• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e227612d428053c839f796e37ffedcdd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div align=\"center\"><span class=\"size22 FTtext\" data-mce-mark=\"1\"><span data-mce-mark=\"1\">ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 2566-2567</span></span></div>\n<div align=\"center\">&nbsp;&nbsp;<span class=\"size13 FTtext color1\" data-mce-mark=\"1\"><span style=\"text-decoration: underline;\" data-mce-mark=\"1\">AREA แถลง</span>&nbsp;ฉบับที่ 087/2566: วันอังคารที่ 31 มกราคม 2566</span></div>\n<p>&nbsp;</p>\n<div class=\"box-position text-right\">ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย<br />ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย<br /><a href=\"https://www.area.co.th/thai/about.php#sopon\" target=\"_blank\">บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส</a>&nbsp;<a class=\"FTtext size12\" href=\"mailto:sopon@area.co.th\"><img src=\"https://www.area.co.th/images/img_icon/icon_areapress_06.jpg\" alt=\"sopon@area.co.th\" width=\"61\" height=\"18\" /></a>&nbsp;<a class=\"FTtext size12\" href=\"https://www.facebook.com/dr.sopon4\" target=\"_blank\"><img src=\"https://www.area.co.th/images/img_icon/icon_areapress_03.jpg\" alt=\"https://www.facebook.com/dr.sopon4\" width=\"\" height=\"20\" /></a></div>\n<div class=\"wf_pressdetail size15 wf_colortext\">\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัวชัดเจนในปี 2565 โดยมีจำนวนหน่วยขายและมูลค่าพอๆกับปี 2562 ก่อนไวรัสโควิดระบาด ทั้งนี้การฟื้นตัวดังกล่าวไม่ได้ใช้กำลังซื้อจากต่างชาติเลย ดร.โสภณ ยังประเมินปัจจัยบวกและลบสำหรับปี 2566-2567</p>\n<div id=\"bannerPressID\" class=\"no-print col-xs-12 col-sm-12 col-md-12 col-lg-12\">\n<div class=\"embed-responsive embed-responsive-16by9\">&nbsp;</div>\n</div>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (<a href=\"http://www.area.co.th/\">www.area.co.th</a>) ได้สรุปการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งเพิ่งสำรวจเสร็จในกลางเดือนมกราคม 2566 โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ปี&nbsp;</span><span data-mce-mark=\"1\">2565</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; จากตารางจะพบว่าตั้งแต่มกราคม-ธันวาคม 2565 มีจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 429 โครงการ โดยเป็นโครงการประเภทที่อยู่อาศัยจำนวน 421 โครงการ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ จำนวน 8 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายทั้งหมดที่ขายในตลาดรวมกันถึง 107,183 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนารวมจำนวน 474,596 ล้านบาท มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 4.428 ล้านบาท</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/01/cats-89.jpg\" alt=\"\" width=\"612\" height=\"446\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ในเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีจำนวนโครงการมากที่สุด 54 โครงการ ส่วนเดือนที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายมากสุดคือเดือนมิถุนายนด้วยจำนวน 12,603 หน่วย (11.8%) มีมูลค่าโครงการรวม 43,940 ล้านบาท (9.3%) เนื่องจากในเดือนนี้มีการเปิดขายแนวราบและอาคารชุดราคาถูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดให้บริการ จึงทำให้ภาพรวมของเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายสูงกว่าเดือนอื่นๆ ส่วนราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 มีราคาขายเฉลี่ยที่ 4.428 ล้านบาท&nbsp; ลดลงปี 2564 ที่ราคาเฉลี่ย 4.653 ล้านบาท (-4.8%) โดยหากพิจารณาเฉพาะราคาเฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่อาศัยจะมีราคาเฉลี่ยที่ 4.412 ล้านบาท&nbsp; และถ้าเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ จะมีราคาเฉลี่ยที่ 22.893 