มงคลที่ 9 มีวินัย
อาคาริยวินัย
วินัยสำหรับคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน ที่สำคัญ คือ ศีล 5
ศีลคืออะไร ?
ศีล แปลว่า ปกติ เป็นวินัยทางธรรมเบื้องต้นของคนเป็นเครื่องจำแนกคนออกจากสัตว์
ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีลักษณะปกติของมันเอง เช่น ปกติของม้าต้องยืน ไม่มีการนอน ถ้าม้านอนก็เป็นการผิดปกติแสดงว่าม้าป่วย
ฤดูฝนตามปกติจะต้องมีผน ถ้าฤดูฝนกลับแล้ง ฝนไม่ตกแสดงว่าผิดปกติ
อะไรคือปกติของคน ?
1.ปกติของคนจะต้องไม่ฆ่า ถ้าวันไหนมีการฆ่า วันนั้นก็ผิดปกติของคนแต่ไปเข้าข่ายปกติของสัตว์ เช่น เสือ หมี
ปลา ฯลฯ ซึ่งฆ่ากันเป็นปกติเพื่อรักษาปกติของคนไว้ ศีลข้อที่ 1 จึงเกิดขึ้นมาว่า คนจะต้องไม่ฆ่า
2.ปกติของสัตว์เวลากินอาหารมันจะแย่งกัน ขโมยกัน ถึงเวลาอาหารทีไรสุนันเป็นต้องกัดกันทุกที แต่คนไม่เป็นอย่างนั้น เพื่อรักษา
ปกติของคนไว้ ศีลข้อที่ 2 จึงเกิดขึ้นว่า คนจะต้องไม่ลัก ไม่คอร์รัปชั่น ไม่ยักยอก คดโกง
3.ปกติของสัตว์ ไม่รู้จักหักห้ามใจให้พอใจเฉพาะคู่ของตน ในฤดูผสมพันธุ์สัตว์จึงมีการต่อสู้แย่งชิงตัวเมีย บางครั้งถึงกับต่อสู้กันจนตาย
ไปข้างหนึ่งก็มี แต่ปกติของคนแล้วจะไม่แย่งคู่ครองของใคร พอใจเฉพาะคู่ครองของตนเท่านั้นเพื่อรักษาปกติของคนไว้ ศีลข้อที่ 3 จึงเกิดขึ้นว่า
คนจะต้องไม่ประพฤติล่วงในกาม
4.ปกติของสัตว์ไม่มีความจริงใจต่อใคร พร้อมที่จะทำอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ปกติของคนนั้น เราพูดกันตรงไปตรงมา มีความจริงใจต่อกัน
ถ้าใครโกหกหลอกลวงก็ผิดปกติไป เพื่อรักษาปกติของคนไว้ ศีลข้อที่ ๔ จึงเกิดขึ้นว่าคนจะต้องไม่พูดเท็จ
5.ปกติแล้วสัตว์มีกำลังร่างกายแข็งแรงมากกว่าคน แต่สัตว์ไม่มีสติควบคุมการใช้กำลังของตนให้ถูกต้อง ดังนั้นจึงไม่สามารถเปลี่ยนกำลังกาย
ให้เป็นกำลังความดีได้ มีแต่ความป่างเถื่อนตามอารมณ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย แม้มีกำลังกายมาก แต่ไม่เคยออกแรงไปหาอาหารมาเลี้ยง พ่อ แม่
ของมัน แต่อย่างใด
ส่วนคนแม้มีกำลังกายน้อยกว่าสัตว์ แต่อาศัยสติอันมั่นคงช่วยเปลี่ยนกำลังกายน้อย ๆ นั้น ให้เกิดเป็นกำลังความดี เช่น มีกตัญญูกตเวที
เมื่อโตขึ้นก็เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้
สติเป็นของเหนียวแน่นคงทน แม้อดอาหารทั้งววันสติก็ยังดี ทำงานทั้งเดือนไม่ได้พักสติก็ยังดี นอนป่วยบนเตียงทั้งปีสติก็ยังดี แต่สติกลับเปื่อยยุ่ย
ทันทีถ้าไปเสพสุรายาเมาเข้า สุราเพียงครึ่งแก้วอาจทำผู้อื่นให้สติฟั่นเฟือนถึงกับลืมตัวลงมือทำร้ายผู้มีพรคุณได้ หมดความสามารถในการเปลี่ยน
กำลังกายให้เป็นกำลังความดี ดังนั้นผู้ที่เสพสุราหรือของมึนเมา จึงมีสภาพผิดปกติคือ มีสถาพใกล้สัตว์เข้าไปทุกขณะ
เพื่อรักษาปกติของคนไว้ ศีลข้อที่ 5 จึงเกิดขึ้นว่า คนจะต้องไม่เสพของมึนเมาให้โทษ
ศีลทั้ง 5 ข้อ คือ
1.ไม่ฆ่า
2.ไม่ลัก
3.ไม่ล่วงในกาม
4.ไม่หลอกลวง
5.ไม่เสพของมึนเมาให้โทษ
จึงเกิดขึ้นมาโดยสามัญสำนึกและเกิดขึ้นพร้อมกับโลกเพื่อรักษาความปกติสุขของโลกไว้
