มงคลที่ 24 มีความสันโดษ
มงคลที่ 24 มีความสันโดษ
แหล่งที่มา : http://www.tlcthai.com/club/view_topic.php?club=Budha_page
&club_id=1078&table_id=1&cate_id=453&post_id=6864
ความสันโดษ พอใจ ในสิ่งของ
เช่นเงินทอง ของตน แม้ล้นหลาย
เมื่อมีน้อย จ่ายน้อย ค่อยสบาย
ความจนหาย เลยลับ กลับมั่งมี
แหล่งที่มา : http://www.kmitl.ac.th/buddhist/tumma/
สันโดษคืออะไร ?
สันโดษ มาจากภาษาบาลีว่า สันโตสะ สัน แปลว่า ตน โตสะ แปลว่า ยินดี สันโดษจึงแปลว่ายินดี ชอบใจ พอใจ อิ่มใจ จุใจ สุขใจ
กับของของตน ความหมายโดยย่อคือให้รู้จักพอ รู้จักประมาณ
เรื่องสันโดษนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่มีผู้เข้าใจผิดกันมาก เข้าใจกันว่าสันโดษทำให้ยากจนบ้างละ เข้าใจว่าสันโดษทำให้เกียจคร้านบ้างละ
เข้าใจว่าสันโดษขัดขวางความเจริญบ้างละ ขอให้เรามาพิจารณากันต่อไปว่า ความเข้าใจของคนทั้งหลายนั่นเป็นจริงหรือไม่
ลักษณะสันโดษที่แท้จริงเป็นอย่างไร มีคุณหรือโทษ
ลักษณะของความสันโดษ
ความยินดี ความสุขใจ ความพอใจ ดังได้กล่าวมาแล้วนั้น ที่จัดว่าเป็นสันโดษ ต้องมีลักษณะ 3 อย่างดังต่อไปนี้ คือ
1.สเกนสันโดษ ยินดีตามมี
2.สันเตนสันโดษ ยินดีตามได้
3.สเมนสันโดษ ยินดีตามควร
ยินดีตามมี หมายถึง ยินดีกับของที่ตนมีอยู่แล้ว พอใจกับของของตนไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเรา ลูกเมียของเรา งานของเรา
ประเทศชาติของเรา ถึงจะมีข้อบกพร่องอย่างไร ก็ค่อยๆ แก้ไขกันไปให้ดีขึ้น แต่ไม่คิดไขว่คว้าแย่งชิงเอาของคนอื่นเขามา
ช่างซ่อมรองเท้าริมถนนมีความพอใจในงานของตน ตั้งใจทำงานด้วยความขยันขันแข็ง รอบคอบ ละเอียดลออ เป็นที่ติดใจของลูกค้า
สามารถเก็บหอมรอมริบทีละเล็กละน้อย จนตั้งตัวไ ได้กิจการขยายใหญ่โตก็มีตัวอย่างให้เห็น
บุคคลเมื่อพอใจในสิ่งใด เขาย่อมก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในสิ่งนั้น ความพอใจจะเป็นพลังหนุนให้เกิดความพยายาม ส่วนความไม่พอใจ
จะทำให้คนเหนื่อยหน่าย ระอิดระอา
สันโดษ ข้อนี้จะเป็นเครื่องกำจัดความเกียจคร้านเบื่อหน่าย และโลภอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน
ยินดีตามได้ หมายถึง ยินดีกับของส่วนที่ตนได้มา คือ เมื่อแสวงหาประโยชน์อันใดแล้ว มันได้เท่าไรก็พอใจเท่านั้น
มันอาจจะได้ไม่ถึงเป้า ประณีตสวยงามไม่ถึงเป้า ก็พอใจ ยินดีเพียงแค่นั้น ไม่ถึงกับกระวนกระวาย เป็นทุกข์ เพราะได้ไม่สมอยาก