ล้านบาท</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/01/cats-90.jpg\" alt=\"\" width=\"571\" height=\"265\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/01/cats-91.jpg\" alt=\"\" width=\"646\" height=\"369\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">การเปรียบเทียบการเปิดตัวใหม่</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; จะเ ห็นได้ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 472,466 ล้านบาท รวม 107,090 หน่วย ซึ่งเกือบเท่าปี 2562 (ก่อนโควิด-19) แล้ว แสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลฟื้นตัวแล้ว เป็นการฟื้นตัวโดยไม่ได้อาศัยกำลังซื้อต่างชาติเป็นสำคัญ ที่คาดว่าต่างชาติจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั่นเอง</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/01/cats-92.jpg\" alt=\"\" width=\"633\" height=\"504\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">จำนวนหน่วยเหลือขาย</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ขณะนี้มีจำนวนหน่วยเหลือขายในตลาดอยู่ทั้งหมด 218,846 หน่วย โดย แยกเป็นห้องชุด 39% ทาวน์เฮาส์ 34% บ้านเดี่ยว 16% และบ้านแฝด 9% นอกนั้นเป็นอื่นๆ</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><img src=\"https://soponpornchokchai.files.wordpress.com/2023/01/cats-93.jpg\" alt=\"\" width=\"637\" height=\"359\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การที่มีหน่วยเหลือขายอยู่มากเช่นนี้ในแง่หนึ่งอาจไม่จำเป็นต้องผลิตใหม่มากนัก และหน่วยเหล่านี้กว่าจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลาอีก 2-3 ปี ควรมีมาตรการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้าน เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านมั่นใจและจะมาซื้อบ้านมากขึ้น</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">กรณีต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ในปี&nbsp; 2565 ต่างชาติซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 4,203 หน่วย จากการขายทั้งหมด 51,093 หน่วย หรือประมาณ 8% รวมมูลค่า 20,364 ล้านบาท จากมูลค่าที่ขายทั้งหมด 183,910 ล้านบาท&nbsp; หรือประมาณ 11% โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 4.845 ล้านบาท สูงกว่าราคาเฉลี่ยที่คนไทยซื้ออยู่บ้าง โดยราคาเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 3.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากเป็นมาประเทศมาเลเซีย ได้กำหนดราคาที่อยู่อาศัยที่ต่างชาติซื้อ ต้องไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านริงกิต (8-16 ล้านบาท) ขึ้นไปเป็นหลัก เพื่อจะได้ไม่แข่งซื้อกับประชาชนทั่วไป</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ในปี 2562 ต่างชาติซื้อห้องชุดประมาณ 15% ของมูลค่าตลาดห้องชุดทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และลดลงเหลือ 3.5% และ 5.4% ในปี 2563 และ 2564 (ช่วงโควิด) และปี 2565 กลับฟื้นมาที่ 11% คาดว่าในปี 2566 อาจจะกลับมาตามสัดส่วนเดิมคือ 15% โดยปกติแล้วโครงการอาคารชุดจะมีผู้ซื้ออยู่จริงชาวไทยเพียงสองในสาม อีก 20% เป็นนักเก็งกำไร และอีก 15% เป็นนักลงทุนต่างชาติ</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; หากประเมินจำนวนที่อยู่อาศัยโดยรวมที่ต่างชาติซื้อ (รวมแนวราบด้วย) คงจะมีสัดส่วนไม่เกิน 5% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และหากพิจารณาในขอบเขตทั่วประเทศสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ สัดส่วนที่ต่างชาติซื้อคงไม่เกิน 3% ของที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรทั้งหมด แสดงว่ากำลังซื้อของต่างชาติคงไม่ได้มากระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เท่าที่ควร&nbsp; ความพยายามที่จะให้ต่างชาติซื้อบ้านจึงอาจทำให้เพียง “ต่างชาติสีเทา” ได้มีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องเท่านั้น</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">ปัจจัยบวกปี&nbsp;</span><span data-mce-mark=\"1\">2566</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ปัจจัยบวกปี 2566 ได้แก่</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1. มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2. ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังมี Real Demand และกลุ่มนักลงทุนที่มีความพร้อม</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. การเปิดประเทศ การดึงดูดกำลังซื้อต่างชาติ</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">ปัจจัยลบปี&nbsp;</span><span data-mce-mark=\"1\">2566</span></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ปัจจัยลบในปี 2566 ได้แก่:</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1. ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2. หนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. ภาวะเงินเฟ้อสูง</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4. ต้นทุนการพัฒนาโครงการเพิ่มสูงขึ้น (แต่ไตรมาสที่ 3 ต้นทุนค่าก่อสร้างติดลบ 0.69%</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 5. ดอกเบี้ยขาขึ้น และมาตรการ LTV สิ้นสุด</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 6. ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 7. การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดแนวราบ</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 8. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จัดเก็บในอัตราปกติ</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span data-mce-mark=\"1\">ทางออกสำหรับการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัย</span><br />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 1. รัฐบาลเปิดให้สถาบันการเงินต่างชาติมาแข่งขันกับธนาคารไทย ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2. รัฐบาลควรจัดผังเมืองใหม่ ไม่ใช่อนุญาตให้สร้างที่อยู่อาศัยได้ทุกบริเวณที่ต้องการ</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. รัฐบาลควรเวนคืนที่ดินมาสร้างเมืองใหม่ และจัดสรรที่ดินให้ภาคเอกชนพัฒนาที่ดินเป็นแปลงๆ ไป</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4. รัฐบาลควรเร่งปราบปราม “ต่างชาติสีเทา” ที่เขามาซื้อบ้านและทำลายความมั่นคงของประเทศในระยะยาว ในออสเตรเลีย ถ้าพบต่างชาติขายบ้านมือสองให้คนต่างชาติกันเอง ต้องโทษปรับ 3 ล้านบาทเศษและจำคุกอีก 3 ปี แต่ในไทย แม้แต่สวมบัตรประชาชนก็ยังมีดาดดื่น</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4. ให้มีมาตรการคุ้มครองเงินดาวน์และผลประโยชน์จากคู่สัญญา ทำให้นักพัฒนาที่ดินมีความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อบ้านมากขึ้น เป็นการสร้าง Brand ทำให้ผู้ซื้อบ้านเชื่อถือมากขึ้น จะส่งผลให้ประชาชนแห่ซื้อบ้านมากขึ้น</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 5. ตามแบบแผนอารยประเทศ ให้มีมาตรการภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านจากต่างประเทศ เช่น 20% ของราคาขาย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1-3% ของราคาขาย ภาษีกำไรจากการขาย 20% ภาษีมรดก 20-50% ของมูลค่า (เฉพาะชาวต่างประเทศ)</p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 6. กำหนดให้ชาวต่างชาติจะขายต่อได้ก็เฉพาะต่อคนไทย ห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านมือสองเพื่อไม่ให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น และให้ขายต่อได้ก็ต่อเมื่อซื้อมาแล้วเกิน 3 ปี เป็นต้น</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p><span>ผู้แถลง:</span><br /><span>ดร.โสภณ พรโชคชัย (</span><a href=\"mailto:sopon@area.co.th\">sopon@area.co.th</a><span>) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (</span><a href=\"https://www.area.co.th/\" target=\"_blank\">www.area.co.th</a><span>): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน</span></p>\n</div>\n', created = 1714898452, expire = 1714984852, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e227612d428053c839f796e37ffedcdd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 2566-2567

