• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:d46edfbc2cc063826cacab5e913a8dd2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div align=\"center\"><span class=\"size22 FTtext\" data-mce-mark=\"1\"><span data-mce-mark=\"1\">ทางออกภาษีที่ดินฯ คือการเลี้ยงวัว?</span></span></div>\n<div align=\"center\">&nbsp;&nbsp;<span class=\"size13 FTtext color1\" data-mce-mark=\"1\"><span style=\"text-decoration: underline;\" data-mce-mark=\"1\">AREA แถลง</span>&nbsp;ฉบับที่ 091/2566: วันพุธที่ 01 กุมภาพันธ์ 2566</span></div>\n<p>&nbsp;</p>\n<div class=\"box-position text-right\">ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย<br />ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย<br /><a href=\"https://www.area.co.th/thai/about.php#sopon\" target=\"_blank\">บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส</a>&nbsp;<a class=\"FTtext size12\" href=\"mailto:sopon@area.co.th\"><img src=\"https://www.area.co.th/images/img_icon/icon_areapress_06.jpg\" alt=\"sopon@area.co.th\" width=\"61\" height=\"18\" /></a>&nbsp;<a class=\"FTtext size12\" href=\"https://www.facebook.com/dr.sopon4\" target=\"_blank\"><img src=\"https://www.area.co.th/images/img_icon/icon_areapress_03.jpg\" alt=\"https://www.facebook.com/dr.sopon4\" width=\"\" height=\"20\" /></a></div>\n<div class=\"wf_pressdetail size15 wf_colortext\">\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ดร.โสภณ เสนอทางออกการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่&nbsp; ให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งรัฐบาลและประชาชนโดยรวม แทนที่จะแสร้งทำการเกษตรเพื่อเลี่ยงภาษีอย่างน่าละอาย</p>\n<div id=\"bannerPressID\" class=\"no-print col-xs-12 col-sm-12 col-md-12 col-lg-12\">\n<div class=\"embed-responsive embed-responsive-16by9\">&nbsp;</div>\n</div>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ตามที่มีข่าว “‘แลนด์ลอร์ด’ แห่จำแลงที่ดิน ตะลึงนำที่ร้างติด ’บีทีเอสบางหว้า’ เลี้ยงวัว เลี่ยงจ่ายภาษีแพง” (<a href=\"https://bit.ly/3wM2tnL\">https://bit.ly/3wM2tnL</a>) ปรากฏในรายละเอียดว่า “มีลงทุนเลี้ยงวัวเพียง 1 ตัว โดยสร้างพื้นที่คอก หรือเรือนนอน ขนาด 7 ตารางเมตรต่อตัว ก็เท่ากับเป็นการใช้ที่ดิน 5 ไร่ เป็นที่ดินเกษตรกรรม โดยมีให้เห็นแล้วบนที่ดินเปล่าติดสถานีบางหว้ารถไฟฟ้าบีทีเอส นับเป็นย่านทำเลทอง เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งบีทีเอสและสายสีน้ำเงิน” ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า “แปลงสภาพที่ดินรกร้างว่างเปล่าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้เข้าเกณฑ์ที่ดินเกษตรกรรม เพื่อจ่ายภาษีในอัตราที่ถูกลงจาก 0.3% เหลือ 0.01%”</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/02/cats-1.jpg\" alt=\"\" width=\"523\" height=\"295\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; จากข้อมูลของกรมธนารักษ์ระบุว่าที่ดินแปลงดังกล่าว มีขนาด 1,321 ตารางวา มีราคาประเมินราชการอยู่ที่ 13,000 บาทต่อตารางวา หรือเป็นเงินรวม 17.173 ล้านบาท เมื่อเสียภาษีในเกณฑ์เกษตรกรรมที่ 0.01% ก็เป็นเงินเพียง 1,717.3 บาทต่อปี หรือเดือนละ 143.1 บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าส่วนกลางในห้องชุดที่ประมาณ 40 บาทต่อตารางเมตร หรือเป็นเงินเดือนละประมาณ 1,200 บาท&nbsp; กรณีนี้จึงถือเป็นการเอาเปรียบสังคมประการหนึ่ง</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ยิ่งถ้าหากพิจารณาจากราคาตลาด ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยประเมินไว้ว่าที่ดินติดถนนเพชรเกษตรตรงสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า น่าจะเป็นเงินตารางวาละ 350,000 บาท แต่ที่ดินแปลงนี้ไม่ติดถนนและตาบอด หากซื้อมารวมเพื่อพัฒนาที่ดิน ก็น่าจะเป็นเงินตารางวาละ 100,000 บาทตามราคาตลาด หรือเท่ากับเจ้าของที่ดินถือครองที่ดินไว้เป็นเงินประมาณ 132.1 ล้านบาท แต่เสียภาษีเพียงเดือนละ 143.1 บาท หรือปีละ 1,717.3 บาท หรือเท่ากับ 0.0013% เท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ทางออกสำคัญประการหนึ่งก็คือการจัดเก็บภาษีตามราคาตลาด ไม่ใช่ราคาประเมินราชการ แต่ถ้าหากเกรงประชาชนจะเดือดร้อน ก็น่าจะลดอัตราภาษี เช่น เหลือ 0.1% ของมูลค่าตลาดทั้งนี้ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ เช่น ผู้ใดมีห้องชุดราคาถูกเพียง 500,000 บาท ก็เสียภาษีเพียง 500 บาท หรือเดือนละ&nbsp; 41.7 บาท ซึ่งไม่น่าจะเดือดร้อนอะไร แม้แต่รถจักรยานยนต์ ที่ไปต่อทะเบียนทุกปี ก็ต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ประมาณเกือบ 500 บาท จากราคารถเก่าที่ 50,000 บาท หรือราว 1% ซึ่งก็ไม่มีใครบ่นว่าภาษีสูงเกินไป&nbsp; แม้แต่ชาวนาชาวไร่ที่มีที่ดิน 15 ไร่ๆ ละ 100,000 บาท ก็เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท หากต้องเสียภาษี 0.1% ก็เป็นเงินเพียงปีละ&nbsp; 1,500 บาท หรือเดือนละ 125 บาทเท่านั้น</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; แต่ในทางตรงกันข้ามผู้ที่มีที่ดิน 1,000 ล้านบาทตามราคาตลาด การเสียภาษี 0.1% ก็อาจเป็นเงิน 1 ล้านบาท บางท่านอาจมองว่าเป็นเงินจำนวนมาก&nbsp; เอาเงิน 1 ล้านบาทไป “เสพสุข” น่าจะได้ประโยชน์กว่าการเสียภาษี แต่เมื่อเทียบภาษีที่พึงเสียกับราคาทรัพย์แล้วก็ถือว่าต่ำมาก&nbsp; ถ้าใครไม่มีรายได้พอที่จะจ่ายภาษี&nbsp; แต่มีที่ดินหรือทรัพย์สมบัติราคาถึง 1,000 ล้านบาท ก็ควรขายบางส่วนหรือขายทั้งหมดเพื่อนำเงินมาเสียภาษี ซึ่งยังจะได้เงินไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่เอาเปรียบสังคม</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span>ผู้แถลง:</span><br /><span>ดร.โสภณ พรโชคชัย (</span><a href=\"mailto:sopon@area.co.th\">sopon@area.co.th</a><span>) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (</span><a href=\"https://www.area.co.th/\" target=\"_blank\">www.area.co.th</a><span>): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน</span></p>\n</div>\n', created = 1714865145, expire = 1714951545, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:d46edfbc2cc063826cacab5e913a8dd2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ทางออกภาษีที่ดินฯ คือการเลี้ยงวัว?

