เทคโนโลยีกับเศรษฐกิจพอเพียง

                 คำว่า"พอเพียง"กับคำว่า"เทคโนโลยี" ดูจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลกันและตรงกันข้ามกันตามความคิดของคนทั่วไปแต่สำหรับคำว่า"เศรษฐกิจพอเพียง"นั้นเป้นแนวทางตามพระราชดำริที่ทำให้เราเห็นเป็นรูปธรรมว่าการใช้ประโยชน์จาก"เทคโนโลยีชีวภาพ"ควบคู่ไปกับการปฎิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเดินคู่ขนานสอดประสานได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสนับสนุนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนั้นมีมากมายเช่นการใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพที่คนทั่วไปรู้จักกันในนามของ"อีเอ็ม"หรือEeffective Microorganismซึ่งถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั้งใช้ในการทำปุ๋ยหมักการปรับปรุงบำรุงดิน การทำความสะอาดคอกสุกร โรงเลี้ยงไก่ ห้องน้ำห้องสุขาฯลฯ

เกษตรกรสามารถผลิตอีเอ็มไว้ใช้เองได้โดยซื้อหาวัตถุดิบมาผลิตได้ซึ่งมีส่วนผสมของกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง1ก.ก.เปลือกสับปะรดสุก3ก.ก.และน้ำมะพร้าวอ่อน1ลิตรบดสับและคลุกผสมให้เข้ากันหมักไว้ในถังพลาสติกปิดฝาไว้เพียง1สัปดาห์ก็สามารถแยกเอาน้ำออกมาใช้ได้บางรายอาจเพิ่มความหลากหลายของเชื้อจุลินทรีย์ด้วยการเติมนมเปรี้ยวหรือเต้าเจี้ยวลงไป1ถ้วยตวงก็จะทำให้อีเอ็มมีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น อีเอ็มมีเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อยู่หลายสายพันธุ์ทั้งบาซิลลัส,แล็คโตบาซิลลัส,แอสเปอร์กิลลัส,แซ็คชาโรมาเซส, เอสโตแบ็คเตอร์และแอ็คติโนมายเซส นอกจากนี้ยังมีเชื้อรา ยีสต์และบักเตรีอีกมากมาย ตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจพอเพียงที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือการทำปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำหรือน้ำหมักชีวภาพหรือปุ๋ยน้ำชีวภาพ วิธีการทำก็คล้ายคลึงกับอีเอ็มคือนำเศษผักผลไม้สภาพที่ยังไม่เน่าเสียจำนวน10ก.ก.บดผสมกับกากน้ำตาล 3 ก.ก.เติมน้ำอีเอ็มลงไปอีก1ลิตรแล้วหมักไว้ในถังพลลาสติกปิดฝาไว้คนให้เข้ากันทุกๆ7วันพอครบ45วันก็สามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบหรือรดทางดินได้กับพืชทุกชนิดทั้งข้าว พืชไร่ พืชสวนและไม้ดอก การใช้ประโยชน์จากอีเอ็มและปุ๋ยจุลินทรีย์ชนิดน้ำจะช่วยให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ลดการใช้สารเคมีรวมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพนั้นถือว่าเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตออกมาอาจมีมากเกินพอที่จะบริโภคหรือจำหน่ายได้หมด การแปรรูปจึงช่วยให้เก็บรักษาผลผลิตได้ยาวนานยิ่งขึ้นและมีมูลค่าสูงขึ้นเช่นการแปรรูปถั่วเหลืองให้เป็นเต้าเจี้ยวโดยใช้เชื้อราแอสเปอร์กิลลัส โอรีซาร์ การแปรรูปข้าวเหนียวและข้าวโพดเป็นสุราแช่โดยใช้เชื้อราไรโซปุสและยีสต์แซคชาโรมายเซส เซเรวิสเซีย การหมักปลาให้เป็นปลาร้า การทำแหนมและไส้กรอกจากหมูและปลา การทำน้ำส้มสายชูหมักจากน้ำมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนด การผลิตไวน์ผลไม้ก่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนในรูปแบบหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์มีการรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนช่วยส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งในระดับรากหญ้าได้อย่างยั่งยืนโดยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพควบคู่กับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริ

.......+++........

                                         อ้างอิงhttp://www.naewna.com/news.asp?ID=80531