การฟื้นฟูปรับปรุงชาติบ้านเมือง
การฟื้นฟูปรับปรุงชาติบ้านเมือง
ที่มาของรูปภาพ : http://www.bloggang.com/data/travelaround/picture/1194167171.jpg
การฟื้นฟูชาติบ้านเมืองในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้กระทำในทุกๆด้าน ดังนี้
1) การดำเนินการด้านการบ้านเมือง
1.1 การสงครามกับพม่า ในสมันรัตนโกสินทร์ไทยทำสงครามกับพม่ารวม 10 ครั้ง ในรัชกาลที่ 1 มีถึง 7 ครั้ง เนื่องจากพระเจ้าปะดุงกษัตริย์ของพม่าเห็นว่าไทยกำลังก่อตั้งอาณาจักรใหม่ สงครามที่เด่นๆ ได้แก่
2) ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
2.1 ความสัมพันธ์กับล้านนาไทย ล้านนาไทยประกอบ้วยเมืองเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ฝาง น่าน เชยงแสน และหัวเมืองเล็กๆ ทางภาคเหนือของไทย ในสมันรัตนโกสินทร์ตอนต้นล้านนาอยู่ในฐานะประเทศราชของไทย มีหน้าที่ช่วยราชการสงครามตามที่ไทยกำหนด และส่งเครื่องราชบรรณาการ ให้กรุงเทพมหานคร 3 ปีครั้งหนึ่ง
2.2 ความสัมพันธ์กับหัวเมืองมลายู หัวเมืองมลายู ได้แก่ ปัตตานี ไทรบุรี กลันตัน และตรังกานู อยู่ในฐานะประเทศราชของไทย ในช่วงสมันรัชกาลที่ 1-3 มีการก่อกบฏในหัวเมืองมลายู หลายครั้งแต่ไทยก็สามารถปราบได้ทุกครั้ง
2.3 ความสัมพันธ์กับอาณาจักรลาว ลักษณะของอาณาจักรลาวแยกออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ลาวตอนเหนือมีศูนย์กลางอยู่ที่หลวงพระบาง ลาวตอนล่างมีศูนย์กลางที่เมืองจำปาศักดิ์ และลาวตอนกลางมีศูนย์กลางอยู่ที่เวียงจันทน์ แต่ละเมืองมีอำนาจปกครองตนเอง และตกอยู่ใต้อำนาจของไทยมาตั้งแต่สมัยธนบุรี
ถึงรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯให้เจ้านันทเสนไปปกครองเวียงจันทน์ และได้พระราชทานพระพุทธรูป พระบาง ที่ยึดมานั้นคืนไปด้วย (แต่พระแก้ว ยังคงรักษาไว้ที่กรุงเทพฯจนถึงทุกวันนี้) ต่อมาเจ้านันทเสรเป็นกบฏ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 จึงให้นำไปประหารชีวิต และให้เจ้าอินทร์ปกครองแทน เมื่อเจ้าอินทร์ถึงแก่พิราลัย จึงโปรดเกล้าฯให้เจ้าอนุวงศ์ครองเมืองเวียงจันทน์
ถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เจ้าเมืองจำปาศักดิ์เป็นกบฏ เจ้าราชบุตรซึ่งเป็นราชบุตรของเจ้าอนุวงศ์ ยกทัพไปปราบได้สำเร็จ จึงโปรดเกล้าฯให้เจ้าราชบุตรเป็นเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ ทำให้เต้าอนุวงศ์มีกำลังกล้าแข็ง เพราะควบคุมได้ทั้งลาวตอนกลางและตอนใต้
ถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีข่าวลือว่าไทยขัดใจกับอังกฤษ เจ้าอนุวงศ์เห็นเป็นโอกาส จึงยกทัพเข้ามาตีดินแดนของไทย ขณะที่กองทัพเจ้าอนุวงศ์ถึงเมืองนครราชสีมานั้น ปลัดเมืองนครราชสีมาติดราชการอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงยึดได้โดยง่านและกวาดต้อนผู้คนทรัพย์สินต่างๆ แต่ระหว่างทางที่พักอยู่ ณ ทุ่งสำริด คุณหญิงโม ภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมาออกอุบาย เลีเยงสุราอาหารแก่นายทหาร ไพร่พลลาว พอได้โอกาสชายหญิงชาวไทยที่ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยก็ลุกขึ้นใช้อาวุธมีดทำครัว และไม้หลาว ไม้พลอง จู่โจม ฆ่าฟัรทหารลาวโดยไม่ทันรู้ตัวบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากจึงแตกทัพหนีไป
วีรกรรมของคุณหญิงโมครั้งนี้ ภายหลังเมื่อเสร็จศึกแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นท้าวสุรนารี
เมื่อกองทัพเจ้าอนุวงศ์แตกพ่ายกลับไปแล้วรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้จัดทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ และจัับเจ้าอนุวงศ์มาจำกัดที่กรุงเทพฯ หน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ประชาชนไทยพากันสาปแช่งเจ้าอนุวงศ์ทนอยู่ได้ 7-8 วันก็ป่วยตาย เป็นอันสิ้นสุดกบฏครั้งสำคัญของอาณาจักรลาว
2.4 ความสัมพันธ์กับเขมร เขมรตกเป็นประเทศราชของไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่คราวใดที่ไทยประสบกับปัญหาภายในราชอาณาจักร เขมรมักจะตั้งตนเป็นอิสระไม่ยอมอ่อนน้อมต่อไทย
ครั้นถึงรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ไทยสามารถปกครองเขมรได้อีกโดยแบ่งเขมรเป็น 2 ส่วน ให้เจ้านายเขมรปกครองส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่ง คือ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ ขุนนางไทยปกครอง
ครั้นถึงสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเขมร เสื่อมลงเรื่อยมา จนถึงรัชกาลที่ 3 ญวนเข้ามาแทรกแซงเขมร ทำให้ไทยกับญวนต้่องทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงดินแดนเขมร ส่วนเขมรต้องส่งเครื่องราชบรรณาการใ้ห้ทั้งฝ่ายไทยและญวนในเวลาเดียวกัน
2.5 ความสัมพันธ์กับญวน ในสมัยรัชกาลที่ 1 เกิดกบฏไกเซินขึ้นในญวน เจ้านายญวนองค์หนึ่ง คือ องเชียงลือ ได้หนีเข้ามาพึ่งได้ และได้รับการชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี ไทยได้ส่งทัพไปช่วยปรากบฏในญวนแต่ไม่สำเร็จ องเชียงสือจึงหนีไปของความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส และได้กลับไปเป็นกษัตริย์ในญวนทรงพระนามว่า พระเจ้ายาลอง ตลอดรัชกาลของพระเจ้ายาลอง ญวนขอเป็นไมตรีกับไทย
สมัยรัชกาลที่ 2 ญวนเริ่มเข้าแทรกแซงเขมรซึ่งเป็นประเทศราชของไทย
สมัยรัชกาลที่ 3 ญวนได้สนับสนุนให้เจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรลาวก่อกบฏต่อไทย นอกจากนี้ญวนยังขัดแย้งกับไทย ในเรื่องปัญหาการเมืองในเขมร ทำให้เกิดสงครมระหว่างไทยกับญวนเป็นเวลานานถึง 15 ปี จนในที่สุดเลิกรากันเมื่อญวนตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส