นิทานพื้นบ้าน
ในคืนนั้นพร้อมกับเนรมิตความร่ำรวยให้ครอบครัวนี้ จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
ยังมีอีกครอบครัวหนึ่ง มีลูกสาวชื่อ นางกะเดิบซลา เมื่อแม่ของนางกะเดิบซลาได้ยินเรื่องนี้เข้า
ก็เกิดความอิจฉาและอยากร่ำรวยกับเขาบ้าง จึงแวะเวียนไปบ้านนางกะเดิบโดง ฝ่ายแม่ของนางกะเดิบโดง
ก็เล่าความจริงทั้งหมดให้ฟังแม่ของนางกะเดิบซลา เมื่อกลับมาถึงบ้านก็คว้าเสียม ตะกร้าไปหาหน่อไม้
ในใจก็คิดถึงความร่ำรวยตลอดทาง อยากได้เขยรูปงามให้ผู้คนร่ำลือเหมือนแม่นางกะเดิบโดงบ้าง
เมื่อไปถึงป่าไผ่ นางก็เอาเสียมไปเสียบไว้กับกอไผ่กอเดิมที่แม่นางกะเดิบโดงทำเสียมติด แล้วนางก็ทำทีร้องหาคนช่วย
เอาเสียมออกจากกอไผ่ให้ แล้วนางจะยกลูกสาวให้ นางร้องเกือบทั้งวันก็ไม่มีใครมาช่วยใกล้ค่ำนางเกือบหมดความอดทน
ก็มีงูใหญ่ตัวหนึ่งอาสาจะเอาเสียมให้นาง นางดีใจมากบอกว่าให้รีบไปบ้าน นางจะทิ้งเปลือกหน่อไม้ไว้เป็นที่
สังเกตตลอดจนถึงบ้าน แม่นางกะเดิบซลาดีใจรีบกลับบ้านแล้วบอกแก่นางกะเดิบซลา ให้เตรียมตัวรับว่าที่ผัวงู
นางกะเดิบซลาเป็นคนดี แต่ขัดใจแม่ไม่ได้ จึงจำใจต้องทำตามผู้เป็นแม่คืนนั้นงูตัวใหญ่มาที่บ้านนางกะเดิบซลา
แม่ของนางดีใจ รีบพาเข้าห้องลูกสาว กำชับให้ปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อย ส่วนตัวเองจะเข้านอนคอยเงี่ยหูฟังสถานการณ์
สักพักหนึ่งได้ยินเสียงนางกะเดิบซลาร้องบอกว่า งูใหญ่ได้กลืนข้อเท้าตนเองแล้ว แม่นางกะเดิบซลาได้ยินดังนั้น
ก็ให้ขัดเคืองยิ่งนัก นางตะคอกให้ลูกเงียบ เพียงสามีหยอกเล่นนิดหน่อยก็ทำกระโตกกระตากให้คนอื่นรู้
สักครูหนึ่งนางกะเดิบซลา ก็ร้องดังขึ้นอีกว่า งูได้กลืนมาถึงเอวแล้ว แม่นางก็บอกให้เงียบ สักพักนางกะเดิบซลา
ก็ร้องอีกว่างูกลืนนางถึงคอแล้ว แม่ของนางก็บอกให้เงียบรุ่งเช้าแม่นางกะเดิบซลา ตื่นหุงหาอาหารจนสายก็ยังไม่เห็นลูกสาว
และลูกเขยออกจากห้อง จึงเอะใจเคาะประตูไม่มีใครตอบ จึงลงเดินไปหารอบๆบ้าน เห็นงูใหญ่ท้องป่อง
เนื่องจากกลืนนางกะเดิบซลา ไปขดตัวอยู่ในสวนหม่อนหลังบ้านนางตกใจสุดขีดร้องให้ชาวบ้านมาช่วยฆ่างูผ่าท้องช่วย
นางกะเดิบซลาออกมาได้ เรื่องนี้เป็นที่ซุบซิบนินทาของคนในหมู่บ้านสร้างความอับอายแกนางกะเดิบซลาเป็นอย่างมาก
นางบอกกับแม่ของนางว่า ขอตัวไปอาบน้ำล้างเมือกงู ที่กลืนนางออก แม่นางให้น้องชายคนเดียวของนางตาม
ไปเป็นเพื่อนด้วยนางกะเดิบซลาคว้าขันน้ำ และถูกผ้าเดินออกจากหมู่บ้านหาแหล่งน้ำชำระล้างร่างกายผ่านหนองน้ำใหญ่
น้องชายของนางให้นางลงอาบล้างที่หนองนั้น แต่นางว่าน้ำน้อยไปล้างเมือกออกไม่หมดหรอก จึงพากันเดินต่อไป
ผ่านอีกห้วย บึง แม่น้ำ ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของนาง บุกป่าฝ่าทุ่งหลายวันหลายคืน จนมาถึงมหาสมุทรใหญ่
นางบอกให้น้องชายหยุดรอที่ชายฝั่ง ส่วนนางจะลงไปอาบน้ำล้างคราบเมือกงูออก นางคว้าขันเดินลงไปในน้ำเรื่อยๆ
จนลึกถึงคอ เมื่อนางเดินลึกถึงปลายคาง นางเอาขันครอบหัว แล้วมุดน้ำหายไป ไม่ยอมโผล่มาอีกเลย
น้องชายของนางรออยู่เป็นนาน ก็ไม่เห็นพี่สาวโผล่มาสักที จึงเดินร้องให้กลับบ้าน พร้อมกับบอกเรื่องราวให้
แม่ของนางกะเดิบซลาทราบ นางเสียใจและรู้สึกผิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสายเกินไปเสียแล้ว นางกะเดิบซลา
ที่หายไปในมหาสมุทร ได้ลายเป็นนางเงือก อาศัยอยู่ในมหาสมุทรไม่ยอมพบผู้คนด้วยความอายตราบเท่าทุกวันนี้
ที่มา http://www.oknation.net/blog/wongsangam/2008/06/06/entry-1