ศีล 5 มีมาก่อนพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับเข้ามาไว้ในพระพุทธศาสนาและชี้แจงถึงความจำเป็นของการมีศีลให้ทราบ
ดังนั้นศีลจึงไม่ใช่ข้อห้ามตามที่คนจำนวนมากเข้าใจ นอกจากนี้ศีลยังใช้เป็นเครื่องวัดความเป็นคนได้อีกด้วย
วันใดเรามีศีลครบ 5 ข้อ แสดงว่าวันนั้นเรามีความเป็นคนบริบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
ถ้ามีศีลเหลือ 4 ข้อ ความเป็นคนก็เหลือ 80 เปอร์เซ็นต์ ใกล้สัตว์เข้าไป 20 เปอร์เซ็นต์
ถ้ามีศีลเหลือ 3 ข้อ ความเป็นคนก็เหลือ 60 เปอร์เซ็นต์ ใกล้สัตว์เข้าไป 40 เปอร์เซ็นต์
ถ้ามีศีลเหลือ 2 ข้อ ความเป็นคนก็เหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ ใกล้สัตว์เข้าไป 60 เปอร์เซ็นต์
ถ้าศีลเหลือ 1 ข้อ ความเป็นคนก็เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ ใกล้สัตว์เข้าไป 80 เปอร์เซ็นต์
ถ้าศีลทุกข้อขาดหมด ก็หมดความเป็นคน หมดความสงบ หมดความสุขถึงยังมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว ความดีใด ๆไม่อาจงอกเงยขึ้นมาได้อีก มีชีวิตอยู่เพียงเพื่อจะทำความเดือดร้อนให้แก่ ตนเองและผู้อื่นเท่านั้น คนชนิดนี้คือ คนประมาทแท้ ๆ
วิธีรักษาศีลตลอดชีพ
เพื่อรักษาความเป็นคนของตนไว้ให้ดี ชาวพุทธจึงจำเป็นต้องรักษาศีลยิ่งชีวิต การจะรักษาศีลให้ได้เช่นนั้น ต้องอาศัยปัญญาเข้าช่วย จึงจะรักษาไว้ได้
โดยง่ายก่อนอื่นให้พิจารณาว่า
-ศีล แปลว่า ปกติ
-คนผิดศีล คือ คนผิดปกติ
-แต่ปัจจุบันนี้คนซึ่งผิดศีลจนเป็นปกตินิสัย มีจำนวนมากขึ้นทุกทีกระทั่งหลายคนเห็นคนมีศีลกลายเป็นคนผิดปกติไป เมื่อความเห็นวิบัติไปเช่นนี้ ประเทศชาติบ้านเมืองที่เคยร่มเย็นตลอด จึงต้องพลอยวิบัติ มีการฆ่ากัน โกงกัน ผิดลูกผิดเมีย ฯลฯ จนประชาชนนอนตาไม่หลับ สะดุ้งหวาดระแวงกันไปทั้งเมือง เราจะให้ผู้ใดมาดับทุกข์ความวิบัติครั้งนี้ ?
เราชาวพุทธแต่ละคนนี้แหละคือผู้ดับ เราจะดับทุกข์ด้วยการถือศีล ถึงคนอื่นไม่ช่วยถือเราก็จะถือเพียงลำพัง ถ้าเปรียบประเทศไทยเหมือนหม้อน้ำใหญ่ประชากรมากกว่า 60 ล้านคน ที่กระทบกระทั้งกันเพราะขาดศีล ถ้าตัวเรามีศีลเมื่อใดก็เหมือนกับดึงตนเองออกจากกองฟืนไป 1 ดุ้น แม้น้ำในหม้อจะยังเดือดพลานอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เพราะเรา เมื่อแต่ละคนต่างดึงตนเองออกจากกองทุกข์โดยไม่เกี่ยวงอนกันดังนี้ ในไม่ช้าไฟทุกข์ย่อมดับมอดลงเองประเทศชาติก็จะคือสู่สภาพปกติสุขได้
เพื่อเป็นการย้ำความคิดที่จะถือศีลให้มั่นคงตลอดชีพ จำต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ซึ่งมีอยู่วิธีหนึ่งคือ วิธีปลุกพระ ทุก ๆ เช้าก่อนออกจากบ้านให้เอาพระเครื่องที่แขวนคออยู่ ใส่ในมือพนมหรือพนมมืออยู่หน้าที่บูชาพระแล้วตั้งใจล่าวคำสมทานรักษาศีล 5 ดังอย่างนี้
ปาณาติปาตา เวระมณี ข้า ฯ จะไม่ฆ่า
อะทินนาทานา เวระมณี ข้า ฯ จะไม่ลัก
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี ข้า ฯ จะไม่ล่วงในกาม
