รูปธรรมการวางแผนเป็นระบบตามกฎเกณฑ์นาฬิกาชีวิต
"รูปธรรมในการวางแผนอย่างเป็นระบบตามกฎเกณฑ์
ของนาฬิกาชีวิต คืออะไร"
สรุปได้เป็น 3 มาตรการใหญ่ คือ
1. ปรับให้สอดคล้อง
- พยายามยึดกฎเกณฑ์นาฬิกาชีวิตให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการละเมิดกฎเกณฑ์ ในเมื่อการเคลื่อนไหวของ
ชีวิตถูกกำหนดควบคุมอย่างมีกฎเกณฑ์ การเคลื่อนไหวทั้งมวลของชีวิต ควรมีจังหวะที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับธรรมชาติ
ตัวอย่างเช่น
ยามเช้า ขณะที่ยังไม่ตื่นนอน หรือกำลังหลับอยู่ ร่างกายได้ถูกเตรียมความพร้อม ทำให้ความดันเลือด
การเต้นของหัวใจ การหายใจ เริ่มได้รับการกระตุ้นจากระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้เพิ่มการทำงานมากขึ้น ปลุกให้
คนที่หลับอยู่ตื่นนอนขึ้นมา เพื่อรับกับสภาพการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืน สภาพตรงกันข้าม
ร่างกายเริ่มอ่อนล้า การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติเกี่ยวกับการกระตุ้นลดถอยลง การเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ
ความดันเลือด ก็ค่อยๆ น้อยลง ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนหลับพักผ่อน การรู้จักยึดกุมเวลาตื่นนอน และเวลา
หลับนอน เป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องปฏิบัติ ถ้าใช้เวลากลางคืนทำงาน กลางวันนอนหลับ ก็คือ การดำเนินชีวิตไม่เป็นจังหวะ
สอดคล้องกับนาฬิกาชีวิต จะเป็นการทำลายร่างกาย ทำให้เสื่อมชราเร็ว
การศึกษาวิจัยพบว่า ถ้าละเมิดกฎเกณฑ์ธรรมชาติ 1 ครั้ง ต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูนาน 5-6 วัน
คนวัยทำงาน โดยปกติจะตื่นนอนตอนเช้า เมื่อถึงปลายสัปดาห์หรือวันหยุด จะเลี้ยงฉลองกันดึก นอนดึก เที่ยวกลางคืน
จนดึกดื่น กว่าจะหลับนอนก็เลยเที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 หรือไม่ก็เกือบจะหัวรุ่ง ทำให้ต้องตื่นนอนสายเกือบเที่ยง ไม่ได้รับ
อาหารเช้า พฤติกรรมนอนดึก ตื่นสาย ทำลายกฎเกณฑ์ธรรมชาติ 2 ครั้ง ต้องฟื้นฟู 5-6 วัน ก็พอดีครบรอบ 1 สัปดาห์
พอถึงศุกร์-เสาร์ พฤติกรรมการทำลายเริ่มกลับเข้าวงจรใหม่อีกครั้ง การฟื้นฟูยังไม่ทันเข้าที่ การทำลายรอบใหม่ตามมาอีก
นี่คือการสึกกร่อนอย่างต่อเนื่อง ความเสื่อมชราเริ่มมากขึ้น อายุขัยเริ่มสั้นลง ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การดูแลสุขภาพบาง
ท่านกล่าวไว้น่าฟังว่า
" การทำงานและวิถีชีวิตที่ไม่ดี บางครั้งเป็นสิ่งที่คนวัยหนุ่มสาว ยอมเสียสละสุขภาพที่ดีไปแลกเอามาเพื่อ
ให้ได้ทรัพย์สิน แต่พออายุมากแก่ชราจะเอาทรัพย์สินไปซื้อสุขภาพที่ดีคืนมา ซึ่งไม่คุ้มค่า เพราะทรัพย์สินไม่สามารถซื้อ
ความเสื่อมกลับมาได้อีกแล้ว " หนทางเดียวที่จะถนอมและทำให้สุขภาพดีคือการเริ่มต้นปฏิบัติตัวตั้งแต่บัดนี้ โดยเฉพาะใน
ช่วงที่ร่างกายแข็งแรงอยู่
ขอขอบคุณที่มาของภาพจาก : http://pirun.ku.ac.th/~b5043135/piz/exercise.gif