รูปภาพของ pornchokchai
ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย 2566-2567
  AREA แถลง ฉบับที่ 087/2566: วันอังคารที่ 31 มกราคม 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัวชัดเจนในปี 2565 โดยมีจำนวนหน่วยขายและมูลค่าพอๆกับปี 2562 ก่อนไวรัสโควิดระบาด ทั้งนี้การฟื้นตัวดังกล่าวไม่ได้ใช้กำลังซื้อจากต่างชาติเลย ดร.โสภณ ยังประเมินปัจจัยบวกและลบสำหรับปี 2566-2567

 

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สรุปการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งเพิ่งสำรวจเสร็จในกลางเดือนมกราคม 2566 โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

 

การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ปี 2565

            จากตารางจะพบว่าตั้งแต่มกราคม-ธันวาคม 2565 มีจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 429 โครงการ โดยเป็นโครงการประเภทที่อยู่อาศัยจำนวน 421 โครงการ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ จำนวน 8 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายทั้งหมดที่ขายในตลาดรวมกันถึง 107,183 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนารวมจำนวน 474,596 ล้านบาท มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 4.428 ล้านบาท

 

 

            ในเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีจำนวนโครงการมากที่สุด 54 โครงการ ส่วนเดือนที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายมากสุดคือเดือนมิถุนายนด้วยจำนวน 12,603 หน่วย (11.8%) มีมูลค่าโครงการรวม 43,940 ล้านบาท (9.3%) เนื่องจากในเดือนนี้มีการเปิดขายแนวราบและอาคารชุดราคาถูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดให้บริการ จึงทำให้ภาพรวมของเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายสูงกว่าเดือนอื่นๆ ส่วนราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 มีราคาขายเฉลี่ยที่ 4.428 ล้านบาท  ลดลงปี 2564 ที่ราคาเฉลี่ย 4.653 ล้านบาท (-4.8%) โดยหากพิจารณาเฉพาะราคาเฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่อาศัยจะมีราคาเฉลี่ยที่ 4.412 ล้านบาท  และถ้าเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ จะมีราคาเฉลี่ยที่ 22.893 ล้านบาท

 

 

 

การเปรียบเทียบการเปิดตัวใหม่

            จะเ ห็นได้ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 472,466 ล้านบาท รวม 107,090 หน่วย ซึ่งเกือบเท่าปี 2562 (ก่อนโควิด-19) แล้ว แสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลฟื้นตัวแล้ว เป็นการฟื้นตัวโดยไม่ได้อาศัยกำลังซื้อต่างชาติเป็นสำคัญ ที่คาดว่าต่างชาติจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั่นเอง

 

 

จำนวนหน่วยเหลือขาย

            ขณะนี้มีจำนวนหน่วยเหลือขายในตลาดอยู่ทั้งหมด 218,846 หน่วย โดย แยกเป็นห้องชุด 39% ทาวน์เฮาส์ 34% บ้านเดี่ยว 16% และบ้านแฝด 9% นอกนั้นเป็นอื่นๆ

 

 

            การที่มีหน่วยเหลือขายอยู่มากเช่นนี้ในแง่หนึ่งอาจไม่จำเป็นต้องผลิตใหม่มากนัก และหน่วยเหล่านี้กว่าจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลาอีก 2-3 ปี ควรมีมาตรการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้าน เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านมั่นใจและจะมาซื้อบ้านมากขึ้น

 

กรณีต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์

            ในปี  2565 ต่างชาติซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 4,203 หน่วย จากการขายทั้งหมด 51,093 หน่วย หรือประมาณ 8% รวมมูลค่า 20,364 ล้านบาท จากมูลค่าที่ขายทั้งหมด 183,910 ล้านบาท  หรือประมาณ 11% โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 4.845 ล้านบาท สูงกว่าราคาเฉลี่ยที่คนไทยซื้ออยู่บ้าง โดยราคาเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 3.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากเป็นมาประเทศมาเลเซีย ได้กำหนดราคาที่อยู่อาศัยที่ต่างชาติซื้อ ต้องไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านริงกิต (8-16 ล้านบาท) ขึ้นไปเป็นหลัก เพื่อจะได้ไม่แข่งซื้อกับประชาชนทั่วไป

            ในปี 2562 ต่างชาติซื้อห้องชุดประมาณ 15% ของมูลค่าตลาดห้องชุดทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และลดลงเหลือ 3.5% และ 5.4% ในปี 2563 และ 2564 (ช่วงโควิด) และปี 2565 กลับฟื้นมาที่ 11% คาดว่าในปี 2566 อาจจะกลับมาตามสัดส่วนเดิมคือ 15% โดยปกติแล้วโครงการอาคารชุดจะมีผู้ซื้ออยู่จริงชาวไทยเพียงสองในสาม อีก 20% เป็นนักเก็งกำไร และอีก 15% เป็นนักลงทุนต่างชาติ

