มงคลที่ 22 มีความเคารพ
ความเคารพในพระธรรม คือ ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันมหาศาลของพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และแสดงออกซึ่งความเคารพ ดังนี้
1.เมื่อมีประกาศแสดงธรรมก็ไปฟัง
2.ฟังธรรมด้วยความสงบ สำรวม ตั้งใจ
3.ไม่นั่งหลับ ไม่นั่งคุยกัน ไม่คิดฟุ้งซ่าน ขณะฟังธรรม
4.ไม่ดูหมิ่นพระธรรม
5.บอกธรรม สอนธรรม โดยความระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาด
ความเคารพในพระสงฆ์ คือ ตระหนักถึงคุณความดีของพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ เป็นผู้สืบอายุพระศาสนา แล้วแสดงออกซึ่งความเคารพ ดังนี้
1.กราบไหว้ โดยกิริยาอาการเรียบร้อย
2.นั่งเรียบร้อย ไม่นั่งกอดเข่าเจ่าจุก
3.ไม่สวมรองเท้า กั้นร่ม ในที่ประชุมสงฆ์
4.ไม่คะนองมือ คะนองเท้าต่อหน้าท่าน
5.เมื่อพระเถระไม่เชิญ ไม่แสดงธรรม
6.เมื่อพระเถระไม่เชิญ ไม่อวดรู้แก้ปัญหาธรรม
7.ไม่เดิน ยืน นั่ง เบียดพระเถระ
8.แลดูท่านด้วยจิตเลื่อมใส
9.ต้อนรับท่านโดยไทยธรรม
ความเคารพในการศึกษา คือ ตระหนักถึงคุณค่าของการศึกษาหาความรู้ แล้วแสดงออกซึ่งความเคารพโดย ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ทั้งทางโลกและทางธรรม จะศึกษาเรื่องใดก็ศึกษาให้ถึงแก่น ให้เข้าใจจริงๆ ไม่ทำเหยาะแหยะ บำรุงการศึกษา สนับสนุนการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม
ความเคารพในสมาธิ คือ ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันมหาศาลของการทำสมาธิแล้วแสดงออกซึ่งความเคารพโดย ตั้งใจฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะสมาธิเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างความดีทั้งหลาย เป็นการฝึกฝนตนเองอย่างยิ่งยวด ทำให้รู้และเข้าใจธรรมอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จากในไตรสิกขา ซึ่งถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่าศีลจะเป็นพื้นฐานทำให้เกิดสมาธิได้ง่าย แล้วสมาธิจะทำให้เกิดปัญญาซึ่งเป็นเครื่องพาเราให้บรรลุนิพพาน จะเห็นว่าเรารักษาศีลก็เพื่อไม่ให้ไปทำความชั่ว ทำให้ใจไม่เศร้าหมองเป็นสมาธิได้ง่ายและปัญญาก็เกิดจากสมาธิ สมาธิจึงเป็นหัวใจหลักในการทำความดีทุกชนิด แม้การกำจัดกิเลสเข้าพระนิพพาน มีบางคน พยายามจะเข้าถึงธรรม โดยการอ่านและฟังธรรมโดยไม่ยอมทำสมาธิ แม้เขาจะอ่านจะท่องธรรมะได้มากเพียงใด ก็ย่อมไม่มีโอกาสเข้าถึงธรรมได้เลย เพราะความรู้ธรรมจากการอ่านการท่องนั้นเป็นเพียงพื้นฐานความรู้เท่านั้น จะบังเกิดผลเป็นดวงปัญญารู้แจ้ง สว่างไสว ต่อเมื่อได้นำไปปฏิบัติด้วยการทำสมาธิอย่างยิ่งยวดแล้วเท่านั้น
ยังมีบางคนกล่าวว่า การทำสมาธิเป็นส่วนเกินบ้าง เป็นการเสียเวลาเปล่าบ้าง ถ้าพบใครที่กล่าวเช่นนี้ ก็พึงทราบทันทีว่า เขากล่าวตู่พุทธพจน์เสียแล้ว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไม่ควรคบ เพราะเขายกตัวของเขาเองเข้าข้างตัวเองว่าเก่งกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสียแล้ว ใช้ไม่ได้
ความเคารพในความไม่ประมาท คือ ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการมีสติกำกับตัวในการทำงานต่างๆ แล้วแสดงออกซึ่งความเคารพโดยหมั่นฝึกสติเพื่อให้ไม่ประมาท ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาอยู่เนืองๆ มิได้ขาด
ความเคารพในการต้อนรับแขก คือ ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการต้อนรับแขก ว่าทำให้ไม่ก่อศัตรู ปกติคนเราจะให้ดีพร้อม ทำอะไรถูกใจคนทุกอย่าง ย่อมเป็นไปไม่ได้ อาจมีช่องว่าง รอยโหว่ ข้อบกพร่องบ้าง การต้อนรับแขกนี้จะเป็นการปิดช่องว่างรอยโหว่ในตัว ทำให้ได้มิตรเพิ่ม เราจึงต้องให้ความสำคัญแก่ผู้มาเยือน ด้วยการต้อนรับ 2 ประการ ดังนี้
1.อามิสปฏิสันถาร ต้อนรับด้วยสิ่งของ เช่น อาหาร น้ำดื่ม เลี้ยงดูอย่างดี ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ฯลฯ
2.ธรรมปฏิสันถาร ต้อนรับด้วยธรรม เช่น สนทนาธรรมกัน แนะนำธรรมะให้แก่กัน ฯลฯ
การแสดงความเคารพ
การแสดงความเคารพ คือ การแสดงความตระหนักในคุณความดีของสิ่งที่เราเคารพด้วยใจจริงให้ปรากฏชัดแก่บุคคลทั่วไป ด้วยการแสดงออกทางกาย วาจา มีอยู่หลายวิธี เช่นหลีกทางให้ ลุกขึ้นยืนต้อนรับการให้ที่นั่งแก่ท่าน การประนมมือเวลาพูดกับท่าน การกราบ การไหว้ การขออนุญาตก่อนทำกิจต่างๆการวันทยาวุธ การวันทยาหัตถ์ การยิงสลุด การลดธง ฯลฯ
การแสดงความเคารพที่ถูกต้องตามหลักธรรม หมายถึง การแสดงออกเพราะตระหนักในคุณความดีของสิ่งที่เคารพด้วยใจจริง นักเรียนที่คำนับครูเพราะเกรงว่าถ้าไม่ทำจะถูกตัดคะแนนความประพฤติ ทหารที่ทำวันทยาหัตถ์ผู้บังคับบัญชาเพราะเกรงว่าถ้าไม่ทำจะถูกลงโทษ อย่างนี้ไม่จัดว่าเป็นความเคารพ เป็นแต่เพียงวินัยอย่างหนึ่งเท่านั้น
อานิสงส์การมีความเคารพ
1.ทำให้เป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดู น่าเกรงใจ
2.ทำให้ได้รับความสุขกาย สบายใจ
3.ทำให้ผิวพรรณผ่องใส
4.ทำให้ไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีเวร ไม่มีภัย
5.ทำให้สามารถ่ายทอดความดีจากผู้อื่นได้ง่าย
6.ทำให้ผู้อื่นอยากช่วยเหลือเพิ่มเติมคุณความดีให้
7.ทำให้สติดีขึ้น เป็นคนไม่ประมาท
8.ทำให้เป็นคนมีปัญญาละเอียดอ่อน รู้จริง และทำได้จริง
9.ทำให้เกิดในตระกูลสูงไปทุกภพทุกชาติ
10.ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2