มุสาวาทา เวระมณี ข้า ฯ จะไม่หลอกลวง
สุราเมระยะ มัชชปมาทัฏฐานา เวระมณี ข้า ฯ จะไม่เสพของมึนเมา
ทางการแพทย์โรคที่เกิดขึ้นมี 2 ประเภท
1.โรคประจำสังขาร เช่น โรคชรา โรคจากเชื้อโรคที่ระบาดเป้นครั้งคราว
2.โรคจากการแส่หาด้วยความประมาท เช่น
ขาดศีลข้อ 5 ทำให้เกิดพิษสุราเรื้อรัง ดับแข็ง ทะเลาะวิวาท
ขาดศีลข้อ 4 ทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม ผู้ที่โกหกมาก ๆ เข้าลงท้าย แม้กระทั่งตัวเองก็หลงลืมว่าเรื่องที่ตนพูดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงหรือโกหก
ขาดศีลข้อ 3 ทำให้เกิดกามโรคได้ง่าย
ขาดศีลข้อ 2 ทำให้เกิดโรคจิด เช่น โรคหวาดผวา
ขาดศีลข้อ 1 ทำให้อายุสั้น เช่น บุคคลประเภทเจ้าพ่อทั้งหลายฆ่าคนมามาก ลงท้ายก็โดนเขาฆ่าเอาบ้าง
“ผู้ฆ่าย่อมได้รรับการฆ่าตอบ ผู้ทรมานย่อมได้รับการทรมานตอบ” (พุทธพจน์)
อานิสงส์ของศีล
1.ทำให้สามารใช้สอยทรัพย์ได้เต็มอิ่ม โดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะมีใครมาทวงคืน
2.ทำให้เกียรติคุณฟุ้งขจรไปว่าเป็นคนเชื่อถือได้ มีอนาคตดี
3.ทำให้แกล้วกล้าอาจหาญในท่ามกลางประชุมชน
4.ทำให้เป็นคนไม่หลงลืมสติ มีจังหวะชีวิตดี
5.เมื่อยังไม่บรรลุนิพพาน ตายแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์
อานิสงส์การมีวินัย
วินัยทางโลกและทางธรรมรวมกันแล้วทำให้เกิดประโยชน์คือ
1.วินัยนำไปดี หมายความว่า ทำให้ผู้รักษาวินัยดีขึ้น ยกฐานะผู้มีวินัย ให้สูงขึ้น เช่น
เด็กกลางถนน เข้าโรงเรียนมีวินัย กลายเป็น นักเรียน
เด็กชาวบ้าน บวชแล้วถือศีล 10 กลายเป็น สามเณร
สามเณร บวชแล้วถือศีล 227 กลายเป็น พระภิกษุ
วันัยเป็นข้อบังคับใจเราก็จริงแต่เป็นข้อบังคับเพื่อให้เราไปถึงที่หมายของชีวิตตามความประสงค์ของเราเอง
2.วินัยนำไปแจ้ง คำว่า แปลว่า สว่าง หรือเปิดเผยไม่คลุม ๆ เครือ ๆ วินัยนำไปแจ้งคือเปิดเผยธาตุแท้ของคนได้ ว่าไว้ใจได้แค่ไหน
โดยดูว่าเป็นคนมีวินัยหรือไม่
3.วินัยนำไปต่าง เราดูความแตกต่างของคนด้วยวินัย ยกตัวอย่างคนที่ซ่องสุมสมัครพรรคพวกและอาวุธไว้สู้รบกับคนอื่น ถ้ามีวินัย
เราเรียกว่า กองทหารเป็นมิ่งขวัญของบ้านเมือง ถ้าไม่มีวินัยเราเรียกว่า กองโจร เป็นเสี้ยนหนามของแผ่นดิน คนที่พกอาวุธเดินปนอยู่
ในที่ชุมชนอย่างองอาจ ถ้ามีวินัยเราเรียกว่า ตำรวจ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ถ้าไม่มีวินัยเราเรียกว่า นักเลงอันธพาธเป็นผู้พิฆาตสันติสุข
คนที่เที่ยวภิกขาจารพึ่งคนอื่นเลี้ยงชีวิตถ้ามีวินัยรักษาศีล ๒๒๗ เราเรียกว่าพระภิกษุ เป็นบุญของผู้ให้ทาน ถ้าไม่มีวินัย เราเรียกว่า ขอทาน
เป็นกรรมของผู้ถูกขอ
เราต้องการก้าวไปสู่ความดีความก้าวหน้า เราต้องการความบริสุทธิ์กระจ่างแจ้ง เราต้องการยกฐานะให้สูงขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องรักษาวินัย
"ผู้มีวินัยดี หมายถึง ผู้ที่รักษาวินัยทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างถูกต้องและเคร่งครัด"
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2