ไม่เป็นคนชนิด ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา
คนที่ขาดสันโดษข้อนี้ มักเป็นคนดูถูกโชควาสนาของตนเอง พยายามใส่ไฟตนเองให้มันเดือดร้อนจนได้ แทนที่จะชอบส่วนที่ไ่ด้
กลับนึกเกลียดชังรำคาญใจ แล้วเอาความชอบใจไปฝากไว้กับส่วนที่ตัวไม่ได้ คนทอดแหหาปลาที่ขาดสันโดษข้อนี้ มักจะคิดเสมอว่า
ปลาตัวที่หลุดมือลงน้ำตัวโตกว่าตัวที่จับได้ เกลียดปลาตัวที่จับได้ แต่พอใจตัวที่หลุดมือ ผลที่สุดก็ต้องกินปลาตัวที่เกลียด แล้วเฝ้าทุกข์ใจ เสียดายปลาตัวที่ปลุดมือ คนประเภทนี้ ไม่มีหวังได้กินปลาอร่อยๆ จนตาย เพราะคิดว่า ตัวที่อร่อยที่สุดคือตัวที่จับไม่ได้
ยินดีตามควร หมายถึง ยินดีกับของที่สมควรกับตนเท่านั้น สิ่งใดที่มีอยู่ หรือที่จะได้ต่อไป หากเห็นว่าไม่ควรกับเรา ก็ไม่ยินดี ไม่ยอมรับเอาไว้
การพิจารณาสิ่งต่างๆ ว่าควรกับเราหรือไม่นั้น ให้พิจารณาหลัก 3 ประการ ดังนี้
1.ยถาลาภะ ควรแก่ฐานะ
2.ยถาพละ ควรแก่สมรรถภาพ
3.ยถาสรุปะ ควรแก่ศีลธรรม
ควรแก่ฐานะ คือให้พิจารณาว่าเรามีฐานะเป็นอะไร นักบวช ชาวบ้าน ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ครู นักเรียน นายพัน นายร้อย นายสิบ อธิบดี เสมียน ฯลฯ และก็แสวงหาหรือยอมรับแต่ของที่ควรกับฐานะของตนไม่เป็นคนใฝ่สูงเกินศักดิ์ เช่น เป็นเสมียนก็ยินดีกับเก้าอี้ไม้ธรรมดา ไม่ใช่ไขว่คว้าอยากได้เก้าอี้บุนวมของอธิบดี เป็นพระมีคนจะถวายผู้หญิงไว้คอยรับใช้ปูที่หลับที่นอน ก็ต้องรู้ว่าไม่เหมาะกับฐานะของตนจึงไม่รับ
ควรแก่สมรรถภาพ คือ คนเรามีกำลังความสามารถไม่เท่ากัน ทั้งกำลังกาย กำลังความคิด กำลังใจ กำลังความดี ก็ให้รู้กำลังความสามารถของตนเอง และแสวงหาหรือยอมรับเฉพาะของที่ควรแก่สมรรถภาพของตนเองเท่านั้น ไม่เป็นคนตีราคาตัวเองผิด คิดเอาง่ายๆ ตื้นๆ ว่าเขาเป็นอะไร ตัวก็จะเป็นได้อย่างเขาทุกอย่าง เข้าทำนอง “เห็นเขานั่งคานหาม เอามือประสานกัน”
ความสามารถเป็นได้แค่รัฐมนตรี ก็ไม่ดิ้นรนไปเป็นนายก หรือความสามารถแค่เป็นคนใช้ก็อย่าริเป็นคุณนาย
ควรแก่ศีลธรรม คือ ของใดก็ตามที่ควรกับฐานะของเรา ควรแก่ความสามารถของเรา แต่ถ้าไปยินดีกับของนั้นแล้ว จะทำให้เราผิดศีลธรรม
เสียชื่อเสียง เสียเกียรติยศ เสียศักดิ์ศรี ก็ไม่ควรยินดีกับของสิ่งนั้น เช่น ของที่ลักปล้นฉ้อโกงเขามา ของที่เป็นสินจ้างในทางที่ผิด ไม่เป็นคนลุแก่อำนาจความมักได้