ตลาดอสังหาฯ กำลังบูมโดยไม่พึ่งกำลังซื้อต่างชาติ

รูปภาพของ pornchokchai
ตลาดอสังหาฯ กำลังบูมโดยไม่พึ่งกำลังซื้อต่างชาติ
  AREA แถลง ฉบับที่ 073/2566: วันพุธที่ 25 มกราคม 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            โครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ตลอดปี 2565 จะเปิดรวมถึง รวมจำนวน 111,740 หน่วย มีมูลค่ารวม 480,000 ล้านบาท นับว่าบูมเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 เมื่อปี 2562 แล้ว ทั้งนี้มีกำลังซื้อต่างชาติแค่ 5% ทั่วประเทศคงไม่ถึง 2%

 

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าจากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องที่สุดตั้งแต่ปี 2537 และสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยทุกไตรมาสพบว่า จำนวนโครงการที่เปิดใหม่ 11 เดือนแรก 2565 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 387 โครงการ มากกว่า 11 เดือนแรก 2564 จำนวน 105 โครงการ หรือเพิ่มขึ้น 37.2% (11 เดือนแรก 2564 มีจำนวน 282 โครงการ) มีมูลค่าโครงการรวม 441,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177,667 ล้านบาท หรือ 67.4% (11 เดือนแรก 2564 มีมูลค่า 263,796 ล้านบาท) มีจำนวนหน่วยขายรวม 100,417 หน่วย เพิ่มขึ้น 43,391 หน่วย หรือเพิ่ม 76.1% (11 เดือนแรก 2564 มีจำนวน 57,026 หน่วย)

 

 

            ดร.โสภณ ประมาณการว่าจำนวนโครงการที่เปิดใหม่ทั้งปี 2565 อาจมีจำนวนโครงการรวม 430 โครงการ มีจำนวนหน่วยรวม 111,740 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 480,000 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 4.296 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังคงอยู่ แต่เมื่อมีการเปิดประเทศ มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศ จึงส่งผลให้ผู้ประกอบพากันกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่กันอย่างคึกคักอีกครั้ง

            กรณีนี้ชี้ได้อย่างชัดเจนว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกำลังอยู่ในขั้น “บูม” และจะ “บูม” เช่นนี้ต่อไปอีก 1-2 ปี จนถึงช่วง “ฟองสบู่แตก” ในเวลาต่อมา (ราวปี 2567-8)  ยิ่งกว่านั้นในขณะนี้บริษัทมหาชนหลายแห่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15-25% ของรายได้ ซึ่งนับว่าสูงมากโดยไม่ต้องอาศัยกำลังซื้อใดๆ จากต่างประเทศเลย กำลังซื้อหลักอยู่ภายในประเทศ จึงไม่มีความจำเป็นต้องให้ต่างชาติซื้อห้องชุดและที่ดินในไทย

            สำหรับจำนวนที่อยู่อาศัยที่ซื้อโดยชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในรูปห้องชุดปี 2565 นี้ทั้งปี น่าจะมีจำนวนไม่เกิน 6,000 หน่วย หรือประมาณ 5% ของทั้งหมด แสดงให้เห็นชัดว่าต่างชาติมีส่วนในการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยมาก  หากแม้ว่ามีการอนุญาตให้ต่างชาติมาซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างเสรี ก็คงมีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของที่อยู่อาศัย ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ ได้อยู่ดี

            ข้ออ้างที่ว่าหากไม่มีต่างชาติมาช่วยซื้ออสังหาริมทรัพย์ จะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ หรืออ้างว่าหากต่างชาติมาซื้อมากๆ ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น  ขณะนี้ประเทศไทยของเรายังไม่ได้ให้ต่างชาติซื้อมากมาย และจีนก็ยังเข้ามาในไทยไม่มากนัก ก็ยังมีกำลังซื้อในประเทศอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน การอ้างว่ามีความต้องการกำลังซื้อจากต่างประเทศมาทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นจึงเป็นข้ออ้างที่ไม่จริง

            ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมดในช่วง 9 เดือนของปี 2565 มียอดโอน 69,391 หน่วย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ประมาณ 10.5%  ยอดโอนไม่ได้สะท้อนภาวะตลาด เพราะสิ่งที่สะท้อนภาวะตลาดก็คือ การเปิดตัวโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2565 จำนวน 111,740 มากกว่าปี 2564 ที่เปิดตัวเพียง 60,000 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ซึ่งเป็นการยืนยันชัดว่าตลาดกำลังเติบโตอย่างชัดเจนแล้ว  ตัวเลขการโอนไม่ได้ชี้ภาวะตลาด เพราะการซื้อขายจริงอาจเกิดขึ้นมานานแล้ว  เพียงแต่เพิ่งโอนเท่านั้น

            ดร.โสภณเสนอให้ไทยมีมาตรการที่ดีก่อนคิดให้ต่างชาติมาครองอสังหาริมทรัพย์ เช่น ให้มีภาษีซื้อ 30-35% เช่น สิงคโปร์ ให้กำหนดราคาขั้นต่ำเช่นในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ให้จำกัดให้ต่างชาติซื้อได้แต่บ้านมือหนึ่ง เช่น ออสเตรเลีย หรืออนุญาตให้เช่าได้แค่ 70 ปี เช่น จีน และที่สำคัญ รัฐควรมีมาตรการการจัดเก็บภาษีซื้อ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (1-3% ของราคาตลาดทุกปี) ภาษีกำไรจากการขายต่อ (20% ของราคาขายต่อตามราคาตลาด) และภาษีมรดก (10-55% ของกองมรดก) ถ้ารัฐไม่ดำเนินการ ก็เท่ากับเราให้สิทธิพิเศษแก่ชาวต่างชาติ เพราะคนไทยไปลงทุนซื้อบ้านในยุโรปและอเมริกา ต่างต้องเสียภาษีเหล่านี้

 

 

 

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 476 คน กำลังออนไลน์