รูปภาพของ pornchokchai
ทางออกภาษีที่ดินฯ คือการเลี้ยงวัว?
  AREA แถลง ฉบับที่ 091/2566: วันพุธที่ 01 กุมภาพันธ์ 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            ดร.โสภณ เสนอทางออกการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่  ให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งรัฐบาลและประชาชนโดยรวม แทนที่จะแสร้งทำการเกษตรเพื่อเลี่ยงภาษีอย่างน่าละอาย

 

            ตามที่มีข่าว “‘แลนด์ลอร์ด’ แห่จำแลงที่ดิน ตะลึงนำที่ร้างติด ’บีทีเอสบางหว้า’ เลี้ยงวัว เลี่ยงจ่ายภาษีแพง” (https://bit.ly/3wM2tnL) ปรากฏในรายละเอียดว่า “มีลงทุนเลี้ยงวัวเพียง 1 ตัว โดยสร้างพื้นที่คอก หรือเรือนนอน ขนาด 7 ตารางเมตรต่อตัว ก็เท่ากับเป็นการใช้ที่ดิน 5 ไร่ เป็นที่ดินเกษตรกรรม โดยมีให้เห็นแล้วบนที่ดินเปล่าติดสถานีบางหว้ารถไฟฟ้าบีทีเอส นับเป็นย่านทำเลทอง เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งบีทีเอสและสายสีน้ำเงิน” ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า “แปลงสภาพที่ดินรกร้างว่างเปล่าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้เข้าเกณฑ์ที่ดินเกษตรกรรม เพื่อจ่ายภาษีในอัตราที่ถูกลงจาก 0.3% เหลือ 0.01%”