            หากประเมินจำนวนที่อยู่อาศัยโดยรวมที่ต่างชาติซื้อ (รวมแนวราบด้วย) คงจะมีสัดส่วนไม่เกิน 5% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และหากพิจารณาในขอบเขตทั่วประเทศสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ สัดส่วนที่ต่างชาติซื้อคงไม่เกิน 3% ของที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรทั้งหมด แสดงว่ากำลังซื้อของต่างชาติคงไม่ได้มากระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เท่าที่ควร  ความพยายามที่จะให้ต่างชาติซื้อบ้านจึงอาจทำให้เพียง “ต่างชาติสีเทา” ได้มีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องเท่านั้น

 

 

ปัจจัยบวกปี 2566

            ปัจจัยบวกปี 2566 ได้แก่

            1. มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

            2. ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังมี Real Demand และกลุ่มนักลงทุนที่มีความพร้อม

            3. การเปิดประเทศ การดึงดูดกำลังซื้อต่างชาติ

 

ปัจจัยลบปี 2566

            ปัจจัยลบในปี 2566 ได้แก่:

            1. ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน

            2. หนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง

            3. ภาวะเงินเฟ้อสูง

            4. ต้นทุนการพัฒนาโครงการเพิ่มสูงขึ้น (แต่ไตรมาสที่ 3 ต้นทุนค่าก่อสร้างติดลบ 0.69%

            5. ดอกเบี้ยขาขึ้น และมาตรการ LTV สิ้นสุด

            6. ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน

            7. การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดแนวราบ

            8. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จัดเก็บในอัตราปกติ

 

ทางออกสำหรับการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัย
            1. รัฐบาลเปิดให้สถาบันการเงินต่างชาติมาแข่งขันกับธนาคารไทย ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง

            2. รัฐบาลควรจัดผังเมืองใหม่ ไม่ใช่อนุญาตให้สร้างที่อยู่อาศัยได้ทุกบริเวณที่ต้องการ

            3. รัฐบาลควรเวนคืนที่ดินมาสร้างเมืองใหม่ และจัดสรรที่ดินให้ภาคเอกชนพัฒนาที่ดินเป็นแปลงๆ ไป

            4. รัฐบาลควรเร่งปราบปราม “ต่างชาติสีเทา” ที่เขามาซื้อบ้านและทำลายความมั่นคงของประเทศในระยะยาว ในออสเตรเลีย ถ้าพบต่างชาติขายบ้านมือสองให้คนต่างชาติกันเอง ต้องโทษปรับ 3 ล้านบาทเศษและจำคุกอีก 3 ปี แต่ในไทย แม้แต่สวมบัตรประชาชนก็ยังมีดาดดื่น

            4. ให้มีมาตรการคุ้มครองเงินดาวน์และผลประโยชน์จากคู่สัญญา ทำให้นักพัฒนาที่ดินมีความรับผิดชอบต่อผู้ซื้อบ้านมากขึ้น เป็นการสร้าง Brand ทำให้ผู้ซื้อบ้านเชื่อถือมากขึ้น จะส่งผลให้ประชาชนแห่ซื้อบ้านมากขึ้น

            5. ตามแบบแผนอารยประเทศ ให้มีมาตรการภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านจากต่างประเทศ เช่น 20% ของราคาขาย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1-3% ของราคาขาย ภาษีกำไรจากการขาย 20% ภาษีมรดก 20-50% ของมูลค่า (เฉพาะชาวต่างประเทศ)

            6. กำหนดให้ชาวต่างชาติจะขายต่อได้ก็เฉพาะต่อคนไทย ห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านมือสองเพื่อไม่ให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น และให้ขายต่อได้ก็ต่อเมื่อซื้อมาแล้วเกิน 3 ปี เป็นต้น

 

 

 

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 540 คน กำลังออนไลน์