคโลก อำเภอสวรรคโลก วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร ได้รับการสถาปนาขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2338 โดยพระยาวิชิตภักดี (นาค) ผู้ครองเมืองสวรรคโลกในสมัยนั้น ได้บริจาคที่ดินจำนวน 42 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่สร้างวัด พร้อมทั้งบริจาคเรือนพักหรือ จวน ให้เป็นเสนาสนะสงฆ์ (ที่อยู่อาศัย) ด้วย เหตุนี้ประชาชนจึงเรียกว่า วัดจวน
วัดสว่างอารมณ์วรวิหารได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อประมาณ พ.ศ. 2330 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ติดต่อกันมา ทั้งจากผู้ครองเมืองสวรรคโลก (คือ ตระกูล วิชิตนาค ในปัจจุบัน) ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และผู้มีจิตศรัทธา
ปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธเรืองฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2.30 เมตร สูง 2.80 เมตร มีพุทธลักษณะสวยงามมาก แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง (วัดพระปรางค์) เมืองสวรรคโลกเก่า (อำเภอศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน) ต่อมาพระยาวิชิตภักดี (นาค) สร้างวัดสว่างอารมณ์เสร็จแล้วได้อัญเชิญมาประดิษฐาน มาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ความสำคัญอีกประการหนึ่งของวัดสว่างอารมณ์วรวิหาร คือ ในระหว่างปี พ.ศ. 2372 - 2475 เป็นวัดที่เจ้าเมืองและกรมการเมืองสวรรคโลกกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ณ เบื้องพระพักตร์พระพุทธเรืองฤทธิ์ ในเทศกาลตรุษไทยและสารทไทย ปีละ 2 ครั้ง
วัดพิพัฒน์มงคล
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192471037.jpg
ตั้งอยู่ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม สิ่งที่น่าสนใจคือเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ เรียกว่า พุทธสุโขโพธิ์ทอง ทำด้วยทองคำแท้หนัก 9 กิโลกรัม อายุราว 500 ปี เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ยุคกลาง ประทับนั่งปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 22.5 เซนติเมตร ภายในวัดมีเนื้อที่กว้างขวางจัดเป็นอุทยานการศึกษา และเป็นสถานที่ฝึกอบรมพัฒนาจิต
สวนหลวงเฉลิมพระเกียรติ
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192471322.jpg
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192471337.jpg
ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลป่ากุมเกาะ อำเภอสวรรคโลก เดิมเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ทั้งหมด 830 ไร่ แบ่งเป็นพื้นน้ำ 645 ไร่ พื้นดิน 185 ไร่ ลักษณะเป็นเกาะน้ำล้อมรอบด้วยภูเขาทางทิศเหนือและทิศตะวันตก มองเห็นทิวทัศน์งดงาม ภายในสวนหลวงเฉลิมพระเกียรติจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวนา แหล่งแสดงพันธ์ปลา สวนมหาสนุก
วัดบ้านซ่าน
http://www.siamfreestyle.com/forum_classic/uploads/post-1-1192471669.jpg
อยู่ที่ตำบลบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ที่น่าสนใจคือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น 3 องค์ ซึ่งมีลักษณะงดงาม ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า พระสามพี่น้อง เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดโบสถ์ เมืองบางขลัง (อำเภอสวรรคโลก ในปัจจุบัน) ประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดขบวนแห่องค์พระไปที่เมืองบางขลัง เสร็จแล้วแห่กลับวัดบ้านซ่าน มีการสรงน้ำและงานมหรสพสมโภช พระพุทธรูปสามองค์นี้จะประดิษฐานเรียงลำดับจากองค์ล่าง องค์กลาง และองค์บนสุด ดังนี้
องค์ที่ 1 พระพุทธรูปสำริด สีออกทองแดง ปางมารวิชัย เกศมาลาเป็นลักษณะเปลวเพลิง ผ้าพาดพระอังสะยาวจรดพระนาภี นิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวเป็นธรรมชาติ แท่นประดิษฐานสูง 7 เซนติเมตร มีอักษรสมัยสุโขทัยจารึกไว้ ถอดได้ความว่า "เจ้ารามลูก" สร้างไว้ให้ได้ปรารถนาได้นิพพาน ขนาดองค์พระสูง 106 เซนติเมตร กว้าง 77 เซนติเมตร
องค์ที่ 2 พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย เกศมาลากนกเพลิง พระศอเป็นรอยหยัก 3 เส้น ผ้าพาดพระอังสะจรดพระนาภี ปลายผ้าด้านหลังม้วนเป็น 3 หยักก้นหอย นิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวเป็นธรรมชาติ แท่นประดิษฐานชำรุด ขนาดองค์พระสูง 141 เซนติเมตร กว้าง 110 เซนติเมตร
องค์ที่ 3 พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย เกศมาลาเป็นกนกเพลิง ผ้าพาดพระอังสะยาวจรดพระนาภี ปลายตัดตรงทบผ้า 3 ชั้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวเป็นธรรมชาติ แท่นประดิษฐานสูงประมาณ 7 เซนติเมตร เป็นแท่นโค้งไปตามองค์พระพุทธรูป สภาพองค์พระสมบูรณ์มาก ขนาดสูงจากพื้นจดปลายเกศ 113 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 87 เซนติเมตร