 

 

            จากข้อมูลของกรมธนารักษ์ระบุว่าที่ดินแปลงดังกล่าว มีขนาด 1,321 ตารางวา มีราคาประเมินราชการอยู่ที่ 13,000 บาทต่อตารางวา หรือเป็นเงินรวม 17.173 ล้านบาท เมื่อเสียภาษีในเกณฑ์เกษตรกรรมที่ 0.01% ก็เป็นเงินเพียง 1,717.3 บาทต่อปี หรือเดือนละ 143.1 บาท ซึ่งต่ำกว่าค่าส่วนกลางในห้องชุดที่ประมาณ 40 บาทต่อตารางเมตร หรือเป็นเงินเดือนละประมาณ 1,200 บาท  กรณีนี้จึงถือเป็นการเอาเปรียบสังคมประการหนึ่ง

            ยิ่งถ้าหากพิจารณาจากราคาตลาด ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยประเมินไว้ว่าที่ดินติดถนนเพชรเกษตรตรงสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า น่าจะเป็นเงินตารางวาละ 350,000 บาท แต่ที่ดินแปลงนี้ไม่ติดถนนและตาบอด หากซื้อมารวมเพื่อพัฒนาที่ดิน ก็น่าจะเป็นเงินตารางวาละ 100,000 บาทตามราคาตลาด หรือเท่ากับเจ้าของที่ดินถือครองที่ดินไว้เป็นเงินประมาณ 132.1 ล้านบาท แต่เสียภาษีเพียงเดือนละ 143.1 บาท หรือปีละ 1,717.3 บาท หรือเท่ากับ 0.0013% เท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมาก

            ทางออกสำคัญประการหนึ่งก็คือการจัดเก็บภาษีตามราคาตลาด ไม่ใช่ราคาประเมินราชการ แต่ถ้าหากเกรงประชาชนจะเดือดร้อน ก็น่าจะลดอัตราภาษี เช่น เหลือ 0.1% ของมูลค่าตลาดทั้งนี้ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ เช่น ผู้ใดมีห้องชุดราคาถูกเพียง 500,000 บาท ก็เสียภาษีเพียง 500 บาท หรือเดือนละ  41.7 บาท ซึ่งไม่น่าจะเดือดร้อนอะไร แม้แต่รถจักรยานยนต์ ที่ไปต่อทะเบียนทุกปี ก็ต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ประมาณเกือบ 500 บาท จากราคารถเก่าที่ 50,000 บาท หรือราว 1% ซึ่งก็ไม่มีใครบ่นว่าภาษีสูงเกินไป  แม้แต่ชาวนาชาวไร่ที่มีที่ดิน 15 ไร่ๆ ละ 100,000 บาท ก็เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท หากต้องเสียภาษี 0.1% ก็เป็นเงินเพียงปีละ  1,500 บาท หรือเดือนละ 125 บาทเท่านั้น

            แต่ในทางตรงกันข้ามผู้ที่มีที่ดิน 1,000 ล้านบาทตามราคาตลาด การเสียภาษี 0.1% ก็อาจเป็นเงิน 1 ล้านบาท บางท่านอาจมองว่าเป็นเงินจำนวนมาก  เอาเงิน 1 ล้านบาทไป “เสพสุข” น่าจะได้ประโยชน์กว่าการเสียภาษี แต่เมื่อเทียบภาษีที่พึงเสียกับราคาทรัพย์แล้วก็ถือว่าต่ำมาก  ถ้าใครไม่มีรายได้พอที่จะจ่ายภาษี  แต่มีที่ดินหรือทรัพย์สมบัติราคาถึง 1,000 ล้านบาท ก็ควรขายบางส่วนหรือขายทั้งหมดเพื่อนำเงินมาเสียภาษี ซึ่งยังจะได้เงินไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่เอาเปรียบสังคม

 

 

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 513 คน กำลังออนไลน์