ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร

1.อาการแพ้ยาสมุนไพร  
การแพ้ยาสมุนไพรไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ มีคนจำนวนน้อยมากที่ใช้ยาสมุนไพรและเกิดอาการแพ้
เป็นเรื่องธรรมดาที่ยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาที่ไม่ต่างกับยาแผนปัจจุบันทั่วไป แต่เนื่องจากยาแผนปัจจุบัน
เป็นสารเคมีสกัด อาการแพ้ยาแผนปัจจุบันจึงมีอาการค่อนข้างรุนแรงกว่าการแพ้ยาสมุนไพร ฤทธิ์และสรรพคุณ
ในทางยาของยาสมุนไพรจึงไม่แรงเท่ากับยาแผนปัจจุบัน

อาการแพ้ยาสมุนไพรถึงแม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่เราควรรู้ไว้ว่าอาการแพ้ยาสมุนไพรมีอาการอย่างไร
อาการที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ที่แพ้ยาสมุนไพรคือ

1. อาการแพ้บริเวณผิวหนัง จะมีผื่นขึ้นหรือเป็นตุ่มเล็กๆ(คล้ายลมพิษ) บริเวณผิวหนังอาจเป็นวงสีแดงและอาจมีอาการบวมที่ตาและริมฝีปากร่วมด้วย
2. อาการแพ้ยาสมุนไพรในลักษณะที่ทำให้เกิดการอาเจียน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างประกอบกัน หลังจากได้รับยาสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย
3. อาการแพ้ยาสมุนไพรที่เกิดกับหัวใจเช่น หัวใจเต้นเร็ว ไม่สม่ำเสมอ ใจสั่นหลังจากกินยาสมุนไพรเข้าไปแล้วจึงเกิดอาการดังกล่าว
4. อาการแพ้ยาสมุนไพรที่เกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี เช่น ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
5. อาการชาที่ผิวหนัง หูอื้อ ลิ้นชา ตาพร่ามัว
6. อาการผิดปกติต่อระบบประสาทที่ตอบสนองเร็วผิดปกติ เช่น เมื่อใช้มือลูบผมก็รู้สึกแสบที่หนังศีรษะหรือสัมผัสเบาๆที่ผิวหนังก็รู้สึกเจ็บ

หากหลังจากใช้ยาสมุนไพรแล้วเกิดอาการแพ้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ควรหยุดการใช้ยาสมุนไพรทันที โดยทั่วไปเมื่อหยุดใช้ยาสมุนไพรแล้วอาการแพ้ก็จะค่อยๆ ทุเลาหายไปแต่ถ้าหลังจากหยุดใช้ยาสมุนไพรแล้วยังมีอาการแพ้ปรากฏอยู่อีก ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป.

                              สมุนไพรเพื่อสุขภาพ