ตับอ่อน (Pancreas)
ตับอ่อน (Pancreas)
ที่มา:http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/images/ency/fullsize/17151.jpg
ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์เป็นกลุ่มเซลล์เล็ก ๆ จำนวนมากที่อยู่กระจัดกระจายระหว่างต่อมสร้างน้ำย่อยในตับอ่อน ไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์ประกอบด้วยกลุ่มเซลล์ 2 ชนิด กลุ่มเซลล์ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 คือ เบตาเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตและหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) ส่วนกลุ่มเซลล์อีกกลุ่มคือ แอลฟาเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่ผลิต และหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน (glucagon)
http://www.shands.org/health/graphics/images/en/13990.jpg
อินซูลิน
เป็นสารจำพวกพอลิเพปไทด์ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 51 โมเลกุล มีบทบาทเกี่ยวข้องกับเมทาบอลิซึมของกลูโคส ได้แก่
ที่มา:http://coachrouse.files.wordpress.com/2009/02/insulin.jpg?w=199&h=300
1. เพิ่มอัตรากการหายใจของเซลล์โดยการสลายกลูโคสเป็นพลังงาน
2. เพิ่มการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อ และเซลล์ไขมัน
3. เพิ่มการเก็บสะสมกลูโคสในรูปไกลโคเจนในเซลล์ตับ และเซลลล์กล้ามเนื้อ
กลูคากอน
เป็นสารจำพวกพอลิเพปไทด์ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 29 โมเลกุล มีบทบาทเกี่ยวข้องกับเมทาบอลิซึมของกลูโคส ได้แก่
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b8/Glucagon_rednblue.png
1. เพิ่มการสลายไกลโคเจนในเซลล์ตับให้เป็นกลูโคส
2. เพิ่มการสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโน และกรดไขมัน
อินซูลินและกลูคากอนจะออกฤทธิ์ตรงกันข้าม โดยอินซูลินจะทำให้ระดับกลูโคสในเลือดลดลงแต่กลูคากอนจะทำให้ระดับน้ำตาลใน เลือดเพิ่มมากขึ้น เช่น ภายหลังรับประทานอาหารจะทำให้เบตาเซลล์หลั่งอินซูลินเพิ่มมากขึ้น อินซูลินจะทำให้มีการสลายกลูโคส
2. เพิ่มการสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโน และกรดไขมัน
อินซูลินและกลูคากอนจะออกฤทธิ์ตรงกันข้าม โดยอินซูลินจะทำให้ระดับกลูโคสในเลือดลดลงแต่กลูคากอนจะทำให้ระดับน้ำตาลใน เลือดเพิ่มมากขึ้น เช่น ภายหลังรับประทานอาหารจะทำให้เบตาเซลล์หลั่งอินซูลินเพิ่มมากขึ้น อินซูลินจะทำให้มีการสลายกลูโคส